เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ที่โรงเรียนประชาราษฎร์อุปถัมภ์วิทยา พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังเดินทางมาออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญว่า หากร่างรัฐธรรมนูญผ่านความเห็นชอบ มั่นใจว่าจะสามารถแก้ปัญหาการศึกษาได้ เพราะในหมวดที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา จะมีการกำหนดยุทธศาสตร์ วางแผนการศึกษาระยะยาวไว้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมาจะมีคนพูดว่า ศธ.เป็นกระทรวงที่เปลี่ยนรัฐมนตรีว่าการ ศธ.บ่อย ดังนั้น หากเรามีกรอบยุทธศาสตร์ที่ชัดเจน และกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าใครมาเป็นรัฐมนตรีว่าการ ศธ.ก็จะต้องดำเนินการตามที่กำหนด นอกจากนั้นจะทำให้อนาคตการแก้ปัญหาการจัดการศึกษาต่างๆ ต้องมีธรรมาภิบาล ไม่มีวาระซ่อนเร้น รวมถึงจะไม่มีปัญหาการใช้เด็กและครูเป็นเครื่องมือในการดำเนินการที่ไม่ถูกต้อง เนื่องจากในร่างรัฐธรรมนูญได้กำหนดแนวทางแก้ปัญหาไว้อย่างครอบคลุม ซึ่งถือเป็นข้อดีที่จะทำให้รัฐบาลและ ศธ.สามารถพัฒนาการศึกษาได้อย่างมีคุณภาพ
พล.อ.ดาว์พงษ์กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม หากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติเป็นเรื่องที่รัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะต้องไปดูรายละเอียดและหาแนวทางดำเนินการต่อไป โดยจะต้องมีการแต่งตั้งคณะทำงานหรือคณะกรรมาธิการขึ้นมายกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ขึ้นมา ซึ่งรัฐบาลและ คสช.น่าจะมีแผนการดำเนินการในกรณีที่ประชามติไม่ผ่านไว้แล้ว ส่วนจะขอให้เพิ่มหรือกำหนดยุทธศาสตร์ด้านการศึกษาใหม่อย่างไรหรือไม่ หากต้องมีการยกร่างรัฐธรรมนูญอีกครั้งนั้น ตอนนี้คงยังไม่สามารถตอบได้ ขอรอดูผลประชามติก่อน
“ผมออกเสียงรับร่างรัฐธรรมนูญ เพราะถือเป็นโอกาสดีที่เราจะมาช่วยกันกำหนดทิศทางและอนาคตประเทศ รัฐบาลเองพยายามทำทุกอย่างเพื่อประชาชน และอยากจะทราบว่าประชาชนคิดอย่างไร ซึ่งในส่วนของการศึกษาเชื่อว่า หากมีการกำหนดแผนยุทธศาสตร์ระยะยาวไว้ให้ดำเนินการ เชื่อว่าจะสามารถพัฒนาการจัดการศึกษาให้พัฒนาได้อย่างต่อเนื่องแน่นอน และไม่ว่าจะเปลี่ยนรัฐบาลหรือเปลี่ยนรัฐมนตรีว่ากา รศธ.บ่อยแค่ไหนก็จะไม่กระทบ เพราะกำหนดไว้ให้ดำเนินการตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด” พล.อ.ดาว์พงษ์กล่าว
