เรียนไทยได้จีน : นิทานสุภาษิตจีน (314) 成语故事 (314)

เรียนไทยได้จีน : นิทานสุภาษิตจีน (314) 成语故事 (314)

นิทานสุภาษิตจีนที่ “เรียนไทยได้จีน” จะนำเสนอในฉบับนี้คือ 人面桃花 rén miàn táo huā (เหริน เมี่ยน เถา ฮวา) โดย คำว่า 人 rén (เหริน) แปลว่า คน 面 miàn (เมี่ยน) แปลว่า ใบหน้า (ในที่นี้สองคำรวมกัน (人面) หมายถึง คนที่ตนหลงรัก คนที่เคยพบเจอในอดีต 桃花 táo huā (เถา ฮวา) แปลว่า ดอกท้อ (ดอกท้อในความหมายของจีน คือสิ่งที่สวยงาม มีเสน่ห์) เมื่อรวมกันแล้วหมายถึง คนที่คุ้นเคย หรือคนที่เคยรู้จักเมื่อตอนดอกท้อบานเมื่อปีที่แล้ว มาถึงปีนี้ดอกท้อบานอีกแล้ว แต่คนที่คุ้นเคยหายไป ใช้บรรยายถึงความรู้สึกของชายที่ตกหลุมรักสาวตั้งแต่แรกพบ แล้วเฝ้าคอยตามหาคนที่ตนรักนั้น แบบข้ามปีเลยทีเดียว มาดูตัวอย่างจากนิทานสุภาษิตจีนนี้กัน

ในยุคราชวงศ์ถึง มีหนุ่มนักศึกษาคนหนึ่ง นามว่า ชุยหู้ 崔护/崔護 Cuī Hù เล่าลือกันว่า เขาจัดเป็นคนครบเครื่อง ทั้งรูปร่างหน้าตา และความรู้ความสามารถ จึงเป็นที่หมายปองของสาวๆ ทั้งหลายที่ได้พบเจอเลยก็ว่าได้ แต่ชุยหู้กลับมีนิสัยสันโดษ ไม่ค่อยพูดจาสุงสิงกับใคร เขามุ่งมั่นศึกษาหาความรู้ จนเมื่อได้มีโอกาสเดินทางเข้าเมืองหลวง เพื่อเข้าร่วมการสอบเคอจวี่ 科举考试/科舉考試 kējǔ kǎoshì (เคอจวี่ ข่าวฉื้อ) เมื่อเขาเดินทางถึงเมืองหลวงแล้ว ก็เป็นช่วงเทศกาลเช็งเม้งในฤดูใบไม้ผลิ ฤดูใบไม้ผลิของภาคเหนือจีนนั้น จะเป็นช่วงดอกไม้บานสะพรั่งพอดี ดังนั้น รอบเมืองหลวงจึงเต็มไปด้วยดอกไม้บานโดยเฉพาะดอกท้อ

ชุยหู้เดินชมทิวทัศน์อันสวยงามนี้จนหลงลืมเวลา เขาเดินจนรู้สึกกระหายน้ำ จึงได้แวะเคาะประตูที่บ้านหลังหนึ่ง เมื่อประตูบ้านเปิดออก ผู้มาเปิดเป็นหญิงสาว ด้วยโฉมหน้าที่สวยงามของเธอ ทำให้ชุยหู้ตะลึงงันพูดอะไรไม่ออก และหญิงสาวก็ตะลึงในความหล่อเหลาของชุยหู้ ทั้งคู่จ้องมองตากันสักครู่ แล้วหญิงสาวก็ถามด้วยน้ำเสียงเขินอายว่า ท่านมาเคาะประตูด้วยธุระอันใดหรือ ชุยหู้ได้สติกลับคืน ก็ตอบอย่างตะกุกตะกักว่า ข้าเดินทางชมวิวทิวทัศน์อันสวยงามจนหลงทาง และรู้สึกกระหายน้ำยิ่งนัก ท่านพอจะให้ข้าดื่มน้ำแก้กระหายสักแก้วไหม

Advertisement

(ที่มาภาพ https://image.baidu.com/search/detail?ct)

หญิงสาวเชิญชุยหู้เข้ามาในบริเวณลานกลางบ้าน พร้อมกับเข้าไปยกน้ำมาให้ดื่ม ขณะที่ชุยหู้กำลังดื่มน้ำ ก็แอบเหลือบมองหญิงสาวไปด้วย หญิงสาวขวยเขิน จึงเดินไปพิงต้นท้อที่กำลังออกดอกบานสะพรั่งเต็มต้น ทำให้ดอกท้อกับสาวงามกลายเป็นรูปภาพแสนวิเศษเลยทีเดียว ชุยหู้ประทับใจยิ่งนัก ครั้นจะพูดกันอะไรต่อก็ขวยเขิน และไม่กล้า สุดท้ายได้แต่ขอบคุณน้ำใจหญิงสาว และแนะนำตนว่า ตนเองชื่ออะไร และมาทำอะไรที่เมืองหลวงแห่งนี้ แล้วทั้งคู่ก็แยกย้ายกัน

Advertisement

หลังจากนั้นชุยหู้ก็เฝ้าคิดคะนึงหาหญิงสาวผู้นั้นอยู่เนืองนิจ จนย่างเข้าปีต่อมา เขาจึงตัดสินใจเดินทางหาหญิงสาวคนดังกล่าวในช่วงเทศกาลนี้อีก แต่เมื่อเขามาถึงบ้านหลังดังกล่าวแล้ว ปรากฏว่าไม่มีใครอยู่เสียแล้ว ชุยหู้ผิดหวัง และเสียใจ แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร และไม่รู้จะไปตามหาขวัญใจของตัวเองได้ที่ไหนอีก จึงได้แต่ระบายความอัดอั้นทั้งหมดเป็นบทกวีติดไว้ที่ประตูหน้าบ้าน พร้อมลงชื่อตัวเองไว้เสร็จสรรพ ในบทกวีความว่า

“去年今日此门中,人面桃花相映红。人面只今何处去?桃花依旧笑春风。”

Qùnián jīnrì cǐ mén zhōnɡ, rén miàn táohuā xiānɡyìnɡ hónɡ.

Rén miàn zhǐjīn hé chù qù? Táohuā yījiù xiào chūnfēnɡ.

ชวี่เหนียน จินรื่อ ฉื่อ เหมิน จง, เหริน เมี่ยน เถาฮวา เซียงอิ้ง หง

เหริน เมี่ยน หรู จิน เหอชู่ ชวี่, เถาฮวา อีจิ้ว เซี่ยว ชุนฟง

วันนี้เมื่อปีกลายได้พบนาง โฉมยงสวยสะคราญดั่งท้อบาน

วันนี้นวลลออสู่แห่งหนใด ดอกท้อเดียวดายสะพรั่งรับลมวสันต์

(ผู้เขียนใช้การแปลแบบสื่อความหมาย ไม่ได้แปลตรงตัวตามบทกวี)

แล้วชุยหู้ก็จากไปด้วยความเสียใจ ต่อมาผู้คนจึงนิยมใช้คำว่าคนรู้จักกับดอกท้อ มาบรรยายคนที่ตามหาคนรักของตนที่ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่แห่งหนใดนั่นเอง

ข้อคิดจากประโยคสุภาษิตนี้

成语比喻:男女邂逅钟情。

成語比喻:男女邂逅鍾情

Chénɡyǔ bǐyù:Nánnǚ xièhòu zhōnɡqínɡ

เฉิงยหวี่ ปี่ยวี่: หนาน นหวี่ เซียะโห้ว โจงฉิง

สุภาษิตเปรียบว่า ชายหญิงพบกันแล้วก็ตกหลุมรักกันอย่างไม่เสื่อมคลาย หรือรักแรกพบ

ประโยคตัวอย่างที่ใช้สำนวนสุภาษิตนี้ เช่น

去年的这个时候,我遇见了她,可惜今日,人面桃花不知去处?

去年的這個時候,我遇見了她,可惜今日,人面桃花不知去處?

Qùnián de zhè ɡe shíhòu,wǒ yùjiàn le tā,kěxí jīnrì,rén miàn táohuā bu zhī qùchù?

​​ชวี่เหนี่ยน เตอะ เจ้อ เกอะ ฉือโห้ว, หวั่ว ยวี่เจี้ยน เลอะ ทา, เข่อซี จินรื่อ, เหริน เมี่ยน เถาฮวา ปู้ จือ ชวี่ ชู่

วันนี้ของเมื่อปีที่แล้ว ฉันพบเจอกับเธอ น่าเสียดายที่ในวันนี้ ขวัญใจไปอยู่แห่งหนใดเสียแล้ว

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image