เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม ที่โรงเรียนปอแดงวิทยา ต.นาดี อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ นายภูมิพัทธ เรืองแหล่ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 2 นางระเบียบ จันทร์ชมภู ผู้อำนวยการโรงเรียนฯ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่บุคลากร คณะครู ผู้ปกครองและนักเรียน ร่วมกินข้าวป่าในนาและเปิดกิจกรรมนวดข้าวที่บริเวณนาข้าวอินทรีย์เนื้อที่ 2 งาน ที่ปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี่ไว้ด้านหลังโรงเรียนปอแดงวิทยา
โดยนายภูมิพัทธ เรืองแหล่ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์เขต 2 ได้เปิดคอร์สพิเศษสอนนักเรียนตีหรือนวดข้าวตามวิถีการทำนาแบบดั้งเดิม โดยนางระเบียบ จันทร์ชมภู ผู้อำนวยการโรงเรียนปอแดงวิทยา พร้อมคณะครู ได้ทาลานด้วยมูลกระบือ ซึ่งเป็นการเตรียมพื้นที่ไว้สำหรับเป็นลานตีข้าวแบบโบราณ โดยรวมมัดข้าวตากไว้ในลานเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ก่อนจะเริ่มทำการตีหรือนวดข้าวด้วยไม้คีบ ซึ่งเป็นวิถีดั้งเดิมของการทำนาซึ่งนักเรียนส่วนใหญ่เป็นลูกชาวนา แต่ยังขาดการเรียนรู้เรื่องการทำนา เนื่องจากปัจจุบันมีการจ้างเครื่องจักรมากกว่า
นายภูมิพัทธ เรืองแหล่ ผอ.สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 กล่าวว่า สำหรับการทำนาของโรงเรียนปอแดงวิทยา เริ่มจากการเป็นนาข้าวปลอดภัย และยกระดับเป็นนาข้าวอินทรีย์ปลอดสารเคมี ซึ่งเป็นการทำนาในโรงเรียนและให้นาเป็นห้องเรียนมีชีวิต ใช้เวลาว่างและชั่วโมงของลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ของกระทรวงศึกษาธิการ ทำกิจกรรมในนาข้าวตลอดทั้งฤดูกาลผลิต ซึ่งการทำนาของโรงเรียนปอแดงถึงแม้จะมีพื้นที่จำกัด เพียง 2 งาน แต่ได้ข้าวจากการทำนามากถึง 500 กิโลกรัม และยังทำนาได้ถึง 2 ครั้งต่อปี เป็นการใช้ประโยชน์จากพื้นที่หลังโรงเรียนจำนวน 1 ไร่ 1 งาน 38 ตารางวา ซึ่งเป็นพื้นที่เกษตรพอเพียง ตามรอยพ่อหลวงรัชกาลที่ 9 มีทั้งสระน้ำเลี้ยงปลา พื้นที่ปลูกพืชผักสวนครัว และโรงเรือนเลี้ยงไก่ไข่ ซึ่งนอกจากจะเป็นอาหารกลางวันสำหรับเด็กแล้วยังเป็นแหล่งรายได้ของนักเรียนด้วย
“ส่วนตัวก็เป็นลูกชาวนายังอยากจะเห็นนักเรียน ซึ่งเป็นลูกหลานได้เรียนรู้วิถีชาวนาจริง ๆ หลายแห่งอาจจะดำนาเกี่ยวข้าว แต่ที่นี่เราได้ฟื้นเอาการตีหรือนวดข้าว ซึ่งเป็นการทำนาจากแรงงานคนมาช่วยลดต้นทุนการผลิตการทำนาหลังรถเกี่ยวรถสีราคาแพงและต้องต่อคิวยาว ทั้งนี้นาข้าวของโรงเรียนปอแดงวิทยา ยังเป็นศูนย์รวมแหล่งเรียนรู้เรื่องการทำนาอินทรีย์ของชุมชน ทำให้ชุมชนละแวกใกล้เคียงโรงเรียนเป็นนาข้าวอินทรีย์กว่าร้อยละ 80 เป็นการปรับเปลี่ยนวิธีการทำนาจากโรงเรียนสู่ชุมชนที่เห็นผลในเชิงประจักษ์” นายภูมิพัทธกล่าว