เรียนไทยได้จีน : นิทานสุภาษิตจีน (222) 成语故事 (二二二)

นิทานสุภาษิตจีน (222) 成语故事 (二二二)

นิทานสุภาษิตจีนที่ “เรียนไทยได้จีน” จะนำเสนอในฉบับนี้คือ 沧海一粟/滄海一粟  cānɡhǎi yī sù(ชางไห่ อี ซู่)   โดย คำว่า沧海/滄海 cānɡhǎi (ชางไห่)  แปลว่า ทะเล มหาสมุทร  一 yī  (อี) แปลว่า หนึ่ง (หนึ่งเมล็ด)sù (ซู่) แปลว่า ข้าวฟ่าง เมล็ดข้าวฟ่าง เมื่อรวมกันแล้วหมายถึง เมล็ดข้าวฟ่างหนึ่งเมล็ดในมหาสมุทร มีจำนวนเพียงน้อยนิดจนแทบไม่มีผลใดๆต่อทะเลหรือมหาสมุทรนั้นเลย ใช้เปรียบเทียบกับการทำอะไรตามลำพัง ก็ไม่มีพลังที่จะสะเทือนสังคมได้

จีนในยุคเป่ยซ่ง北宋 Běi Sònɡ  (ซ่งเหนือ) หลังจากรัฐซ่งเหนือบรรลุข้อตกลงสงบศึกและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับทั้งรัฐเหลียว辽国/遼國 Liáo Guóและรัฐซีเซี่ย 西夏 Xī Xià  รัฐซ่งเหนือจะเป็นรัฐอุปถัมภ์โดยทุกปีจะส่งเงินทองและเสื้อผ้าไปให้ทั้งสองรัฐ  แม้ว่ารัฐซ่งจะดูเสียศักดิ์ศรีไปอยู่บ้าง เพราะต้องส่งเครื่องราชบรรณาการไปให้รัฐเหลียวและรัฐเซี่ย แต่ก็ทำให้ศึกสงครามเหนือและตะวันตกสงบลงได้ระยะหนึ่ง  ผลของความสงบสุขจึงทำให้รัฐซ่งเหนือตั้งตัวได้ เศรษฐกิจและการเมืองก็พัฒนารุดหน้าไปได้อย่างมั่นคง  ราชสำนักจึงมีแนวคิดปฏิรูปประเทศ แต่การปฏิรูปนี้จะส่งผลกระทบต่อระเบียบวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมมาก จึงมีข้าราชการชั้นสูงจำนวนมากต่อต้านการปฏิรูป แต่จักรพรรดิเป่ยซ่งทรงยืนยันจะปฏิรูปให้ได้ เหล่าขุนนางทั้งหลายเมื่อไม่รู้จะทำเช่นไร หนึ่งในนั้นคือมหาบัณฑิตซูฉื้อ 苏轼/蘇軾 Sū Shì ถวายคำปรึกษาจักรพรรดิ แต่พระองค์ทรงปฏิเสธข้อเสนอแนะ

ซูฉื้อจึงแสดงการคัดค้านการปฏิรูปนี้ด้วยการเขียนบทกลอนกวีออกเผยแพร่ ทำให้บทกลอนของเขาได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในข้าราชการและประชาชน ทำให้การปฏิรูปพบอุปสรรค ฝ่ายปฏิรูปจึงรวบรวมบทกวีของซูฉื้อที่เขียนเนื้อหาคัดค้านการปฏิรูปถวายองค์จักรพรรดิ ด้วยเหตุนี้เขาจึงถูกลงโทษปลดออกจากตำแหน่งที่ปรึกษา ไปรับตำแหน่งนายอำเภอเล็กๆที่เมืองหฺวางโจว 黄州 (ที่มาภาพ:http://image.baidu.com/search)  Huánɡ Zhōu   เมืองหนึ่งในมณฑลเหอเป่ย เมื่อซู่ฉื้อไปอยู่หฺวางโจวแล้วก็กลุ้มใจ จึงมักออกไปตรวจงาน โดยครั้งหนึ่งซูฉื้อได้มาถึงแดนผาแดง ซึ่งในสมัยสามก๊ก เป็นสถานที่ที่ก๊กเล่าปี่กับก๊กซุนกวนเผาทัพเรือโจโฉนั่นเอง ซูฉื้อคิดถึงเหตุการณ์ในอดีต บุคคลที่ยิ่งใหญ่ล้วนตายสลายกลายเป็นธุลีไปเสียสิ้นแล้ว  แต่พวกเขาก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสังคมอะไรได้เลย เมื่อแหงนหน้ามองฟ้า ก็พบว่าหน้าผาช่างสูงเสียดฟ้า ท้องฟ้าก็ช่างกว้างใหญ่ไพศาล ลำน้ำแยงซีก็ยิ่งใหญ่เวิ้งว้าง เมื่อย้อมมองดูตัวเอง จึงรู้สึกว่าตนเองเล็กน้อยจนไม่อาจเปรียบเทียบกับสิ่งรอบข้างตอนนี้ได้เลย  เสมือนเมล็ดข้าวฟ่างหนึ่งเม็ดในมหาสมุทร  ในห้วงอารมณ์นี้ก็ให้ก่อเกิดบทกวีเลื่องชื่อว่า  บทกวีเฉียนชื่อปี้《前赤壁赋》Qián chìbì fù เฉียน ชื่อปี้ ฟู่ เป็นบทกวีที่มีชื่อเสียงมากบทหนึ่งของซูฉื้อ เนื้อหาบทกวีมีคำหนึ่งที่กล่าวถึงเมล็ดข้าวฟ่างหนึ่งเม็ดในมหาสมุทร ซึ่งแทบจะหาค่าไม่ได้ หรือไม่อาจมีผลใดๆต่อมหาสมุทรเลย  ต่อมาผู้คนยกเอาคำสี่คำนี้มาพูดเปรียบเทียบตนเองว่า ตนเองนั้นเล็กน้อยด้อยค่าไม่อาจจะทำการใหญ่ใดๆได้ หรือตัวเองไม่ได้มีตำแหน่งใหญ่โตที่จะไปทำอะไรให้เกิดผลต่อสังคมโดยรวมได้นั่นเอง

Advertisement

ข้อคิดจากประโยคสุภาษิตนี้

成语比喻:非常渺小,不可影响大众。

Advertisement

成語比喻:非常渺小,不可影響大眾。

Chénɡyǔ bǐyù: Fēichánɡ miǎoxiǎo, bùkě yǐnɡxiǎnɡ dàzhònɡ.

เฉิงยหวี่ ปี่ยวี่:  เฟยฉาง เหมียวเสี่ยว, ปู้เข่อ อิ๋งเสี่ยง ต้าจ้ง

สุภาษิตเปรียบว่า เล็กน้อยมาก ไม่อาจสะเทือนส่วนรวมได้

ประโยคตัวอย่างที่ใช้สำนวนสุภาษิตนี้ เช่น

在工作上,群众的力量是无穷无尽的,而个人的力量只是沧海一粟。

在工作上,群眾的力量是無窮無盡的,而個人的力量只是滄海一粟。

Zài ɡōnɡzuò shànɡ, qúnzhònɡ de lìliànɡ shì wúqiónɡ wújìn de, ér ɡèrén de lìliànɡ zhǐshì

cānɡhǎi yī sù.

ไจ้ กงจั้ว ฉั้ง, ฉวินจ้ง เตอะ ลี่เลี่ยง ฉื้อ อู๋ฉฺยง อู๋จิ้น เตอะ, เอ๋อร์ เก้อเหริน เตอะ ลี่เลี่ยง จื่อฉื้อ ชางไห่ อี ซู่

ในการทำงานนั้น พลังของส่วนรวมนั้นมากมายมหาศาล แต่พลังของคนเดียวนั้นมันช่างน้อยนิดเหลือเกิน

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image