‘เด็กกลุ่มเสี่ยง-ติดโควิด’ ลงทะเบียนสอบทีแคสแล้ว 197 ราย เพิ่มสนามสอบพิเศษ 18 แห่งทั่วประเทศ

เด็กกลุ่มเสี่ยง-ติดโควิด ลงทะเบียนสอบทีแคสแล้ว 197 ราย เพิ่มสนามสอบพิเศษ 18 แห่งทั่วประเทศ

เมื่อวันที่ 8 มีนาคม นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า ตามที่ ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) และ อว.จัดโครงการ “ติดโควิด ยังมีสิทธิ์สอบ” เพื่อให้นักเรียนที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 กลุ่มสีเขียวและกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง ยังมีสิทธิ์เข้าสอบในระบบกลางบุคคลเข้าศึกษในสถาบันอุดมศึกษา หรือทีแคส โดยเป็นการทำงานร่วมกันของทั้ง 4 กระทรวง คือ กระทรวงศึกษาธิการ  กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวง อว. จัดห้องสอบพิเศษที่มีความปลอดภัยสูง แยกบริเวณชัดเจน เข้มงวดด้วยมาตรการทางสาธารณสุข บางแห่งจัดสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมที่พักและอาหารให้  ทาง ทปอ. ได้เปิดระบบลงทะเบียนสำหรับนักเรียนที่มีความประสงค์จะใช้สิทธิ์ดังกล่าวเป็นวันแรกในวันที่ 7 มีนาคม โดยทางออนไลน์แล้วพบว่าในวันแรกมีนักเรียนลงทะเบียนเข้าระบบการจัดสอบแบบพิเศษนี้แล้ว 197 คน เป็นผู้ที่ติดเชื้อ 183 คน และผู้มีความเสี่ยงสูง 14 คน โดยแจ้งขอเข้าสอบในวันที่ 12 มีนาคม มากที่สุด จำนวน 197 คน รองลงมาคือวันที่ 20 มีนาคม และ 19 มีนาคม จำนวน 171 และ 170 คน ตามลำดับ

ปลัด อว.กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามมีการเพิ่มสนามสอบพิเศษจาก 7 แห่งทั่วประเทศ เป็น 18 แห่งทั่วประเทศและอาจจะมีการเพิ่มตามความเหมาะสม และมีระบบ Open Chat เพื่อประสานงานให้นักเรียนที่มีข้อสงสัยได้สอบถามรายละเอียดในการจัดสอบ โดยให้ผู้เข้าสอบที่ติดเชื้อหรือมีความเสี่ยงสูงลงทะเบียนล่วงหน้าก่อนถึงวันสอบอย่างน้อย 1 วัน  และอาจจะมีเพิ่มเติมอีกตามความเหมาะสม  มีระบบและมาตรการการดูแลความปลอดภัยเข้มงวดสำหรับผู้เข้าสอบทั้งที่ไม่ติดเชื้อและติดเชื้อแยกจากกันชัดเจน

“สำหรับปฏิทินการสอบวิชาความถนัดทั่วไปหรือ GAT และวิชาความถนัดทางวิชาชีพ/วิชาการ หรือPAT และวิชาสามัญ ในระบบ TCAS65 ได้กำหนดสอบ GAT/PAT ในระหว่างวันที่ 12-15 มีนาคม 2565 ประกาศผลสอบวันที่ 18 เมษายน  2565 และสอบวิชาสามัญ ในระหว่างวันที่ 19-20 มีนาคม 2565 ประกาศผลสอบวันที่ 20 เมษายน 2565 โดยมีจำนวนผู้สมัคร GAT/PAT และวิชาสามัญ รวมทั้งสิ้น 183,228 คน แบ่งเป็นการสอบ GAT/PAT จำนวน 177,853 คน และสอบวิชาสามัญ จำนวน 155,282 คน” นพ.สิริฤกษ์ กล่าว

ทั้งนี้ สนามสอบทั้ง 18 แห่ง มีดังนี้ 1.สนามสอบพิเศษ ม.​ธรรมศาสตร์ (ศูนย์สอบ ม.​ธรรมศาสตร์) 2.สนามสอบพิเศษ ม.แม่โจ้ (ศูนย์สอบ ม.เชียงใหม่) 3.สนามสอบพิเศษ ม. เทคโนโลยีสุรนารี (ศูนย์สอบ ม. เทคโนโลยีสุรนารี) 4.สนามสอบพิเศษ ม. ขอนแก่น (ศูนย์สอบ ม. ขอนแก่น) 5.สนามสอบพิเศษ ม.วลัยลักษณ์ (ศูนย์สอบ ม.วลัยลักษณ์) 6.สนามสอบพิเศษ ม. สงขลานครินทร์ (ศูนย์สอบ ม. สงขลานครินทร์) 7.สนามสอบพิเศษจังหวัดจันทบุรี (ศูนย์สอบ ม. บูรพา) 8.สนามสอบพิเศษจังหวัดระยอง (ศูนย์สอบ ม. บูรพา) 9.สนามสอบพิเศษจังหวัดฉะเชิงเทรา (ศูนย์สอบ ม.​บูรพา) 10.สนามสอบพิเศษจังหวัดสุพรรณบุรี (ศูนย์สอบ ม.​ศิลปากร) 11.สนามสอบพิเศษจังหวัดสมุทรปราการ (ศูนย์สอบ ม.​เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี) 12.สนามสอบพิเศษจังหวัดนนทบุรี (ศูนย์สอบ ม.​เกษตรศาสตร์) 13.สนามสอบพิเศษจังหวัดตาก (ศูนย์สอบ ม.​นเรศวร) 14.สนามสอบพิเศษจังหวัดพะเยา (ศูนย์สอบ ม.​เชียงใหม่) 15.สนามสอบพิเศษจังหวัดอุบลราชธานี (ศูนย์สอบ ม.อุบลราชธานี) 16.สนามสอบพิเศษจังหวัดปัตตานี (ศูนย์สอบ ม.​สงขลานครินทร์) 17.สนามสอบพิเศษจังหวัดบุรีรัมย์ (ศูนย์สอบ ม.เทคโนโลยีสุรนารี) และ 18.สนามสอบพิเศษจังหวัดอุตรดิตถ์

Advertisement

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image