นร.สาวเหยื่อปาแก้วเตรียมย้าย ร.ร.แล้ว – กก.พิจารณาโทษครูคาดสรุปผลสอบพรุ่งนี้!!!

จากกรณีที่นางสาวนฤดี จอดสันเทียะ หรือน้องทราย อายุ 17 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนโชคชัยสามัคคี อำเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา ถูกนายไพฑูรย์ แกลงกระโทก อายุ 58 ปี ครูวิชาพละศึกษาของโรงเรียน ขว้างปาถ้วยแก้วถูกกกหูด้านซ้าย ทำให้ได้รับบาดเจ็บใบหน้าเสียโฉม ปากเบี้ยว ตาซ้ายปิดไม่สนิท ซึ่งล่าสุดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 31 ได้มีคำสั่งย้ายนายไพฑูรย์ แกลงกระโทก อายุ 58 ปี ครูพลศึกษาที่ก่อเหตุ ไปช่วยราชการที่โรงเรียนบุญวัฒนา อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา จนกว่าผลการสอบสวนจะเสร็จสิ้น และทางพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นด้วย

ความคืบหน้าล่าสุดเช้าวันที่ 15 กันยายน บรรยากาศภายในโรงเรียนโชคชัยสามัคคี เด็กนักเรียนภายในโรงเรียนยังคงพากันจับกลุ่มพูดคุยถึงเรื่องราวดังกล่าว ซึ่งส่วนใหญ่แสดงความเห็นใจทั้ง 2 ฝ่ายทั้งตัวเด็กนักเรียนและนายไพฑูรย์ ส่วนที่บริเวณโต๊ะทำงานของนายไพฑูรย์มีการจัดวางหนังสืออย่างเป็นระเบียบ เนื่องจากตัวนายไพฑูรย์เดินทางไปทำงานตามคำสั่งช่วยราชการที่โรงเรียนบุญวัฒนา อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา

นายชูเกียรติ วิเศษเสนา ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่มัธยมศึกษาเขต 31 เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินการสอบสวนความผิดทางวินัยของครูพละที่ก่อเหตุว่า ขณะนี้คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่มี นายสมัคร ไวยขุนทด ผู้อำนวยการโรงเรียนสุรนารีวิทยา เป็นประธานกรรมการสอบสวน กำลังพิจารณาโทษความผิดทางวินัยของนายไพฑูรย์ ครูพละที่ก่อเหตุ โดยหากมีความผิดวินัยไม่ร้ายแรงก็จะมีโทษตั้งแต่ภาคทัณฑ์ ตัดเงินเดือน ไปจนถึงลดขั้นเงินเดือน แต่หากมีความผิดวินัยร้ายแรงก็จะมีโทษตั้งแต่ปลดออกจากราชการไปจนถึงไล่ออกจากราชการ ซึ่งคณะกรรมการ เตรียมสรุปผลการสอบสวนภายในวันศุกร์นี้

ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถามไปยัง นางสาวนฤดี จอดสันเทียะ หรือน้องทราย เด็กนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บทราบว่า ขณะนี้น้องทรายยังคงอยู่กับครอบครัวที่กรุงเทพมหานครเพื่อรอผลการวินิจฉัยในการรักษาตัวของโรงพยาบาลยันฮี อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายเดือนนี้จะมีการสอบปลายภาคเรียนที่ 1 ซึ่งขณะนี้น้องทรายแจ้งว่าได้ยื่นเรื่องไปยังกระทรวงศึกษาธิการเพื่อขอทำการสอบนอกสถานที่แล้ว พร้อมกันนี้น้องทรายกำลังหารือกับผู้ปกครองเพื่อขอย้ายสถานศึกษาไปศึกษาต่อที่อื่นด้วย โดยเบื้องต้นอาจจะเป็นสถานศึกษาภายในอำเภอหนองบุญมากเพราะอยู่ใกล้กับบ้านพัก หรือไม่ก็ย้ายไปศึกษาสถานศึกษาภายในตัวเมืองนครราชสีมา

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image