อว.เซ็นตั้ง กก.ควบคุม ‘ม.พิษณุโลก‘ หลังพบแต่งตั้งตำแหน่งวิชาการ 51 อาจารย์ ผิดหลักเกณฑ์
เมื่อวันที่ 16 มีนาคม ศ.พิเศษ เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า อว.มีคำสั่งให้มหาวิทยาลัยพิษณุโลกอยู่ในความควบคุม และแต่งตั้งคณะกรรมการควบคุมฯ ทำหน้าที่สภามหาวิทยาลัย โดยคำแนะนำของคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) จากกรณีที่มหาวิทยาลัยพิษณุโลกได้ดำเนินการกำหนดตำแหน่งวิชาการในมหาวิทยาลัยไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ กกอ.กำหนด ทั้งนี้ อว.ได้พิจารณาอย่างรอบคอบ และให้โอกาสมหาวิทยาลัยพิษณุโลก ในการแก้ไขการกำหนดตำแหน่งวิชาการให้ถูกต้องมาหลายครั้งแล้ว แต่มหาวิทยาลัยไม่ดำเนินการให้ถูกต้อง ครบถ้วน จึงได้มีคำสั่งควบคุมมหาวิทยาลัยพิษณุโลกโดยคำแนะนำของ กกอ.
ศ.พิเศษ เอนกกล่าวอีกว่า โดยได้แต่งตั้งคณะกรรมการ 10 ท่าน มีนายสุมนต์ สกลไชย อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) และอดีตกรรมการควบคุมมหาวิทยาลัยอีสาน ทำหน้าที่เป็นประธาน ส่วนกรรมการ ประกอบด้วย นายศุภชัย ปทุมนากุล นายบรรเจิด สิงคะเนติ นายผดุงศักดิ์ รัตนเดโช นายพีระพงศ์ ทีฆสกุล นทยสุรศักดิ์ ฐานีพานิชสกุล นายชาลี ทองเรือง นายวีรยา ฉิมอ้อย นายสุทน เฉื่อยพุก และผู้อำนวยการกองกฎหมาย สำนักงานปลัด อว.เข้ามาทำหน้าที่ เพื่อไม่ให้มหาวิทยาลัยเกิดความเสียหาย ทั้งนี้ การกำหนดตำแหน่งวิชาการให้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์และวิธีการนั้น สำคัญมาก เป็นตัวชี้วัดที่สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพ คุณภาพ และความเป็นมาตรฐานของสถาบันอุดมศึกษา ทั้งนี้ การเข้าควบคุมจะเริ่มตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
“ที่ผ่านมา อว.พยายามให้เกิดความถูกต้องเป็นธรรมในการกำหนดตำแหน่งวิชาการให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ กกอ.กำหนด โดยให้สภามหาวิทยาลัยพิษณุโลกพิจารณาถอดถอนตำแหน่งทางวิชาการของคณาจารย์มหาวิทยาลัยพิษณุโลก ที่ไม่เป็นไปตามระเบียบ แต่สภามหาวิทยาลัยพิษณุโลกกลับไม่ถอดถอนตามมติ กกอ.ดังนั้น อว.จึงต้องมีคำสั่งควบคุม และแต่งตั้งคณะกรรมการควบคุมมหาวิทยาลัยพิษณุโลก เพื่อรักษากติกา และความถูกต้องทางการศึกษาไว้ ที่สำคัญเพื่อไม่ให้สถาบันอุดมศึกษาต้องเสียหาย เพราะสถาบันอุดมศึกษาต้องเป็นแบบอย่างที่ถูกต้องของสังคม” ศ.พิเศษ เอนก กล่าว
ด้าน ศ.ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ ประธานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ กกอ.ได้แจ้งให้สภามหาวิทยาลัยพิษณุโลกพิจารณาถอดถอนตำแหน่งทางวิชาการของคณาจารย์มหาวิทยาลัยพิษณุโลกที่ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ 51 ตำแหน่ง โดยได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และตรวจสอบการดำเนินการพิจารณากำหนดตำแหน่งทางวิชาการของมหาวิทยาลัยพิษณุโลก พร้อมทั้งมอบคณะอนุกรรมการด้านกฎหมาย พิจารณาประเด็นที่เกี่ยวข้องกับข้อกฎหมายก่อนเสนอ กกอ.พิจารณา หลังจากที่ กกอ.ได้พิจารณาอย่างรอบคอบ รวม 13 ครั้ง และได้มีหนังสือแจ้งมติ พร้อมรายละเอียดผลการพิจารณาไปยังมหาวิทยาลัยพิษณุโลก รวม 9 ฉบับ เพื่อให้ดำเนินการให้ถูกต้อง ซึ่งภายหลังมหาวิทยาลัยพิษณุโลกได้มีมติถอดถอนตำแหน่งทางวิชาการของคณาจารย์มหาวิทยาลัยพิษณุโลก 13 ตำแหน่ง ส่วนที่เหลืออีก 38 ตำแหน่ง ยังไม่ได้ดำเนินการให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ กกอ.กำหนด
“นอกจากนี้ การดำเนินการ และการจัดส่งเอกสารมายังสำนักงานปลัด อว.ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ และมีความบกพร่องที่แสดงให้เห็นถึงการไม่ปฏิบัติตามมติ กกอ.ดังนั้น กกอ.จึงได้เสนอรัฐมนตรีว่าการ อว.พิจารณาสั่งการให้สภามหาวิทยาลัยพิษณุโลกทบทวนการแต่งตั้งคณาจารย์ให้ดำรงตำแหน่งทางวิชาการให้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ กกอ.กำหนดภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้ง ซึ่งเป็นไปตามความในมาตรา 7 วรรคหนึ่ง ประกอบกับมาตรา 86(2) แห่ง พ.ร.บ.สถาบันอุดมศึกษาเอกชน พ.ศ.2546 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งหากสภามหาวิทยาลัยพิษณุโลกไม่ดำเนินการภายใน 15 วัน จะถือว่าเป็นการจงใจไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงาน ที่ได้สั่งการโดยชอบตามที่กฎหมายกำหนด แต่เมื่อครบกำหนดระยะเวลา 15 วันแล้ว สภามหาวิทยาลัยพิษณุโลกยังไม่ได้แจ้งผลการพิจารณาทบทวนให้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ กกอ.กำหนด” ศ.ดร.สมคิด กล่าว
ศ.ดร.สมคิดกล่าวอีกว่า จากนั้น กกอ.จึงมีมติให้แจ้งสภามหาวิทยาลัยพิษณุโลกดำเนินการตามหนังสือสั่งการของรัฐมนตรีว่าการ อว.โดยเคร่งครัด พร้อมทั้งรายงานผลการดำเนินการให้ กกอ.ทราบภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้งมติ ซึ่งจนบัดนี้ได้ครบระยะเวลาตามที่กำหนดแล้ว แต่สภามหาวิทยาลัยพิษณุโลกยังไม่ได้แจ้งผลการดำเนินการตามมติ กกอ.ดังนั้น จึงจำเป็นต้องดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อทำหน้าที่สภามหาวิทยาลัย เพื่อพิจารณาแก้ไขปัญหาตามมาตรา 86 วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ.สถาบันอุดมศึกษาเอกชน พ.ศ.2546 และที่แก้ไขเพิ่ม
ด้าน รศ.ดร.สุมนต์ สกลไชย ประธานคณะกรรมการควบคุมมหาวิทยาลัยพิษณุโลก กล่าวว่า คณะกรรมการควบคุมฯ จะเข้าไปปฏิบัติงานแทนสภามหาวิทยาลัย แต่งตั้งรักษาการอธิการบดีเข้าไปดำเนินการแก้ไขปัญหาความไม่ถูกต้องที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ คณะกรรมการควบคุมฯ จะดำเนินการด้วยความรวดเร็ว โปร่งใส และให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายที่รับผลกระทบจากการเข้าควบคุมในครั้งนี้ โดยไม่ให้มีผลกระทบต่อนักศึกษา
