โซเชียลเดือด!! ซัดเรียนออนไลน์ทำครอบครัวร้าวฉาน-ผู้ปกครองสุดเครียด เหตุเด็กอนุบาล-ประถม เรียนไม่รู้เรื่อง ต้องทำงานนอกบ้าน ไม่มีใครดูลูกหลาน แถมจ่ายค่าเทอมเต็ม จี้ดีเบตหาข้อสรุป
จากกรณีที่ น.ท.สุมิตร สุวรรณ รองคณบดีคณะศึกษาศาสตร์และพัฒนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) วิทยาเขตกำแพงแสน เสนอให้หยุดการเรียนการสอนทั่วประเทศเป็นเวลา 1 ปี เนื่องจากการเรียนออนไลน์ไร้ประสิทธิภาพ และส่งผลกระทบกับนักเรียน นักศึกษา โดยเฉพาะเด็กปฐมวัย และนักเรียนชั้นประถมอย่างมาก ขณะที่นายสมพงษ์ จิตระดับ นักวิชาการศึกษา เปิดเผยผลวิจัยชี้เด็กไทยเครียดจากการเรียนออนไลน์ ทำให้โดดเรียนออนไลน์มากกว่า 20% ขณะที่ผลสำรวจทั่วโลกระบุว่าการเรียนออนไลน์ 1 ปี ทำให้การศึกษาถดถอย 50% โดยเสนอให้ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ต้องกล้าตัดสินใจ และเลิกกลัวเกินกว่าเหตุ แต่ผู้บริหาร ศธ.และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ออกมาคัดค้านนั้น
อ่านรายละเอียด คุณหญิงกัลยา-บิ๊ก สพฐ.ค้านหยุดเรียนออนไลน์ 1 ปี แค่หนีปัญหา ต้องปรับวิธีสอน ตัวชี้วัดใหม่
อ่านรายละเอียด นักวิชาการเสนอหยุดเรียนทั่วประเทศ 1 ปี เหตุเรียนออนไลน์ไร้ประสิทธิภาพ งานวิจัยชี้เด็กเครียด ทำโดดเรียนกว่า 20%
เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก SALE HERE ได้โพสต์ข่าวที่นักวิชาการเสนอให้หยุดเรียน 1 ปี แต่ผู้บริหาร ศธ.ไม่เห็นด้วย ปรากฎว่าประเด็นดังกล่าวทำเอาโซเชียลเดือดสุด เมื่อมีผู้เข้ามาวิพากษ์วิจารณ์อย่างเผ็ดร้อน โดยมีความคิดเห็นหลากหลาย แต่ส่วนใหญ่เห็นว่าการเรียนออนไลน์ เป็นการสร้างปัญหาให้กับนักเรียน และผู้ปกครองอย่างมาก โดยเฉพาะเด็กเล็ก นักเรียนอนุบาล และประถมศึกษา รวมถึง ทำให้ครอบครัวเกิดการร้าวฉาน แต่เห็นตรงกันว่าการเรียนออนไลนืเหมาะกับนักเรียนมัธยม และนักศึกษามหาวิทยาลัยมากกว่า พร้อมทั้งเสนอให้ดีเบตเพื่อหาข้อสรุป อาทิ
การเรียนออนไลน์เหมาะกับเด็กระดับมัธยมศึกษาขึ้นไปจนถึงมหาวิทยาลัย ส่วนเด็กอนุบาล และเด็กประถมยังถือว่าเล็กไป ซึ่งไม่เหมาะเป็นอย่างมากที่จะมานั่งเรียนหน้าจอ
ดีเบตเลย ผลเสีย/ดี อย่าอ้างลอยๆ ความเสมอภาคที่เกิดจากการเข้าถึงการเรียน มันจะกระทบระยะยาว ยิ่งไม่มีโอกาสเข้าถึงเลยก็กระทบหลายเท่านัก เลิกมโน คิดว่าประเทศไทยพัฒนาแล้ว ประเทศไม่ใช่แค่ กทม.ที่อะไรๆได้พร้อมไปหมด และอย่าเอาครอบครัวของคุณที่พร้อมสนับสนุนลูก มาสร้างมาตรฐานให้คนอื่นๆ
1 ปีที่ผ่านมาน่าจะบอกได้แล้วนะคะว่า แก้ปัญหาได้ถูกทางหรือเปล่า ไม่ใช่เด็กทุกคนที่เข้าถึงการเรียนออนไลน์ ไม่ใช่ทุกบ้านที่พ่อแม่มีเวลาควบคุมการเรียนของลูก ต้องคิดกันได้แล้วว่าจะทำอย่างไรให้เด็กไม่เสียเวลา ไม่เสียโอกาส และไม่เครียดในช่วงเวลานี้
เรียนออนไลน์ เหมาะกับเด็กโตมากกว่าค่ะ เด็กเล็กอนุบาล-ประถม สมาธิไม่ได้อยู่กับหน้าจอ และเรียนเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง แถมสั่งการบ้านเยอะ คนเครียดสุดคือผู้ปกครอง ต้องทำงาน ไม่ได้มีเวลามาช่วยสอน
บอกเลยนะว่าการเรียนออนไลน์ที่ผ่านมา ทำให้ครอบครัวร้าวฉานมาก และเด็กก็ไม่ได้เก่งขึ้นเลย การเรียนแบบนี้มันเหมาะกับเด็กโต ไม่ได้เหมาะกับเด็กเล็กเลย
เด็กพอหยุดเรียน 1 ปี ก็จะเริ่มงอแงไม่ยอมเรียนต่อแล้ว ต้องระวังในจุดนี้ด้วยนะครับ
หยุดเถอะ!!!…ลูกเพิ่งขึ้น ป.1 ปีนี้ (ไม่ต่างจากเด็กอนุบาลหรอกค่ะ) ถ้าไม่มีผู้ปกครองนั่งดู นั่งสอนด้วย เด็กก็ไม่รู้เรื่องหรอก ส่วนผู้ปกครองก็มีงานมีการต้องทำ ค่าใช้จ่ายในบ้านก็เดิน รัฐช่วยได้สักครึ่งไหม ส่วนค่าเทอมโรงเรียนก็เก็บเต็ม ทั้งที่เรียนอยู่บ้าน แอร์บ้าน ไฟบ้าน พ่อ แม่ ต้องสละเวลางานมาสอนมาดูลูก เเล้วจะจ่ายค่าเทอมทำไม การบริหารของคณะรัฐบาลไม่ดี แต่ผลกรรมมาตกกับเด็ก และผู้ปกครอง
ไม่เห็นสอนออนไลน์เลยค่ะ แต่ส่งการบ้านให้เด็กทำอย่างเดียว ผู้ปกครองต้องทำงาน เย็นถึงจะมีเวลาสอน แล้วการบ้าน 3-4 วิชา ให้เด็กทำทีเดียวเค้าก็ไม่อยากทำ มีวิธีการสอนที่ดีกว่านี้มั้ยค่ะ ถ้าไม่มีก็ยกเลิกไปเถอะค่ะ แล้วไปเริ่มเรียนใหม่ปีหน้า
เด็ก ป.2 อยู่กับคุณยาย และคุณชวด คุณแม่ทำงานโรงพยาบาล ตอนนี้แม่ไม่ได้กลับบ้านเพราะต้องทำงานเสี่ยงโควิด อยากถามว่าใครจะเป็นคนช่วยลูกเรียนออนไลน์? หลังจากเรียนมีการบ้าน มีสอบ เข้า zoom สอบผ่าน Google เพื่อวัดผลตัดเกรดแบบนี้ควรทำอย่างไรคะ? จะทำอะไร คิดอะไร ให้ลงมาดูหน้างานด้วย ไม่ใช่อยู่แต่ในห้องจนทำให้ไม่เห็นความจริง
เด็กเล็กไม่ควรเรียนออนไลน์ค่ะ ถ้าระดับมหาวิทยาลัยจะไม่แย้งเลย
ไม่ลดบ้างล่ะค่าเทอม ไหนๆ ก็เรียนไม่ได้ประสิทธิภาพเท่าเดิมแล้วนี่
เด็กระดับอนุบาลควรหยุดเรียนไปก่อนค่ะ เพราะไม่ได้อะไรจากการเรียนแบบนี้เลยเด็กๆไม่สนุกกับการเรียนแบบนี้เลย ควรระงับไปก่อน เรื่องค่าเทอมที่จ่ายไปแล้วนี้ ก็จะจบเทอมอยู่แล้ว ยังไม่ได้อะไรจากการจ่ายค่าเทอมเลย ส่วนตัวที่บ้านเรียนเอกชนค่าเทอมแพงด้วย อยากให้ยกค่าเทอมของเทมอนี้ไปทบกับเทอมหน้าด้วยนะคะ
กระทรวงควรจะยอมรับความจริงนะคะ ว่าเรียนออนไลน์มันไม่เหมาะกับเด็กเล็กเลย ขนาดที่บ้าน ม.1 ยังมีปัญหา ครูก็สอนมั่งไม่สอนมั่ง เวลาสอน 2 ชั่วโมง เข้ามาเช็กชื่อ 30 นาที ทั้งครู ทั้งนักเรียนในประเทศนี้ มันไม่เหมาะกับออนไลน์จริงๆ ค่าเทอมก็ไม่ลด มีแต่ประสิทธิภาพที่ลดลง
ค่าเทอมก็เสียเต็ม แถมยังต้องมาเสียเพิ่มเติมเพื่อเทคโนโลยีที่ดีๆ ให้การเรียนสะดวก บ้านไหนมีกำลังก็ซื้อแทบเลต ไอแพดใหม่ หรือสาย HDMI ใหม่ ค่าเทอมหลายหมื่น ยังต้องมาเสียค่าเทคโนโลยีพวกนี้อีกเป็นหมื่นๆ แบบนั้นหรอ มันเหมาะกับเด็กโตที่ช่วยเหลือตัวเองได้เท่านั้น เด็กเล็กไม่เหมาะสมเลย
ไม่เห็นด้วยค่ะให้หยุดเรียน 1 ปีก็เท่ากับเด็กเสียเวลาไป 1 ปี โดยไม่ได้อะไรเลย สู้เรียนออนไลน์ไป ถึงได้ไม่เต็มที่ ก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลยค่ะ
มันไม่เหมาะกับเด็กเล็กค่ะ ไม่ใช่ว่าทุกบ้านจะสะดวกเรื่องเรียนออนไลน์ ไหนจะเน็ต คอม มือถือ ถ้าเด็กเล็กผู้ใหญ่ก็ต้องมาคอยสอนเพิ่ม จากที่ปกติสอนแค่ตอนเย็น ตอนนี้เรียนทั้งวัน ต้องสอนทั้งวัน เหนื่อยสำหรับครอบครัวหาเช้ากินค่ำ
ควรหยุดเรียนออนไลน์ทั้งระบบ เพราะการเรียนออนไลน์มันไม่สามารถวัดได้ว่าเด็กคนไหนเข้าใจ และรู้ในบทเรียนนั้นๆ เพราะเวลามีการทำแบบทดสอบ ก็จะมีผู้ปกครองช่วยทำทุกครั้ง ผลคะแนนที่ออกมามันจึงไม่สามารถเอามาวัดได้ว่าเด็กคนไหนเข้าใจ หรือไม่เข้าใจ การสอนที่ไม่มีประสิทธิภาพ มันทำให้ผู้เรียนไม่มีคุณภาพที่แท้จริง
การเรียนออนไลน์แม้กระทั่งเด็กโตยังเกิดความเครียดสะสม แล้วเด็กชั้นอนุบาลประถมที่สมาธิยังไม่ค่อยจดจ่อ แล้วให้มานั่งหน้าจอ เขาแทบจะไม่ได้อะไรเลย ส่วนตัวสอนลูกเรียนด้วยตัวเองอยู่แล้ว เลยไม่เกิดปัญหา แล้วความรู้ที่ลูกเรามีมันก็เกินที่ครูกำลังสอนไปมาก แต่ก็มองเห็นปัญหาของหลายๆ บ้านเหมือนกัน บางบ้านไม่มีอุปกรณ์ บางบ้านอุปกรณ์เครื่องเดียว ใช้ด้วยกันหมด แต่มีลูกหลายคน เรื่องการเข้าถึงการเรียนออนไลน์มันไม่ทั่วถึง ฉะนั้น หยุดไปเลยดีกว่า ค่อยมาเริ่มพร้อมกันใหม่ปีหน้า
เรียนออนไลน์มันเหมาะกับเด็กโตอ่ะ ไม่เหมาะกับเด็กอนุบาล-ประถม และไม่ใช่ทุกครอบครัวจะมีเงิน หรือมีเวลาว่างมากพอมาดูแลลูกเรียนออนไล์ บางคนมีลูก 3 คน เรียนออนไล์พร้อมกัน จะแบ่งอุปกรณ์ยังไง พ่อแม่ จะแบ่งร่างยังไงดูแลลูก แต่ถามว่าหยุดเรียนได้มั้ย ก็คงคิดว่าไม่ได้ เท่ากับว่าเวลาชีวิตเด็กๆ หายไปเลย 1 ปีนะ แล้วแน่ใจรึว่าจะแก้ปัญหาทุกอย่าง จบลงใน 1 ปี
