ประเมินผลงาน 1 ด. ‘ครูอุ้ม-ศุภมาส’ นักวิชาการชี้ ห่างไกล ‘ปฏิรูป-ลดความเหลื่อมล้ำ’

ประเมินผลงาน 1 ด. ‘ครูอุ้ม-ศุภมาส’ นักวิชาการชี้ ห่างไกล ‘ปฏิรูป-ลดความเหลื่อมล้ำ’ แนะ ภท.แก้ปัญหาครู-ดัน กม.-วิจัยตอบโจทย์ ปท.

ศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ นักวิชาการด้านการศึกษา เปิดเผยว่า กรณีที่ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้เข้าบริหารงานในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการ ศธ.ครบ 1 เดือน พบว่า นโยบายรัฐบาลที่ประกาศต่อรัฐสภา และนโยบายของรัฐมนตรีว่าการ ศธ.เมื่อเทียบ 1 เดือนที่ผ่านมา นโยบายที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กับนโยบายที่ พล.ต.อ.เพิ่มพูนประกาศ มีส่วนคล้ายกันเพียง 30% เท่านั้น ทั้งนี้ พบว่ามีคำสำคัญที่หายไป แต่คำนี้กลับเป็นปัญหาสำคัญของการศึกษาไทย ที่ไม่ได้นำไปปฏิบัติ หรือทำให้เห็นเป็นรูปธรรมชัดเจน คือคำว่าปฏิรูปการศึกษา และความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา

“ทั้ง 2 เรื่องสำคัญ เพราะถ้าจะปฏิรูปการศึกษา ต้องทำโครงสร้าง ปฏิรูปกฎหมาย คือผลักดันร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ การปรับหลักสูตรใหม่ และการกระจายอำนาจ ซึ่งสิ่งเหล่านี้หายไป ไม่มีการพูดถึง ส่วนความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ไม่ได้ถูกยกขึ้นมาให้เกิดความชัดเจน ว่าจะทำอย่างไรให้ความเหลื่อมล้ำดีขึ้น นอกจากนี้ จะพบความต่างของนโยบายอีก คือนโยบายของนายกฯ เน้นเรื่องของครูแนะแนว มาแนะแนวเด็ก แต่นโยบายของ ศธ.กลับเน้นการแก้ไขปัญหาหนี้สินครู” ศ.ดร.สมพงษ์ กล่าว

ศ.ดร.สมพงษ์กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ จะพบจุดเน้นของนโยบายนายกฯ และนโยบายของ ศธ.ที่เหมือนกัน คือจบแล้วมีงานทำ ดังนั้น งานที่ ศธ.ทำ ยังไม่สัมพันธ์ และสอดคล้องกับนโยบายที่รัฐบาลประกาศต่อรัฐสภา ซึ่งยังไม่เห็นทิศทางว่าจะทำให้การศึกษาเปลี่ยนแปลง ปฏิรูป และลดความเหลื่อมล้ำได้

Advertisement

ศ.ดร.สมพงษ์กล่าวอีกว่า ขณะนี้ ศธ.ได้แต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงจนครบแล้ว สิ่งที่ควรทำมากที่สุดในเวลานี้ คือการบริหารจัดการงานบุคคลให้ดี เช่น เมื่อโยกนายอรรถพล สังขวาสี จากตำแหน่งปลัด ศธ.ไปเป็นเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) ด้วยเหตุผลที่ต้องการผลักดันร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ก็ควรจะเร่งผลักดันร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติฉบับใหม่ ให้เสร็จภายใน 2 ปี เป็นต้น

“ผมคิดว่าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เป็นพรรคที่ถูกปรามาสมากในเรื่องของการศึกษา ถ้าเร่งผลักดันเรื่องการศึกษา และเห็นประโยชน์ต่อการศึกษาจริงๆ ก็จะพลิกศรัทธาได้ แต่ขณะนี้นโยบายจืด และอ่อน ไม่สัมพันธ์กับนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภา และไม่รู้ว่าการก้าวไปข้างหน้า และอนาคตจะอยู่ตรงไหน การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญคือเรื่องอะไร ครูที่มีปัญหา และมีภาระหนัก จะได้รับการแก้ไขอย่างไร นโยบายที่บอกว่าก้าวไปด้วยกัน เรียนดีมีความสุข แม้ภาพจะดูบวก แต่ตอบโจทย์ปัญหาการศึกษาไทยได้หรือไม่ ประเด็นสำคัญที่ควรแก้กลับปล่อยทิ้ง และมาผลักดันประเด็นเล็กๆ แทน แม้นโยบายที่ทำอยู่จะโอเค แต่ไม่มีฤทธิ์ ไม่มีอำนาจ ไม่มีทิศทางที่ทุกคนเข้าใจตรงกัน ไม่เห็นทิศทางที่ครู และเด็กมั่นใจว่าได้คนที่ถูกต้องมาบริหาร และพัฒนาการศึกษาของประเทศ” ศ.ดร.สมพงษ์ กล่าว

ศ.ดร.สมพงษ์กล่าวต่อว่า ส่วนระดับอุดมศึกษา ที่ น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้แถลงนโยบายที่สังเกตได้ว่า ภท.มาดูแลการศึกษาตั้งแต่ขั้นพื้นฐานจนถึงอุดมศึกษา ซึ่งทั้ง ศธ.และ อว.ต่างใช้นโยบายเหมือนกัน คือ “เรียนดีมีความสุข” ทำสตาร์ทอัพ ลดภาระผู้ปกครอง แต่สิ่งที่ น.ส.ศุภมาสไม่ได้พูดถึง แต่นายกฯ ได้ประกาศไว้ คือจะส่งเสริมงานวิจัยและพัฒนา ทั้งด้านสังคม ด้านวิทยาศาสตร์ประยุกต์ และการวิจัยขั้นแนวหน้า เพื่อต่อยอดให้เกิดการพัฒนาองค์ความรู้เทคโนโลยีและนวัตกรรม มองว่าสิ่งที่ น.ส.ศุภมาสควรทำ คือทำงานวิจัยตอบโจทย์ประเทศ เพราะทุกวันนี้มหาวิทยาลัยต่างคนต่างทำ โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยที่ออกนอกระบบราชการแล้ว จะพยายามพึ่งตัวเอง หารายได้ให้ตนเอง ทำให้มุ่งแต่หาผลประโยชน์ และทำวิจัยที่มุ่งเน้นตอบโจทย์บุคลากรของตนเองเท่านั้น แต่ไม่ตอบโจทย์การพัฒนาประเทศเลย มหาวิทยาลัยแทบจะแยกตัวออกมา ต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างทำ ไม่มีเอกภาพในการร่วมเปลี่ยนแปลงประเทศเลย

Advertisement

“มหาวิทยาลัยไม่คิดถึงปัญหาของประเทศ เรื่องความยากจน หรือช่วยเหลือสังคม และชุมชนแลย กลับแยกตัวเป็นเอกเทศ และมุ่งแต่อันดับของมหาวิทยาลัยเป็นหลัก ดังนั้น น.ส.ศุภมาสต้องพยายามทำให้มหาวิทยาลัยกลับมาใส่ใจคนไทย ปัญหาสังคม ปัญหาสิ่งแวดล้อม ปัญหาต่างๆ ที่เพิ่มมากขึ้น ดังนั้น 1 เดือนที่ผ่านมา มองว่า อว.ทำงานไม่ตอบโจทย์นโยบายที่รัฐบาลตั้งไว้ จึงต้องทำให้มหาวิทยาลัยมีทิศทาง ใช้งานวิจัยตอบโจทย์ประเทศมากกว่าตอบโจทย์บุคลากรของตน นอกจากนี้ น.ส.ศุภมาสควรจะรื้อเรื่องการขอตำแหน่งทางวิชาการในมหาวิทยาลัยด้วย เพราะพบว่ากลุ่มอาจารย์ที่เห็นต่าง จะถูกดอง ถูกดึงเวลาการขอตำแหน่งทางวิชาการ ทั้งที่เรื่องนี้ควรจะโปร่งใส ยุติธรรม เท่าเทียมกัน” ศ.ดร.สมพงษ์ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image