แนะคง กม. ‘โยกย้าย-แต่งตั้ง’ ของ กศจ.บางส่วน ยึดเกณฑ์ปรนัย-ไม่ใช้ดุลยพินิจเฟ้นบุคลากร เพื่อความเป็นธรรม จี้ ก.ค.ศ.หาช่องสกัดทุจริตรองรับคืนอำนาจ สพท.
ผศ.ดร.อดิศร เนาวนนท์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) นครราชสีมา เปิดเผยว่า กรณีที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เตรียมแก้กฎหมาย และระเบียบข้อบังคับต่างๆ ที่ประกาศใช้ในช่วงปี 2560-2565 กว่า 100 ฉบับ เพื่อรองรับร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 19/2560 เรื่องการปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของ ศธ.พ.ศ. … ซึ่งจะประกาศใช้ภายใน 90 วัน หลังสภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นชอบนั้น กรณีนี้เป็นการแก้กฎหมายลูก ซึ่งเรื่องใดที่เป็นอำนาจของคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) ต้องโอนให้คณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) ประจำสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ดังนั้น เรื่องที่ทุกคนกังวล จะเกี่ยวกับงานบริหารบุคคล อันเนื่องมาจากการแต่งตั้งโยกย้าย ซึ่ง ก.ค.ศ.จะต้องดำเนินการให้รัดกุม เพื่อไม่ให้เกิดช่องว่างการทุจริตเช่นที่ผ่านมา
ผศ.ดร.อดิศรกล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม แม้จะจัดทำระเบียบที่รัดกุม และมีกฎหมายลงโทษที่รุนแรงเพียงพอ ผู้ที่จะทุจริต ก็จะหาช่องทาง ทำให้ไม่สามารถเอาผิดได้ เพราะเป็นการสมยอม ซึ่งถือเป็นเรื่องยาก ดังนั้น หากเป็นไปได้ หลักเกณฑ์การแต่งตั้งโยกย้ายใดที่ กศจ.ทำไว้ดีแล้ว ก็อยากให้คงไว้ โดยเฉพาะการยึดเกณฑ์ปรนัยตามแนวทางวิทยาศาสตร์มาใช้ในการคัดเลือกคน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม โดยไม่นำดุลยพินิจ และความรู้สึก เข้ามาเกี่ยวข้อง
“เกณฑ์ปรนัยจะมีความเป็นธรรม ตรงที่ไม่มีการนำความรู้สึกเข้ามาวัด แต่ก็ยังมีข้อเสีย เพราะแม้จะได้คนที่ตรงตามหลักเกณฑ์ ก็อาจได้คนไม่ตรงตามความต้องการของผู้ใช้ อย่างไรก็ตาม การที่อำนาจแต่งตั้งโยกย้ายไปอยู่ที่ กศจ.ก็ถือว่าแก้ปัญหาการทุจริตที่เกี่ยวกับงานบุคคลได้ระดับหนึ่ง แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีปัญหาเลย ดังนั้น หากเป็นไปได้ การปรับกฎระเบียบต่างๆ ในคราวนี้ อยากให้ ก.ค.ศ.หาช่องทางอุดรอยรั่วดังกล่าว หากทำได้ก็จะเป็นเรื่องดี” ผศ.ดร.อดิศร กล่าว
