นักวิชาการแนะ ‘ครูอุ้ม’ กล้าผ่าตัด ปฏิรูปหลักสูตร เปลี่ยนการสอน ลดอำนาจนิยมใน ร.ร.

นักวิชาการแนะ ‘ครูอุ้ม’ กล้าผ่าตัด ปฏิรูปหลักสูตร-เปลี่ยนการสอนของครู ลดอำนาจนิยมใน ร.ร. สร้างค่านิยมใหม่

ศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ นักวิชาการด้านการศึกษา เปิดเผยว่า จากกรณีที่ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ประกาศมอตโต้ หรือนโยบาย “เรียนดี มีความสุข” มองว่าประกาศเพียงนโยบายเพียงอย่างเดียว เพราะไม่ตรงกับข้อเท็จจริง และขัดแย้งกับสถานการณ์การศึกษาในปัจจุบัน ขณะนี้จะเห็นว่าเด็กไทยไม่ใช่เรียนดี มีความสุข แต่เป็นเรียนหนัก มีแต่ทุกข์ เพราะระบบการเรียนรู้ของเราเต็มไปด้วยเนื้อหาสาระ เน้นเรื่องการเปรียบเทียบ แข่งขัน และการสอบ โดยเด็กในไทยน่าจะเรียนหนัก และเรียนเยอะที่สุดในโลกแล้ว

ศ.ดร.สมพงษ์กล่าวต่อว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือมอตโต้นี้ จะดึงการศึกษาไทยกลับไปสู่อดีต ถ้าจะทำให้เด็กเรียนดี และมีความสุข จะต้องเปลี่ยนหลักสูตรไปสู่อนาคต เรียนการสร้างการเป็นพลเมือง เน้นหลักสูตรฐานสมรรถนะในโลกยุคใหม่ มอตโต้ที่ประกาศมากลับพาย้อนยุคไปสู่อดีตใน พ.ศ.2503 ที่มีวิชาหน้าที่พลเมือง วิชาประวัติศาสตร์ วิชาศีลธรรม วิชาวิทยาศาสตร์ วิชาภาษาอังกฤษ และวิชาภาษาไทย เป็นต้น ซึ่งเป็นการกลับไปสู่อดีตมากเกินไป อีกทั้ง แนวความคิดของรัฐมนตรีว่าการ ศธ.ที่บอกว่าครู คือพ่อพิมพ์ แม่พิมพ์ เป็นความคิดในยุค 20-30 ปีที่แล้ว ที่ผลักดันให้มี “บวร” บ้าน วัด โรงเรียน และแก้ไขปัญหาการศึกษาด้วยอริยสัจสี่ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องดีในอดีต แต่ปัจจุบันหลายเรื่องตกยุคไปแล้ว ครูในโลกยุคใหม่ ไม่ใช่พ่อพิมพ์ แม่พิมพ์แล้ว แต่ครูเป็นนักจัดการการเรียนรู้ ที่จะต้องจัดการทักษะสมรรถนะสมัยใหม่ สอนความรู้ประสบการณ์ที่เป็นพื้นฐาน และสอนความรู้ในระบบไอทีให้นักเรียนไปต่อยอด

“ปัจจุบัน และอนาคต ระบบการศึกษาจะมีทั้งในระบบ นอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย มองว่าแนวความคิดเรื่อง บวร บ้าน วัด โรงเรียน ยังใช้ได้อยู่ แต่ต้องเพิ่มชุมชน ไอที และการมีอาชีพไปด้วย ดังนั้น สิ่งที่รัฐมนตรีว่าการ ศธ.ต้องแก้ไข คือต้องยกเลิกหลักสูตร 8 กลุ่มสาระ พร้อมกับปฏิรูประบบหลักสูตร ปฏิรูปการเรียนรู้ ดูการผลิตครูในแนวคิดใหม่ ให้ครูเป็นนักจัดการการเรียนรู้ ส่วนโรงเรียนต้องเปิดกว้างให้เรียน 3 ระบบ คือ ในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศัย อีกทั้ง จะต้องเปลี่ยนการวัดผลประเมินผล โดยให้เน้นการดูทักษะเด็กหลายๆ ด้าน ลดการแข่งขัน เปลี่ยนเป็นการสอนแบบร่วมมือ” ศ.ดร.สมพงษ์ กล่าว

Advertisement

ศ.ดร.สมพงษ์กล่าวอีกว่า หากรัฐมนตรีว่าการ ศธ.ต้องการขับเคลื่อนเรียนดี มีความสุข ให้เห็นผลได้จริง จะต้องปรับปรุงปฏิรูประบบหลักสูตรครั้งใหญ่ เปลี่ยนกระบวนการจัดการเรียนการสอนของครู ที่จะต้องเปลี่ยนจากการสอนเนื้อหา เน้นท่องจำ เป็นนักจัดการการเรียนรู้ และความสุขของเด็ก และครู เกิดจากการปฏิสัมพันธ์เชิงบวก ไม่ใช่เน้นการมีระเบียบวินัย การลงโทษที่ปัจจุบันยังเห็นอยู่ จะต้องลดการใช้อำนาจนิยมในโรงเรียนลงด้วย และเมื่อรัฐมนตรีว่าการ ศธ.มีนโยบายมีมอตโต้แล้ว ต้องกล้าผ่าตัด กล้าเปลี่ยนแปลง ปฏิรูป สร้างค่านิยมใหม่ด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image