ร.ร.สังกัด ศธ.ในระยองสั่งปิดเรียน 186 แห่ง หลังเสี่ยงโควิด-19 ระบาดรอบ 2
ตามที่ ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (ศบค.)แถลงตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 รายใหม่ เป็นทหารอียิปต์ อายุ 43 ปี ที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยพร้อมกับคณะลูกเรืออีก 30 คน ได้เข้าพักในสถานกักกันที่โรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดระยอง และในระหว่างนั้นทหารที่ติดเชื้อและคณะได้เดินทางออกจากสถานที่กักกันไปยังสถานที่ต่างๆ รวมทั้ง ห้างสรรพสินค้าในเขตอ.เมือง จ.ระยองนั้น
เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม นายอำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้กำชับผู้อำนวยการโรงเรียนให้ดูแลความปลอดภัยของนักเรียน หากเห็นว่าสถานการณ์มีความสุ่มเสี่ยง ให้สั่งปิดสถานศึกษาได้ทันที และต้องรายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดรับทราบ โดยใช้ระบบที่มีอยู่จัดการเรียนการสอน ทั้งระบบออนไลน์ และออนแอร์ โดยครูต้องหากิจกรรมส่งเสริมการอ่านให้กับเด็กด้วย เพื่อให้จัดการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะนี้ทราบว่ามีโรงเรียนสั่งปิดบ้างแล้ว
นายอำนาจกล่าวต่อว่า ส่วนโรงเรียนที่ไม่มีอาคารเรียนใน จ.มหาสารคาม เพราะถูกโยกงบประมาณไปใช้แก้ปัญหาวิกฤตโควิด-19 จากการสอบถาม พบว่าโรงเรียนดังกล่าวยังมีอาคารให้เรียน ส่วนภาพที่ออกมาว่านักเรียนนั่งเรียนในเต็นท์นั้น ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะอะไร แต่เท่าที่ได้รับแจ้ง เต็นท์ดังกล่าวใช้สำหรับการคัดกรองเด็กเข้าเรียน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ทั้งนี้ เข้าใจว่าโรงเรียนต้องการงบเพื่อสร้างอาคารต่อ แต่แม้จะได้งบในตอนนี้ ก็ต้องใช้เวลาในการก่อสร้าง ส่วนจะมีโรงเรียนอื่นเพิ่มหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบ
นายประเสริฐ บุญเรือง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในฐานะโฆษก ศธ.กล่าวว่า ศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) ระยอง ได้รายงานว่ามีสถานศึกษาใน จ.ระยอง รวม 274 แห่ง ดังนี้ สถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) 11 แห่ง ปิด 11 แห่ง โรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) 223 แห่ง ปิด 146 แห่ง โรงเรียนเอกชนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) จำนวน 32 แห่ง ปิด 27 แห่ง และสถานศึกษาสังกัดสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) 8 แห่ง ปิด 2 แห่ง รวมปิดทั้งหมด 186 แห่ง
“ในส่วนของกรุงเทพฯ ผมได้รับรายงานว่ามีโรงเรียน 3 แห่งแจ้งปิด ได้แก่ โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย เป็นเวลา 1 วัน คือ วันที่ 15 กรกฏาคม เนื่องจากมีนักเรียนเป็นกลุ่มเสี่ยงของการแพร่ระบาด และโรงเรียนสายน้ำทิพย์ และโรงเรียนสายน้าผึ้ง ที่สั่งปิดด้วยเหตุพิเศษตั้งแต่วันที่ 15-17 กรกฏาคม เพราะพบว่าผู้ติดเชื้อโควิด-19 เข้าพักอาศัยบริเวณใกล้เคียงสถานศึกษา และเดินทางไปหลายสถานที่รอบๆ สถานศึกษา” นายประเสริฐ กล่าว
ด้านนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการ ศธ.กล่าวว่า อยากให้กำลังใจผู้ที่ทำงานทุกคน ที่ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศเป็นศูนย์มาเป็นเวลานาน ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะประธานผลศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ประจำจังหวัด สามารถสั่งปิดสถานศึกษาได้หากมีความเสี่ยง ทั้งนี้ ได้รับรายงานจาก ศธจ.ว่ามีโรงเรียนสังกัด สพฐ.เกือบทั้งหมดต้องการปิดการเรียนการสอน เนื่องจากพบบุคลากรทางการศึกษา เช่น ครู เข้าไปในพื้นที่เสี่ยงที่ผู้ติดเชื้อโควิด-19 อาจเดินทางไปด้วย ทั้งนี้ อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลว่ามีโรงเรียน หรือวิทยาลัยอาชีวศึกษา หรือสถานศึกษาในสังกัดอื่นๆ แจ้งปิดมากี่แห่ง
นายณัฏฐพลกล่าวอีกว่า เมื่อเรื่องนี้เกิดขึ้น ได้สะท้อนให้เห็นว่าการเตรียมความพร้อมตามที่ ศธ.เตรียมมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นการเรียนทางออนแอร์โดยผ่านโทรทัศน์ และระบบออนไลน์ ได้ถูกนำมาใช้ในสถานการณ์ความเสี่ยงหากเชื้อโควิด-19 กลับมาระบาดในรอบ 2 อีกครั้ง ทั้งนี้ แม้จะมีการปิดโรงเรียน แต่การเรียนการสอนยังคงเดินหน้าต่อ ด้วยการเรียนผ่านออนแอร์ และออนไลน์ ตามที่โรงเรียนวางแผนไว้
“การปิดสถานศึกษาจะส่งผลให้นักเรียนขาดความต่อเนื่องในการเรียนรู้หรือไม่ ผมมองว่าที่ผ่านมา ศธ.เตรียมความพร้อมกับการเรียนออนแอร์ และออนไลน์มาแล้ว ถือเป็นการเรียนรู้ที่ครอบคลุมในสาขาวิชาต่างๆ อย่างไรก็ตาม หากเกิดเหตุการณ์ในจังหวัดอื่นๆ เหมือนที่ จ.ระยอง ผู้ว่าฯ เป็นผู้ตัดสินใจร่วมกับคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) ในการปิดสถานศึกษา เพื่อทำความสะอาด และป้องกันการแพร่ระบาดของโรคต่อไป” นายณัฏฐพล กล่าว
