ศธ.จับมือ สธ.ร่วมพัฒนาสุขภาพ ‘ม.ต้น-ขยายโอกาส’ 1 ล้านคน ปี’67

ศธ.จับมือ สธ.ร่วมพัฒนาสุขภาพ ‘ม.ต้น-ขยายโอกาส’ 1 ล้านคน ปี’67

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และโฆษก ศธ.เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จัดประชุมร่วมกันเพื่อส่งเสริมสุขภาพของนักเรียนต่อสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สธจ.) ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) และผู้อำนวยการโรงเรียนทั่วประเทศ เนื่องจาก พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการ ศธ.ให้ความสำคัญต่อคุณภาพการเรียน การศึกษา ภายใต้นโยบายเรียนดีมีความสุข เพราะการศึกษาไทยจะพัฒนาก้าวหน้าไปได้ ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่เอื้อต่อการพัฒนาการเรียนการสอนด้วย คือผู้เรียน และผู้สอน ต้องมีความสุข ซึ่งรัฐมนตรีว่าการ ศธ.มองว่าสิ่งใดที่รัฐบาลชุดที่ผ่านมาทำแล้วดี จะทำต่อ ไม่ว่าจะเป็นโครงการยกระดับคุณภาพนักเรียนไทยในศตวรรษที่ 21 ด้วยหลัก 4H (Head, Heart, Hand และ Health) ร่วมกับ 12 กระทรวง และโครงการ “หนึ่งโรงเรียนหนึ่งครูอนามัย สร้างเด็กไทยรอบรู้สุขภาพ”

“ปีที่ผ่านมา สพฐ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้พัฒนาสุขภาพครูโรงเรียนมัธยม เพื่อถ่ายทอดให้นักเรียนมัธยมปลายทั่วประเทศ 1 ล้านคน มีความรู้ด้านสุขอนามัย ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างดี ปีนี้ ศธ.จะสานต่อ และขยายให้ครอบคลุมมัธยมต้น และโรงเรียนขยายโอกาส ช่วยให้นักเรียนเข้าถึงบริการคัดกรองสุขภาพ ทั้งกาย และใจในเบื้องต้น ศธ.เชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะช่วยสร้างเสริมภูมิคุ้มกัน และวัคซีนหัวใจให้นักเรียน รวมถึง ผู้สอนได้” นายสิริพงศ์ กล่าว

ด้านนางเกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการคณะกรรมการศึกษาการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า ที่ผ่านมา สพฐ.และ สธ.ร่วมกันพัฒนาให้ความรู้ด้านสุขภาพกาย และใจ กับนักเรียนผ่านครูอนามัยประจำโรงเรียน สำหรับปี 2567 มีแผนการขับเคลื่อน โดยมีเป้าหมายให้ความรู้เด็กไทย 1 ล้านคน คือ ครูอนามัย นักเรียนชั้น ม.1-3 และโรงเรียนขยายโอกาส ให้มีความรู้ดังนี้ 1.ช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน 2.รู้เท่าทันจิตใจตนเอง ผู้อื่น จัดการความเครียด สร้างความสุขด้วยตนเอง 3.รู้โทษทัณฑ์ พิษภัย ห่างไกลยาเสพติด 4.ให้เด็กผู้หญิงมีทักษะตรวจเต้านมด้วยตนเอง และ 5.สถานศึกษาปลอดภัยรอบด้านเอื้อต่อการเรียนรู้

Advertisement

“นอกจากนี้ จะร่วมขับเคลื่อนการฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อ HPV ในผู้หญิงอายุ 11-20 ปี ซึ่งตรงกับนักเรียนหญิงชั้น ป.5-ม.6 จะได้รับโอกาสในการป้องกัน และลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ HPV เป็นภูมิคุ้มกันในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นโอกาสสร้างความเข้มแข็งให้อนาคตของชาติ ห่างไกลจากอันตราย ส่งผลต่อความปลอดภัย ทั้งร่างกาย และจิตใจด้วย” นางเกศทิพย์ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image