ปธ.กพฐ.แนะยกเครื่องเกณฑ์รับ น.ร.เลิกวัดความรู้อย่างเดียว-ให้วัดความพร้อมด้วย
รับนักเรียน – ดร.เอกชัย กี่สุขพันธ์ ประธานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยกรณีผู้อำนวยการโรงเรียนเรียกร้องให้ กพฐ.สังคายนาเกณฑ์การรับนักเรียน โดยนำข้อมูลจริง เรื่องจริงมาวิเคราะห์ และเสนอให้โรงเรียนบริหารจัดการรับนักเรียนเอง ไม่ใช่ตั้งเกณฑ์แล้วให้โรงเรียนปฏิบัติตาม ว่า จากที่ประชุมคณะกรรมการ กพฐ.มีมติรับหลักเกณฑ์และแนวทางการรับนักเรียน ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ปีการศึกษา 2564 โดยให้คงจำนวนนักเรียน 40 คนต่อห้อง แต่โรงเรียนสามารถรับนักเรียนเพิ่มได้ไม่เกิน 10% ต่อห้อง โดยการเพิ่มจำนวนนั้น ต้องเพิ่มตามความจำเป็น จากนั้นปีการศึกษา 2565 โรงเรียนสามารถรับนักเรียนเพิ่มได้ไม่เกิน 5% ต่อห้อง ตามความจำเป็น และในปีการศึกษา 2566 จะล็อกไว้ที่ห้องละ 40 คนเท่านั้น จากเดิมที่จำกัดจำนวนนักเรียนไว้ 40 คนต่อห้อง ตั้งแต่ปีการศึกษา 2464 แต่ที่ประชุม กพฐ.หารือว่าควรยืดหยุ่น เพราะถ้าจำกัดจำนวนนักเรียนในปีการศึกษา 2564 บางพื้นที่จะพบปัญหาในการบริหารจัดการ ควรดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ดร.เอกชัยกล่าวต่อว่า การปรับเกณฑ์การรับนักเรียนครั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่าโรงเรียนดังจะเพิ่มจำนวนนักเรียน 10% ต่อห้องได้ เพราะคณะกรรมการ กพฐ.ย้ำว่าเมื่อ สพฐ.ส่งหนังสือหลักเกณฑ์และแนวทางการรับนักเรียนปีการศึกษา 2564 ไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) และคณะกรรมการรับนักเรียนของแต่ละโรงเรียนทั่วประเทศ ให้ระบุชัดเจนว่า การเพิ่มจำนวนนักเรียนต่อห้อง ต้องไม่ส่งผลกระทบต่อโรงเรียนรอบข้าง และต้องดูความจำเป็นในการเพิ่มจำนวนรับด้วย
“การกำหนดจำนวนนักเรียน 40 คนต่อห้อง ในอดีตเคยทำมาแล้ว แต่ตอนหลังกลับมาขยายเพิ่มเป็น 45 คนต่อห้อง เพราะโรงเรียนอ้างว่าต้องเพิ่มจำนวนนักเรียนตามความต้องการของผู้ปกครอง แต่ปัจจุบันจำนวนเด็กลดลง เชื่อว่าในอนาคตจะสามารถจำกัดจำนวนนักเรียนเหลือ 40 คนต่อห้องได้ และผมมองว่าหากต้องการสังคายนาเกณฑ์การรับนักเรียน ควรสังคายนาการคัดเลือกเด็กเข้าเรียน ที่ไม่ใช่คัดเด็กที่เก่งวิชาการ แต่ควรคัดเด็กที่มีความพร้อมที่จะเรียนในสถานศึกษา เช่น การคิดวิเคราะห์ การมีเหตุมีผล ความสามารถในการวิพากษ์วิจารณ์ มีความพร้อมด้านอารมณ์ มากกว่าความพร้อมด้านความรู้เพียงอย่างเดียว” ดร.เอกชัย กล่าว
ดร.เอกชัยกล่าวต่อว่า ส่วนที่มีผู้บริหารโรงเรียนหลายแห่งอยากให้โรงเรียนเป็นผู้บริหารจัดการเรื่องการรับนักเรียนเอง ไม่ใช่ให้ส่วนกลางตั้งเกณฑ์แล้วให้โรงเรียนปฏิบัติตามนั้น ปัจจุบันส่วนกลางกำหนดแค่นโยบาย เช่น กำหนดจำนวนการรับนักเรียนต่อห้อง เป็นต้น ถ้าส่วนกลางไม่กำหนดจำนวนนักเรียนต่อห้อง โรงเรียนจะกำหนดจำนวนรับตามใจตนเอง ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาอย่างมาก ดังนั้น จำเป็นต้องมีเกณฑ์กลางเข้ามากำหนดด้วย ส่วนกระบวนการรับนักเรียนนั้น ส่วนกลางได้กระจายอำนาจให้พื้นที่ดำเนินการจัดการเรื่องนี้อยู่แล้ว
