รายงาน : เล่านิทาน ‘กระรอกดิน..’ สร้างภูมิ-สู้พนัน ให้ ‘หนูน้อย’

รายงาน : เล่านิทาน ‘กระรอกดิน..’ สร้างภูมิ-สู้พนัน ให้ ‘หนูน้อย’

“อย่า! อย่า! อย่า! ไม่เอา ไม่นะ อย่าเล่นนะ”

เสียงตะโกนของเหล่าบรรดาหนูน้อยชั้นอนุบาลกว่า 80 คน ของ โรงเรียนนรรัตน์รังสฤษดิ์ เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร ที่แข่งกันส่งเสียงดัง เพื่อห้ามพี่กระรอกดิน ตัวละครสำคัญในนิทานเรื่อง “กระรอกดิน กระรอกโพรง” ไม่ให้เล่นเกมส์เสี่ยงทาย ด้วยน้องๆ ต่างเห็นพร้องว่า พี่กระรอกดินกำลังจะถูกโกงจากกระรอกโพรงตัวละครอีกตัว ก่อนที่ท้ายสุดแล้วพี่กระรอกดินก็เชื่อน้องๆ ไม่เล่นเสี่ยงทายอีกครั้ง จึงไม่เกิดการสูญเสียอาหารทั้งหมดให้กับกระรอกโพรงซ้ำรอยเดิม

ซึ่งการเล่านิทานผ่านการแสดงละครของ ทีมเฉพาะกิจเธียเตอร์ ณ โรงเรียนนรรัตน์รังสฤษฏ์ ก็จบลงอย่างชื่นมื่น ท่ามกลางเสียงหัวเราะอย่างสนุกสนาน พร้อมรอยยิ้มอย่างมีความสุขของหนูน้อย

นายสุกฤต อ่องชาติ หรือ พี่กฤต ผู้ก่อตั้งทีมเฉพาะกิจเธียเตอร์ เครือข่ายกลุ่มละครลดปัจจัยเสี่ยง สนับสนุนโดยมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน (มรพ.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เล่าถึงกิจกรรม “นิทานสร้างภูมิรู้ สู้พนัน” ในครั้งนี้ ว่า เดิมทีมมีความสนใจในการเล่านิทานผ่านการแสดงละครอยู่แล้ว โดยเน้นการรณรงค์ลดปัจจัยเสี่ยงเป็นหลัก ทั้งการพนัน เหล้า บุหรี่ แอลกอฮอล์ ความรุนแรงทางเพศ สิ่งแวดล้อม และอื่นๆ ประกอบกับ มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน จัดทำชุดหนังสือนิทานสำหรับเด็กเพื่อสื่อสาร และสร้างภูมิคุ้มกันจากการพนันให้กับเด็กปฐมวัย ซึ่งมีจำนวนทั้งหมด 7 เล่ม อาทิ มังกรน้อยมีไฟ โอ๊ะโอ เพื่อนรัก กระรอกน้อยคอยได้ หางแสนรัก ฯลฯ ทางเราจึงนำนิทานเหล่านี้ มาขยายผลต่อตามโรงเรียนต่างๆ ทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑลกว่า 10 แห่ง

Advertisement

“เหตุที่เลือกนิทานเรื่องกระรอกดินกระรอกโพรง เพราะมีตัวละครแค่ 2-3 ตัวเด่นๆ เด็กปฐมวัยจะจดจำตัวละครได้ง่าย และใช้กลยุทธ์สื่อสารส่งผ่านข้อคิด และแนวคิดในการสร้างภูมิคุ้มกันเรื่องการพนันผ่านตัวละครโดยสร้างประสบการณ์การมีส่วนร่วมของน้องๆ ค่อยๆ กระตุ้นให้เด็กๆ จินตนาการตามตัวละคร” พี่กฤต กล่าว

พี่กฤต เล่าด้วยว่า เด็กวัยนี้มีจินตนาการ น้องๆ ไม่รู้หรอกว่าการพนันคืออะไร แต่นิทานเรื่องนี้มีเรื่องของการพนันซ่อนอยู่ในบทของนิทาน โดยเนื้อเรื่องมีอยู่ว่า กระรอกดิน และกระรอกโพรง เตรียมสะสมอาหารสำหรับฤดูหนาว แต่ปีนี้อาหารมีน้อย กระรอกโพรงชวนกระรอกดินเล่นเสี่ยงทาย หากทายถูก กระรอกดินจะได้อาหารจากกระรอกโพรง กระรอกดินต้องการอาหารเพิ่ม จึงตัดสินใจเล่น โดยไม่รู้ตัวว่ากำลังเดินเข้าสู่กับดัก ครั้งแรกกระรอกโพรงยอมให้กระรอกดินชนะ และชวนเล่นครั้งที่ 2 กระรอกดินตัดสินใจเล่น เพราะคิดว่าเล่นเสี่ยงทายเป็นเรื่องง่ายกว่าการออกไปหาอาหาร และคิดว่าตนเองจะโชคดีอีกครั้ง แต่ครั้งนี้กลับโดนกระรอกโพรงโกงจนสูญเสียอาหารที่เก็บสะสมไว้ไปทั้งหมด

Advertisement

“พอเข้าสู่ช่วงของการที่ต้องเก็บหาอาหารเพื่อไว้กินในฤดูหนาวอีกครั้ง กระรอกโพรงได้ชวนกระรอกดินเล่นเสี่ยงทายอีกเช่นเคย แต่จากที่น้องๆ ที่นั่งดูละครนิทานอยู่ ก็จะรับรู้ได้แล้วว่ากระรอกโพรงจะโกงอีกครั้ง จึงต่างช่วยกันห้ามไม่ให้กระรอกดินเล่นเสี่ยงทาย การมีส่วนร่วมตรงนี้ น้องๆ ไม่รู้หรอกว่าการเสี่ยงทายเป็นการพนัน แต่เขาจะรู้ว่า การโกง คือ อะไร และละครยังสอดแทรกทักษะการยับยั้งชั่งใจให้กับเด็กๆ โดยสังเกตจากที่เขาห้ามไม่ให้พี่กระรอกดินเล่นเสี่ยงทาย ซึ่งหากไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ ก็จะไม่สามารถหยุดการกระทำ หรือหยุดความต้องการของตนเองได้” พี่กฤต เล่า

เสริมด้วย พี่เนส นายอรรถกฤษณ์ พฤกษ์เลิศตระกูล ผู้สวมบทเป็น กระรอกดิน และ พี่ตามใจ นายสุรัตน์ แก้วสีคร้าม สวมบทเป็น กระรอกโพรง 2 ตัวละครเอกของเรื่องได้ร่วมพูดคุย ว่า นิทานเรื่องนี้ผู้แต่งต้องการชี้ให้เห็นภัยของการพนัน คือการสูญเสียทรัพย์สิน เป็นการสื่อสารถึงหายนะของการพนันโดยใช้วิธีตรงไปตรงมา สิ่งที่ชี้ชัดว่าเด็กๆ รับรู้เรื่องภัยของการพนัน คือเขาจะรู้ว่าครั้งแรกที่เล่นส่งผลกระทบอย่างไรกับละครอีกตัวหนึ่ง น้องรับรู้ว่ามีความเสี่ยง คืออาจจะไม่ได้เสมอไป น้องจึงห้ามไม่ให้กระรอกดินเล่น เขาจะซึมซับ และรับรู้แล้วว่าสิ่งที่เราสื่อออกไปยังเขาคืออะไร เพียงแต่เขาไม่รู้จักคำว่า “พนัน” เท่านั้นเอง

นิทานเรื่องนี้ยังสอดแทรกเรื่องการออมการเก็บหอมรอมริบ ความขยันหมั่นเพียร ซึ่งเป็นทักษะพื้นฐานที่ควรปลูกฝังตั้งแต่วัยเยาว์ อยากฝากข้อคิดไปยังผู้ปกครอง ว่าสามารถช่วยกันได้อีกทางหนึ่งในการปลูกฝังให้เด็กรับรู้ว่า ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ ทุกอย่างต้องใช้แรง ใช้ความพยายาม ใช้ความคิด ความรู้ ความสามารถจึงจะได้มา

“ใช่คะ จริงๆ แล้วโรงเรียนอย่างเดียวไม่พอ ชุมชน และผู้ปกครองต้องมีส่วนร่วมด้วย ผู้ปกครองมีส่วนสำคัญมากในการช่วยดูแลเด็กๆ ให้เติบโตขึ้นมาเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพของประเทศ การปลูกฝังค่านิยมทัศนคติที่ดีต่างๆ ให้กับลูกหลานตั้งแต่ยังเล็ก ต้องร่วมมือกันทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียน ชุมชน ผู้ปกครอง เรียกว่า บ้าน-วัด-โรงเรียน โดยในทุกวันศุกร์โรงเรียนจะมีกิจกรรมการเล่านิทานธรรมะ เพื่อปลูกฝัง หรือเรื่องคุณธรรมศีลธรรมอันดีงามให้กับเด็กๆ นอกจากนี้ ยังมีตัวแทนจากศาสนาพุทธ คริสต์ และอิสลาม เข้าร่วมกิจกรรมด้วย” เป็นอีกหนึ่งเสียงของ นางบุหงา อ่อนท้วม ผู้อำนวยการโรงเรียนนรรัตน์รังสฤษฏ์ ที่ต้องการสื่อสารไปยังผู้ปกครองเช่นกัน

นางบุหงาเล่าว่า ในส่วนของผู้ปกครอง ทางโรงเรียนอยากให้เข้ามามีส่วนร่วมรับรู้ รับฟังว่าทางโรงเรียนได้มีการดำเนินกิจกรรมในเรื่องใดบ้าง เช่น เรื่องของสมาธิสั้น ทางโรงเรียนจะให้ความรู้ และวิธีสังเกตอาการของสมาธิสั้น หากผู้ปกครองเข้าร่วมกิจกรรมกับทางโรงเรียน ก็จะได้รับทราบวิธีสังเกตอาการของบุตรหลานได้ หรือแม้แต่ทางโรงเรียนสังเกตพบความผิดปกติของเด็กๆ เช่น บางคนไม่อยากมาโรงเรียนเพราะอะไร ก็จะได้มาร่วมกันช่วยป้องกันหรือแก้ไข

ผู้อำนวยการโรงเรียน กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการสร้างภูมิคุ้มกันเรื่องการพนันให้กับเด็กๆ ตั้งแต่ปฐมวัยผ่านนิทาน โดยการนำมาแสดงเป็นละคร พร้อมกับการชักชวนให้เด็กๆ มีส่วนร่วมแบบนี้ เขาจะซึมซับรับรู้ได้ง่ายกว่าการมาบอกว่า การพนันคืออะไร ขณะเดียวกันเด็กในวัยนี้เขาสามารถรับรู้ได้ว่า อะไรคือดี และไม่ดี ที่สำคัญวัยนี้เมื่อห้าม ก็เหมือนกับการไปยั่วยุให้เขาทำสิ่งนั้น เราจึงไม่ควรห้าม แต่สอดแทรกสิ่งที่ต้องการปลูกฝังให้เขารับรู้ผ่านการคิดจินตนาการไปตามวัยของเขา โดยผ่านจากสิ่งที่เด็กจะซึมซับได้ง่าย เช่น นิทาน หรือละคร จะทำให้เขาจดจำได้ง่ายกว่าไปบอกด้วยคำพูด และการปลูกฝังตั้งแต่เด็กแบบนี้ เขาจะเริ่มเรียนรู้ว่าอะไรคือการพนัน เมื่อโตขึ้น หากเขาไปเห็น เช่น การพนันออนไลน์ เด็กก็จะเรียนรู้ได้ว่านี่เป็นการพนันนะ เพราะเรื่องราวลักษณะนี้ ได้ซึมซับไปในตัวเขาจากการดูละครเมื่อวัยเยาว์

โรงเรียนหวังว่า สิ่งที่เด็กๆ ได้ซึมซับกลับไป จะเป็นอีกเสียงหนึ่งที่คอยกระตุ้นเตือนพ่อแม่ และผู้ปกครอง ไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวการพนัน เพราะเมื่อตกเป็นทาสการพนันไปแล้ว ก็จะไม่เหลืออะไรเลย แม้กระทั่งครอบครัว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image