คุก 20 ปี เรียกคืน 2.5 พันล้าน ‘อดีตบิ๊กสกสค.-ผู้บริหารบิลเลี่ยนฯ’ ทุจริตซื้อตั๋วสัญญาเงินกู้

คุก 20 ปี เรียกคืน 2.5 พันล้าน ‘อดีตบิ๊กสกสค.-ผู้บริหารบิลเลี่ยนฯ’ ทุจริตซื้อตั๋วสัญญาเงินกู้ หลังยื้อนาน 9 ปี ‘บิ๊กอุ้ม’ สั่ง เร่งบังคับคดี

เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ในการประชุมประสานภารกิจของผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เมื่อเร็วๆ นี้ นายพีระพันธ์ เหมะรัต เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) รายงานให้ที่ประชุมได้รับทราบคำพิพากษาของศาลคดีอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง กรณีอดีตผู้บริหารกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษตามโครงการสวัสดิการเงินกู้การฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) และการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษากรณีคู่สมรสถึงแก่กรรม (ช.พ.ส.) ไปซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินจากบริษัท บิลเลี่ยน อินโนเวเท็ด กรุ๊ป จำกัด โดยมิชอบ

พล.ต.อ.เพิ่มพูนกล่าวต่อว่า สำหรับกรณีดังกล่าวสืบเนื่องมาจากเมื่อปี 2558 ได้มีการตรวจสอบพบว่าอดีตคณะกรรมการบริหารกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษ ตามโครงการสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ค.ได้อนุมัติให้ซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินจากบริษัท บิลเลี่ยน อินโนเวเท็ด กรุ๊ป จำกัด จำนวน 2,100 ล้านบาท และ 400 ล้านบาท รวม 2 ครั้ง เป็นเงินทั้งสิ้น 2,500 ล้านบาท โดยไม่มีการอาวัล หรือการรับรองตั๋วสัญญาใช้เงิน แต่ได้นำหลักทรัพย์มาค้ำประกัน ซึ่งต่อมาภายหลังปรากฏว่าหลักทรัพย์ต่างๆ ที่นำมาค้ำประกันหลายรายการเป็นเอกสารปลอม รวมทั้งเช็คสั่งจ่ายในนามกองทุนฯ จำนวน 2,100 ล้านบาท ที่นำมาค้ำประกันก็ไม่สามารถขึ้นเงินได้ สำนักงานคณะกรรมการ สกสค.จึงได้แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับผู้ที่ทำให้ สกสค.ได้รับความเสียหาย ต่อมาพนักงานอัยการได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องอดีตประธานและกรรมการกองทุนฯ รวม 16 ราย และยื่นฟ้องบริษัท บิลเลี่ยนฯ และกรรมการบริษัทฯ รวม 3 ราย ต่อศาลคดีอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง

“ศาลคดีอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลางได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2567 เห็นว่า อดีตประธานและกรรมการกองทุนฯ รวม 16 ราย อนุมัตินำเงินของกองทุนฯทั้ง 2 ครั้ง รวมเป็นเงิน 2,500 ล้านบาท ไปซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินโดยมีพฤติการณ์ที่แสดงถึงเจตนาที่เป็นการเอื้อประโยชน์ให้ บริษัท บิลเลี่ยนฯ และกรรมการบริษัทฯ ทำให้สำนักงานคณะกรรมการ สกสค.ได้รับความเสียหาย จึงพิพากษาให้ลงโทษจำคุกอดีตประธานและกรรมการกองทุนฯและพวกทั้ง 16 ราย รายละ 20 ปี และให้ลงโทษจำคุก กรรมการบริษัท บิลเลี่ยนฯ 2 ราย รายละ 12 ปี 16 เดือน ปรับเป็นเงินจำนวน 240,000 บาท และพิพากษาให้อดีตประธานและกรรมการกองทุนฯ รวม 16 ราย และบริษัท บิลเลี่ยนฯ และกรรมการบริษัทฯ รวม 3 ราย ร่วมกันนำเงิน จำนวน 2,500 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 5 ส่งคืนศาลภายใน 30 วัน นับแต่วันฟังคำพิพากษา เพื่อศาลจะนำส่งให้กับสำนักงานคณะกรรมการ สกสค.ต่อไป” รัฐมนตรีว่าการ ศธ.กล่าว

Advertisement

พล.ต.อ.เพิ่มพูนกล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม เพื่อประโยชน์ของ สกสค.จึงได้ มอบหมายให้เลขาธิการคณะกรรมการ สกสค.ได้เร่งรัดติดตามและยื่นบังคับคดีตามขั้นตอน เพื่อให้มีการชดใช้ค่าเสียหายตามคำพิพากษาให้แก่ สกสค.โดยเร็วต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image