‘โรม’ สะเทือนใจ มธ.คลุมลาน 6 ตุลา ติดป้ายเขตก่อสร้าง ชี้ไม่ต่างรัฐขนต้นไม้ปิดอนุสาวรีย์ ปชต.

‘โรม’ สะเทือนใจ มธ.คลุมลาน 6 ตุลา ติดป้ายเขตก่อสร้าง ชี้ไม่ต่างรัฐขนต้นไม้ปิดอนุสาวรีย์ ปชต.

เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล เผยแพร่ข้อเขียนผ่านเฟซบุ๊ก ฝากถึงผู้บริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในฐานะศิษย์เก่า โดยระบุว่าการปิดกั้นกิจกรรมรำลึก 6 ตุลา ไม่ดีต่อทั้งมหาวิทยาลัยและสังคมไทยเวลานี้ พร้อมเปิดเผยภาพถ่ายจากนายชนินทร์ วงษ์ศรี สมาชิกแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม โดยเป็นภาพพื้นที่ ‘สวนประวัติศาสตร์ ธรรมศาสตร์และการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย’ ที่มีการนำแสลนสีเขียวคลุม พร้อมป้ายไวนิล ‘เขตก่อสร้าง ห้ามเข้า’

นายรังสิมันต์ระบุว่า อีกไม่กี่วันข้างหน้าจะเป็นวาระครบรอบ 45 ปี เหตุการณ์ 6 ตุลา 19 การสังหารหมู่ครั้งใหญ่ในรั้วมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่เกิดจากการที่รัฐไทยเลือกที่จะใช้ความรุนแรงต่อผู้เห็นต่างทางการเมืองแทนกระบวนการประชาธิปไตย

“เมื่อช่วงปลายเดือนกันยายน 2564 ที่ผ่านมา ผมก็ได้ทราบข่าวซึ่งเป็นประเด็นถกเถียงกันในสาธารณะ ว่าทางผู้บริหารมหาวิทยาลัยจะไม่ให้มีการจัดงานรำลึก 6 ตุลา ในพื้นที่ของมหาวิทยาลัย ขอให้ไปจัดแบบออนไลน์ โดยอ้างสถานการณ์ COVID-19 ทว่าทางคณะกรรมการจัดงานก็ได้ยืนยันขอจัดในพื้นที่จริง โดยจะปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดไว้สำหรับการจัดกิจกรรมในสถานศึกษา

“ซึ่งต่อมาทางมหาวิทยาลัยก็แจ้งมาว่าจะส่งเรื่องนี้ไปให้กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม และสำนักอนามัย กทม.เป็นผู้อนุมัติต่อไปในวันที่ 4 ตุลาคมนี้ แต่แล้วก็ปรากฏภาพที่มีผู้พบว่าพื้นที่ลานประติมากรรม 6 ตุลา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ใช้จัดงานรำลึกเป็นประจำทุกปี กลับถูกคลุมสแลนและกั้นไม่ให้เข้า อ้างว่ากำลังปรับปรุง ทั้งที่เห็นแล้วก็รู้ได้ว่าไม่ได้เป็นเช่นนั้นแน่ๆ”
นายรังสิมันต์กล่าว

Advertisement

นายรังสิมันต์ระบุอีกว่า สิ่งที่ทางผู้บริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์กำลังทำกับผู้จัดงานรำลึก 6 ตุลานั้น เป็นภาพสะท้อนเดียวกันกับสิ่งที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำกับประชาชนที่ต่อต้านตัวเอง การอ้างเรื่อง COVID-19 เพื่อไม่ให้จัดงานในรั้วมหาวิทยาลัย ก็เหมือนกับที่อ้างเรื่องนี้เพื่อจับกุมดำเนินคดีผู้ที่ออกมาชุมนุมขับไล่รัฐบาล การมาปิดปรับปรุงพื้นที่กันอย่างปัจจุบันทันด่วน ก็ไม่ต่างจากที่เอาต้นไม้มา “ประดับ” ปิดพื้นที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย สุดท้ายแล้วข้ออ้างเหล่านี้มันปิดเจตนาที่แท้จริงไม่ได้ แต่สิ่งที่ผู้บริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ควรจะต่างจากรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ คือควรที่จะตระหนักได้ว่าเหตุการณ์ 6 ตุลา 19 นั้นเป็นปฏิปักษ์ต่อคุณค่าประชาธิปไตย เป็นปฏิปักษ์ต่อเสรีภาพทุกตารางนิ้ว เป็นปฏิปักษ์กับการมีอยู่ของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ที่เป็นบ่อน้ำบำบัดความกระหายของราษฎร

“ผู้บริหารมหาวิทยาลัยควรสนับสนุนการรำลึกเหตุการณ์ในอดีตเพื่อให้เป็นอุทาหรณ์ ควรเป็นผู้ที่เข้าใจถึงความสำคัญของการรำลึกเหตุการณ์เหล่านี้มากที่สุดด้วยซ้ำ… ในฐานะศิษย์เก่าธรรมศาสตร์คนหนึ่งที่รู้สึกสะเทือนใจต่อชะตากรรมที่เพื่อนผู้มาก่อนหลายท่านต้องประสบ ขอฝากไปยังผู้บริหารมหาวิทยาลัยและคณาจารย์ผู้เป็นปูชนียบุคคลทั้งหลาย

Advertisement

“หลายท่านก็เป็นคนเดือนตุลา หรืออยู่ร่วมสมัยกับเหตุโศกนาฏกรรมนี้ ควรจะเข้าใจดีที่สุดว่าการปิดกั้นการแสดงออกเช่นนี้ ไม่ได้เป็นผลดีต่อทั้งมหาวิทยาลัยของพวกท่าน และต่อทั้งสังคมไทยที่ร้าวลึกในเวลานี้เลย ทบทวนใหม่เถิดครับ” นายรังสิมันต์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image