กพฐ.แจงจำกัดนักเรียนห้องละ 40 คนช่วยโรงเรียน ‘ผอ.เทพศิรินทร์’ แนะยืดหยุ่นให้ รร.ยอดนิยม

กพฐ.แจงจำกัดนักเรียน ห้องละ 40 คนช่วยโรงเรียน ‘ผอ.เทพศิรินทร์’ แนะยืดหยุ่นให้ รร.ยอดนิยม

เมื่อวันที่ 21 กันยายน กรณีร่างนโยบายและแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการรับนักเรียน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ประจำปีการศึกษา 2564 มีมติให้การรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และ ม.4 ในปีการศึกษา 2564 จำกัดการรับนักเรียนจำนวนไม่เกิน 40 คนต่อห้อง โดยห้ามมีการขยายห้องเรียน ส่วนการรับนักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 1 มีมติห้ามใช้วิธีการสอบแข่งขันเข้าเรียนชั้นป.1 ในโรงเรียนสังกัดสพฐ. โดยให้ใช้วิธีการสอบสัมภาษณ์ผู้ปกครองแทน นายเอกชัย กี่สุขพันธ์ ประธานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผย เมื่อวันที่ 20 กันยายน ว่า การที่มีมติให้โรงเรียนรับนักเรียนไม่เกิน 40 คนต่อห้อง เพราะที่ประชุม กพฐ.มองว่าถ้าปล่อยให้โรงเรียนดังรับนักเรียนเกิน 40 คนต่อห้อง โรงเรียนที่อยู่รอบๆ จะไม่มีเด็กเข้าเรียน และการสอนในอนาคตจะใช้หลักสูตรสมรรถนะ ฉะนั้นจำนวนนักเรียนที่ลดลงอาจจะเป็นประโยชน์ต่อครูที่จัดการเรียนการสอนด้วย และที่ประชุมมองว่าในปีการศึกษา 2565 อาจจะลดจำนวนนักเรียนเหลือ 35 คนต่อห้อง เพราะขณะนี้โรงเรียนดังในกรุงเทพฯ จำนวนนักเรียนลดลงมาก จากพันคนต่อปีเหลือเพียงหลักร้อยคน และถ้าโรงเรียนเหล่านี้ยังรับนักเรียน 45 คนต่อห้องอยู่ เมื่อนักเรียนน้อยลง ก็จะไม่มีนักเรียนเหลือไปให้โรงเรียนรอบข้างเลย

“เหตุผลที่จำกัดจำนวนนักเรียนเหลือ 40 คนต่อห้อง จะมีประโยชน์ต่อโรงเรียนเอกชนที่สามารถอยู่ได้ โรงเรียนรัฐบาลรอบๆ มีนักเรียน และครูจะสอนไม่เหนื่อย เพราะไม่รับภาระการสอนเหมืแนกับการสอนนักเรียน 45 คนต่อห้อง ครูมีความสุขกับการสอน ทั้งนี้ทุกอย่างขึ้นอยู่บนพื้นฐานที่ว่า ถ้าเราเชื่อว่าโรงเรียนทุกแห่งมีคุณภาพ ทำไมไม่รับนักเรียนแค่ 40 คนต่อห้องและเกลี่ยนักเรียนไปโรงเรียนรอบข้าง หลายคนอาจจะอ้างว่า ผู้ปกครองต้องการให้บุตรหลานเข้าเรียนโรงเรียนดังจะบังคับอย่างไร ผมบอกในที่ประชุมว่าถ้าเราพูดประโยคนี้เมื่อไหร่ แสดงว่าเรารู้ว่าคุณภาพการเรียนการสอนนั้นไม่เท่ากัน แต่ถ้าเราบอกโรงเรียนคุณภาพขั้นต่ำเหมือนกัน เรียนที่ไหนก็เหมือนกัน วิธีนี้คนจะเข้าใจ นอกจากนี้การกำหนดจำนวนนักเรียน 40 คนต่อห้อง เคยทำมาแล้วในอดีต” นายเอกชัย กล่าว

Advertisement

นายเอกชัย กล่าวว่า ที่ประชุมได้หารือในประเด็นดังกล่าวว่าโรงเรียนแข่งขันสูงต้องเข้าใจและเสียสละไม่ใช่ว่าจะรับนักเรียนจำนวนมากเท่านั้น เพราะถ้ารับเต็มจำนวนและขอขยายจำนวนนักเรียนต่อห้องอีก โรงเรียนสังกัดสพฐ.ที่อยู่รอบข้างอาจจะตายได้ ที่ประชุมเห็นด้วยในการกำหนดจำนวนนักเรียนเหลือ 40 คนต่อห้อง เพราะปัจจุบันโรงเรียนดังไม่สนใจว่าโรงเรียนสังกัด สพฐ.รอบข้างจะเป็นอย่างไร ขอแค่โรงเรียนมีเด็กก็พอแล้ว เชื่อว่าถ้าพูดด้วยเหตุผลโรงเรียนจะรับฟัง

“ส่วนการห้ามสอบเข้า ป.1 นั้น ที่ผ่านมาโรงเรียนในสังกัดสพฐ.ไม่ทำอยู่แล้ว หรือถ้ามี อาจจะมีน้อย เบื้องต้นจะพบโรงเรียนเปิดสอบ โดยอ้างว่าห้องที่เปิดสอนนั้นเป็นห้องเรียนหลักสูตร English Program (อีพี) จึงต้องสอบเข้า แต่ในความจริงแม้จะเป็นห้องเรียนอีพี ก็ไม่ควรสอบ เพราะเด็กที่จะเข้า ป.1 โรงเรียนจะไปสอบอะไรเด็ก และในพ.ร.บ.การพัฒนาเด็กปฐมวัย พ.ศ.2562 กำหนดชัดเจนใน มาตรา 8 ว่า การจัดการเรียนรู้ของสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยต้องเป็นไปเพื่อเตรียมความพร้อมของเด็กปฐมวัย แต่ต้องไม่เป็ยการจัดการเรียนรู้ มุ่งเน้นการสอบแข่งขันระหว่างเด็กปฐมวัย ฉะนั้นเมื่อมีการสอบก็จะเกิดดารติวสอนเด็ก และข้อสอบของโรงเรียนนั้นเป็นการคัดเด็กออกไม่ใช่คัดเด็กเข้า คือใครทำไมได้ออกไป ดังนั้นการจับฉลากถือเป็นวิธีการเสมอภาคและเท่าเทียมมากที่สุด ทั้งนี้ผู้ปกครองต้องมาเป็นผู้จับห้ามให้เด็กจับเพราะอาจจะสร้างบาดแผลให้กับเด็กได้ ส่วนโรงเรียนสังกัดอื่นๆ อาจจะมีบ้าง ทั้งนี้ สพฐ.จะขอความร่วมกับกับโรงเรียนสังกัดอื่นๆ ไม่ให้มีการสอบเข้าป.1 ด้วย เชื่อว่า ทางสพฐ.จะนำเสนอร่างรับนักเรียน ปีการศึกษา 2564 ให้นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในเร็วๆนี้” นายเอกชัย กล่าว

ด้าน นายสุพจน์ หล้าธรรม ผู้อำนวยการโรงเรียนเทพศิรินทร์ กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นด้วยที่จะให้โรงเรียนทั่วไปรับนักเรียนไม่เกิน 40 คนต่อห้อง แต่ในโรงเรียนที่มีการแข่งขันสูง มีคุณภาพ และสามารถพัฒนานักเรียนได้ ก็ควรจะเปิดโอกาสให้โรงเรียนเหล่านี้รับนักเรียนเกิน 40 คนต่อห้อง เพราะถือเป็นความต้องการของผู้ปกครองและนักเรียนที่ต้องการเข้าเรียนในโรงเรียนเหล่านี้ เพราะโรงเรียนที่เป็นโรงเรียนยอดนิยมนั้น ก็สามารถพัฒนานักเรียนได้ แต่ถ้าไปจำกัดส่วนนี้ อาจจะปิดโอกาสนักเรียนที่จะสามารถเข้าโรงเรียนยอดนิยมได้น้อยลง

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image