3 รัฐมนตรี ปชป. ลงพื้นที่ติดตามการสร้าง ‘อควาเรียมหอยสังข์’ เร่งพัฒนาคาดอีก 3 ปี เปิดทำการ
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 9 สิงหาคม ที่วิทยาลัยประมงติณสูลานนท์ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คุณหญิงกัลยา โสภณพานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และนายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่เพื่อติดตามปัญหาโครงการก่อสร้างศูนย์ศึกษาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทะเลสาบสงขลา หรืออควาเรียมหอยสังข์ ที่ก่อสร้างมานานกว่า 10 ปี จนถึงขณะนี้ยังไม่แล้วเสร็จ โดยมีคณะทำงานของรัฐมนตรีช่วยว่าการ ศธ. ได้นำเสนอผลการศึกษาและความเป็นไปได้ในการพัฒนาอควาเรียมหอยสังข์แห่งนี้ในอนาคต ภายใต้แนวคิดอควาเรียมระดับโลก ฐานปฏิบัติการสร้างครัวทะเลไทยสู่ครัวทะเลโลก
นายพงษ์พันธ์ สุริยภัทร คณะทำงานและแผนงาน รัฐมนตรีช่วยว่าการ ศธ. กล่าวว่า ได้ทำการศึกษาความเป็นไปได้รวมถึงแนวทางในการพัฒนาอควาเรียมหอยสังข์ในอนาคต โดยเตรียมที่จะพัฒนาให้อควาเรียมหอยสังข์ มีความสามารถในการแข่งขันกับอควาเรียมในระดับโลกได้ ด้วยศักยภาพที่มีความพร้อม ทั้งความมี 3 น้ำ ทั้งน้ำจืดน้ำกร่อยและน้ำเค็ม ซึ่งอาจจะเป็นอควาเรียมแห่งเดียวของโลกก็ว่าได้ ทั้งนี้มองว่าควรจะมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้แล้วเสร็จเสียก่อน ก่อนที่จะดำเนินการในด้านของการประชาสัมพันธ์ โดยคาดว่า หากมีการก่อสร้างแล้วเสร็จนั้น จะสามารถดึงดูดประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งในพื้นที่และใกล้เคียงเข้ามาท่องเที่ยวได้อย่างดี อย่างไรก็ตามจากการสำรวจเบื้องต้นนั้นพบว่า โครงสร้างพื้นฐาน ตัวอาคาร ยังค่อนข้างสมบูรณ์แม้จะถูกทิ้งร้างมานานกว่า 10 ปี แต่ในส่วนสถาปัตยกรรมนั้น ใช้ได้ประมาณ ร้อยละ 70 ในส่วนอื่นๆ นั้นใช้ได้เฉลี่ยร้อยละ 15-30
สำหรับอควาเรียมหอยสังข์นั้น ได้มีการวางแผนสำรวจเพื่อทำโครงการมาตั้งแต่ปีงบประมาณ 2536 เริ่มดำเนินการก่อสร้าง ปีงบประมาณ 2550 ใช้เวลาก่อสร้างมาจนถึงขณะนี้ โดยใช้งบประมาณไปทั้งสิ้นกว่า 1,200 ล้านบาท แต่ก็ยังไม่แล้วเสร็จ โดยเครือข่ายภาคประชาชนในจังหวัดสงขลา ได้ออกมาเรียกร้องให้มีการตรวจสอบทุจริตรวมถึงร้องขอให้ก่อสร้างโครงการให้แล้วเสร็จ มาตั้งแต่ปลายปี 2560 เนื่องจาก เกรงว่าอควาเรียมหอยสังข์จะกลายเป็นอนุสาวรีย์เท่านั้น แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีแนวทางที่จะชัดเจนว่าจะดำเนินการอย่างไรหรือไม่
คุณหญิงกัลยา กล่าวว่า ได้ขออนุญาตรัฐมนตรีว่าการก ศธ. ในการส่งผู้เชี่ยวชาญไปดูอควาเรียมในต่างประเทศ จนได้ข้อสรุปเบื้องต้นมา ซึ่งมองว่าเป็นการลงทุนก็ไม่ได้มากนัก ถ้าได้ตามผลจากการศึกษาก็จะเป็นเรื่องที่บวก ทุกคนวินหมด จะเป็นอควาเรียมที่จะให้มากกว่าอควาเรียม เพราะอควาเรียมแห่งนี้เรามีคุณสมบัติมากกว่าคุณสมบัติ 7 อย่างที่อควาเรียมที่ดีจะต้องมี โดยการนำเสนอผลการศึกษาในครั้งนี้ ไม่ได้เป็นครั้งสุดท้าย แต่อยากให้รับทราบความเห็นในทุกมิติ ได้นำเสนอ พูดคุย ที่จะมีการปรับปรุงแก้ไข เพื่อให้มีการสร้างประวัติหน้าใหม่ของชุมชน การศึกษาและการอยู่ดีกินดีของประชาชน
“มองว่าสถานที่ตั้งของเราไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร ควรจะใช้ลักษณะพิเศษของเรา มาพัฒนาให้ดีกว่าอะควอเรียมในประเทศอื่นๆ ที่เคยทำเอาไว้ จะทำให้เราสามารถเดินหน้าไปได้ เบื้องต้น คาดว่ามีความเป็นไปได้ ที่จะสามารถเปิดให้บริการในอีกไม่เกิน 3 ปี แต่จะช้าหรือเร็ว เราควรจะสรุปว่าเราจะเดินไปทางไหน จะได้ผลักดันให้โครงการนี้เกิดขึ้นโดยเร็ว” คุณกัลยา กล่าว
