วิจารณ์สนั่น ศธ.โยนโรงเรียนคุมกฎ ‘ทรงผม’ ห่วงระบบอำนาจนิยม ลิดรอนสิทธิ น.ร.ง่ายขึ้น

วิจารณ์สนั่น ศธ.ปัดความรับผิดชอบ โยนโรงเรียนคุมกฎ ‘ทรงผม’ ห่วงถูกกดด้วย ‘อำนาจนิยม’ ลิดรอนสิทธิ น.ร.ง่ายขึ้น

จากกรณีที่ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ลงนามในระเบียบ ศธ.ว่าด้วยการยกเลิกระเบียบ ศธ.ว่าด้วยการไว้ทรงผมของนักเรียน พ.ศ.2563 เหตุที่ยกเลิกเป็นผลจากเสียงเรียกร้องให้มีการแก้ไขปรับปรุงระเบียบ ศธ.ว่าด้วยการไว้ทรงผมมาอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญการลงโทษเรื่องทรงผมได้ส่งผลถึงร่างกายและจิตใจของนักเรียน ขณะนี้ ศธ.ได้ยกร่างแนวนโยบายเกี่ยวกับการไว้ทรงผมของนักเรียนของสถานศึกษาไว้ ทั้งนี้ ให้สถานศึกษากำหนดลักษณะทรงผมความสั้น-ยาว การดัด ย้อม ไว้หนวด ไว้เครา ได้ตามพันธกิจ บริบท และความเหมาะสมของแต่ละสถานศึกษา

กรณีดังกล่าวทำให้เกิดเสียงวิจารณ์อย่างกว้างขวาง โดยมองว่า ไม่ใช่ “เสรีทรงผม” ตามที่กลุ่มนักเคลื่อนไหวพยายามเรียกร้อง รวมทั้งเสมือน ศธ.ปัดความรับผิดชอบให้แต่ละสถานศึกษากำหนดกรอบความเหมาะสมกันเอง ทว่าแต่ละแห่งอาจมี “มาตรฐาน” ไม่เหมือนกัน

น.ส.สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา ส.ส.นครปฐม เขต 3 พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ระบุว่า สิ่งที่เกิดขึ้นคือกลับไปเป็นเหมือนเดิม โยนให้โรงเรียนออกระเบียบเอง ไม่เกี่ยวกระทรวงแล้ว บางโรงเรียนก็จะใช้ระบบอำนาจนิยมเหมือนเดิม จะเห็นได้ว่ารัฐมนตรี ศธ.ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องสิทธิของนักเรียนเลย ไม่ได้สนใจเรื่องเสรีทรงผม จากระเบียบปี’63 ที่ดูก้าวหน้า ตอนนี้ถอยหลังอีกแล้ว

นายจักรกฤต โยมพยอม หรือ ครูทอม จักรกฤต ติวเตอร์สอนภาษาไทยชื่อดังและหนึ่งในผู้เคลื่อนไหวด้านการศึกษา มองว่า เห็นประกาศยกเลิกระเบียบกระทรวงเรื่องทรงผม อืม… เหมือนจะดี แต่ก็ยอมรับว่าเอ๊ะๆ นิดนึงแหละ อะเลยไปหาอ่านเพิ่มในเว็บกระทรวง ก็คือสรุปได้ว่ายกเลิกประกาศกฎเดิม แล้วเปิดโอกาสให้โรงเรียนออกกฎได้เองเลยจ้า คิดว่าจะมีกี่โรงเรียนเอ่ยที่ให้ความสำคัญกับสิทธิเด็ก

“แม้ว่าจะมีบอกว่า ก่อนโรงเรียนออกกฎอย่างเป็นทางการ ให้หารือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (นักเรียน ผู้ปกครอง คนในชุมชน ฯลฯ) ก่อนนะ อะ แต่ที่ผ่านมา ก็มีระบุไว้แบบนี้เหมือนกัน ละถามว่าเป็นไงล่ะ ก็อย่างที่เห็นจ้า

“สรุปง่ายๆ คือถ้าโรงเรียนไหนออกกฎเรื่องทรงผม แปลว่าอย่ามาด่ากระทรวงค่าาาา โรงเรียนออกกฎเองค่า ไม่เกี่ยวกับกระทรวงค่าาาา คือถ้าจะให้ดีอะ กระทรวงต้องออกกฎมาว่าห้ามโรงเรียนบังคับเรื่องทรงผมจ้าาาาา” ครูทอมระบุ

ด้าน ด.ช.ณัฐพล นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน กทม. ตัวแทนกลุ่มนักเรียนมูฟออน กล่าวบางช่วงบางตอนว่า ตนไม่เห็นด้วย หากกระจายอำนาจให้สถานศึกษาเป็นผู้กำหนดระเบียบทรงผม อาจจะมีการละเมิดสิทธิเด็ก ละเมิดสิทธิของนักเรียนเพิ่มขึ้น เพราะโรงเรียนอาจจะออกกฎระเบียบที่จำกัดสิทธิเด็กเสียเอง เช่น อาจจะกำหนดให้นักเรียนชายไว้ทรงทหาร หรือให้นักเรียนหญิงไว้ผมสั้น และหากพบนักเรียนไม่ปฏิบัติตาม ก็จะอาจจะกล้อนผม หรือลงโทษนักเรียน ซึ่งเป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของนักเรียนอย่างมาก

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ขณะที่วานนี้ (24 มกราคม) กลุ่มนักเรียนเลว ยื่นข้อเรียกร้องให้ ศธ.แก้ไขสภาวะสุญญากาศทางกฎหมายจากการยกเลิกกฎกระทรวงต่อ น.ส.ตรีนุช โดยมีรองปลัดกระทรวงศึกษาธิการและคณะมารับหนังสือ ข้อเรียกร้องมีใจความสำคัญ ดังนี้

1.กระทรวงศึกษาธิการต้องหยุดสภาวะสุญญากาศทางกฎหมายนี้ ด้วยการออกคำสั่งห้ามมิให้โรงเรียนในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการออกระเบียบทรงผมของตนเองขึ้นโดยทันที เพื่อคุ้มครองนักเรียนจากการถูกละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐาน นั่นคือสิทธิในการไว้ทรงผมของตนเอง

2.คณะรัฐมนตรีต้องเสนอแก้ไข พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 หรือแก้ไขกฎกระทรวงกำหนดความประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา พ.ศ.2548 ให้มีการคุ้มครองและประกันศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของนักเรียน และกำหนดหลักการดำเนินงานอย่างชัดเจนมากขึ้น หรือออกมาตการทางกฎหมายใดๆ ให้ที่จะมั่นใจต่อสังคมได้ว่าโรงเรียนจะไม่มีการบังคับนักเรียนตัดผมอีกต่อไป และสามารถรับรองได้ว่าจะมีการรับฟังความคิดเห็นของนักเรียนเป็นสำคัญ

3.คณะรัฐมนตรีต้องแก้ไขกฎหมายต่างๆ โดยให้การคุ้มครองและปฏิบัติตามสิทธิเด็กและสิทธิมนุษยชนเป็นสำคัญมากขึ้น เช่น ให้ทุกคณะกรรมการโรงเรียนต้องมีสัดส่วนของนักเรียนอยู่ด้วย เพื่อเป็นหลักประกันในการดุลอำนาจของฝ่ายนักเรียนต่อฝ่ายอื่นๆ และส่งเสริมการมีส่วนร่วมในเด็กและเยาวชนในการบริหารสถานศึกษา

นอกจากนี้ กลุ่มนักเรียนเลวได้ระบุทางทวิตเตอร์ @BadStudent_ ด้วยว่า กฎทรงผมถูกยกเลิกฟ้าผ่า โดยตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในช่วงไม่กี่เดือนก่อนจะเลือกตั้งใหญ่ แต่ภายใต้การยกเลิกกฎทรงผมของตรีนุชพยายามขายฝันนั้น กำลังทำให้หัวของเด็กไทยถูกกลืนกินไปมากกว่าเดิม

จากเหตุการณ์ในวันนี้ที่ ตรีนุช เทียนทอง ได้ลงนามยกเลิกกฎทรงผมของกระทรวง และโยนอำนาจการออกกฎทรงผมไปไว้ที่โรงเรียน แสดงให้เห็นว่าตรีนุชไม่ได้มีความต้องการที่จะทำให้เสรีทรงผมเกิดขึ้นในโรงเรียน และกำลังพยายามทำให้นักเรียนถูกบังคับตัดผมอย่างหนักหน่วงขึ้น

ที่ผ่านมา ถึงแม้จะมีกฎทรงผมของกระทรวงบังคับใช้อยู่ แต่หลายโรงเรียนก็ยังบังคับนักเรียนตัดผมเป็นว่าเล่น จนเกิดการต่อสู้เรียกร้องขึ้นมากมาย ในวันนี้ที่กฎทรงผมของกระทรวงถูกยกเลิกไป ยิ่งทำให้โรงเรียนได้ใจและบังคับนักเรียนตัดผมได้อย่างอิสระโดยไร้การควบคุม

เราไม่ควรยินดีกับการยกเลิกกฎทรงผมในครั้งนี้ เพราะสิ่งที่ตรีนุชกำลังทำ ไม่ใช่ “เสรีทรงผม” แต่คือ “สุญญากาศกฎทรงผม” การกระทำเช่นนี้เปิดทางให้โรงเรียนตั้งกฎทรงผมตามใจชอบ และถึงแม้จะต้องหาข้อตกลงระหว่างผู้ปกครองกับโรงเรียนเหมือนในกฎที่พึ่งยกเลิกไป แต่สิ่งนี้ถูกขยับมาอยู่ในระดับของนโยบายเท่านั้น ซึ่งโรงเรียนสามารถที่จะทำตามหรือไม่ทำตามก็ได้ และที่สำคัญไม่มีคำว่า “กฎทรงผมของโรงเรียนต้องไม่ขัดแย้งกับกฎทรงผมของกระทรวง” ไว้คอยคุ้มกันหัวของพวกเราอีกแล้ว

ในไม่ช้าเราน่าจะเห็นโรงเรียนที่มีผู้บริหารบ้าอำนาจเริ่มนำกฎทรงผมเกรียน-ติ่งกลับมาใช้อีก และในโรงเรียนที่ยังมีกฎแบบนั้นอยู่ก็น่าจะบังคับใช้มันอย่างเข้มข้นขึ้น

โดยรวมการประกาศนี้แทนที่จะสร้าง “เสรีทรงผม” ตามที่ตรีนุชพยายามกล่าวอ้าง กลับกลายเป็นฐานอำนาจในการบงการทรงผมบนหัวนักเรียนไทยให้ทวีความรุนแรงขึ้นยิ่งกว่าเดิม ตรีนุชได้อ้างว่าตนทำให้กฎทรงผมก้าวหน้า แต่ความเป็นจริงสิ่งที่เธอทำคือทำให้กฎทรงผมถอยหลังลงคลองมากกว่า

ยกเลิกกฎทรงผมเฉยๆ ≠ เสรีทรงผม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image