| ที่มา | มติชนรายวัน |
|---|
นายรักสยาม มานานุภาพ นายกสมาคมเปรียญธรรม 9 ประโยค (สป 9) เปิดเผยว่า กรณีที่ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) เตรียมออกหมายเรียกสอบสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ในฐานะผู้ครอบครองรถยนต์โบรารณยี่ห้อเมอร์เซเดสเบนซ์ ทะเบียน ขม 99 กรุงเทพมหานคร ที่ดีเอสไอตรวจสอบแล้วพบว่านำเข้าจดประกอบผิดกฎหมายทุกขั้นตอน ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ ดีเอสไอได้ส่งพนักงานสอบสวนเข้าพบสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์แล้ว แต่ปรากฏว่าทนายของวัดปากน้ำฯ ได้ออกมาแถลงขอให้ดีเอสไอระบุประเด็นในการสอบเป็นลายลักษณ์อักษรแล้วส่งมาใหม่ ทำให้เกิดภาพความเสียหายในการทำงานของดีเอสไอ ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นต้องกลับไปดูหลักการก่อน ซึ่งพระสงฆ์ได้รับความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2535 หากพระสงฆ์ไม่ได้ทำผิดพระธรรมวินัย จะนำกฎหมายมาบังคับพระสงฆ์ไม่ได้ โดยจะออกหมายเรียกสอบปากคำไม่ได้ กรณีของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เท่าที่ทราบท่านถูกตั้งข้อสงสัยในข้อหารับของที่หลีกเลี่ยงภาษี ซึ่งกรณีนี้มีกฎหมายของพระบังคับใช้ เพราะพระสงฆ์ไม่สามารถรู้ได้ว่าสิ่งที่รับถวายเป็นสิ่งผิดกฎหมาย เช่น พระสงฆ์รับบิณฑบาต ท่านจะรู้หรือไม่ว่าข้าวที่โยมใส่บาตร เป็นของที่ถูกโขมยมา นอกจากนี้ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ท่านอยู่ในฐานะพยาน ดีเอสไอจะเรียกสอบไม่ได้ แต่ถ้าเรียกท่านสอบในฐานะความผิดอย่างอื่น จะต้องแจ้งให้ท่านทราบด้วยว่าท่านทำผิดพระวินัยข้อใด
“ขณะนี้ชาวพุทธได้รับภัยจากภายนอกมากมาย โดยเฉพาะภัยที่เกิดจากคนเสี้ยมให้ทะเลาะกันเอง จึงอยากให้ชาวพุทธเลิกทะเลาะกัน โดยเฉพาะพระกับโยม อย่าตกเป็นเครื่องมือ”นายรักสยามกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน พระสงฆ์เพื่อสันติภาพชายแดนใต้ได้ออกแถลงการณ์เรื่องขอบิณฑบาตให้ พล.อ.ไพบูลย์ แสดงความรับผิดชอบต่อการก้าวล่วงผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ใจความว่า “ตามที่ในปัจจุบันมีขบวนการจ้องทำลายคณะสงฆ์ กล่าวจาบจ้วงองค์กรปกครองสูงสุดของคณะสงฆ์ และแสดงอาการเหยียดหยาม ดูหมิ่น ดูแคลนพระสงฆ์โดยรัฐมนตรีของประเทศ อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน โดยที่รัฐบาล และรัฐมนตรีผู้กำกับดูแลพระพุทธศาสนา มิได้แสดงตัวปกป้องคณะสงฆ์ตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ที่สำคัญ คือการเสนอนามผู้ที่จะได้รับสถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราชนั้น ปรากฏว่ามีกลุ่มบุคคลพยายามสร้างสถานการณ์บิดเบือน ไม่ให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ฯ จึงขอเรียกร้องให้คณะรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรี ให้ดำเนินการดังต่อไปนี้ 1.ให้รัฐบาลมีมาตรการจัดการกลุ่มบุคคลที่กล่าวจาบจ้วงให้ร้ายคณะสงฆ์ และ 2.ให้ พล.อ.ไพบูลย์ลาออกจากตำแหน่ง เพื่อแสดงความรับผิดชอบ ในฐานะที่แสดงอาการก้าวร้าว เหยียดหยามดูแคลนพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ทั้งนี้ พระสงฆ์เพื่อสันติภาพชายแดนใต้จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จะพิทักษ์ ปกป้อง คุ้มครองพระพุทธศาสนา และพร้อมที่จะเข้าร่วมเคลื่อนไหวกับองค์กรทางพระพุทธกลุ่มต่างๆ เพื่อให้รัฐบาลดำเนินการตามระเบียบ ประเพณี และกฎหมาย ในการสถาปนาองค์สมเด็จประสังฆราช
