นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยกรณีที่ชมรมครูจังหวัดร้อยเอ็ด เสนอให้มีผู้อำนวยการโรงเรียน และครู ซึ่งเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่แท้จริง เข้าไปนั่งเป็นกรรมการในคณะกรรมการบริหารงานบุคคลในสัดส่วนเท่ากับผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) และผู้ทรงคุณวุฒิ เพราะถือเป็นผู้ที่รู้ข้อมูลดีที่สุด ว่า ผู้อำนวยการโรงเรียนสามารถเข้ามาเป็นกรรมการบริหารงานบุคคลได้ในส่วนของตัวแทนผู้ทรงคุณวุฒิ แต่อาจต้องคิดให้ดี เหมาะสมหรือไม่ตนไม่ทราบ เป็นเรื่องของการคานอำนาจ เพราะผู้อำนวยการโรงเรียนที่เป็นกรรมการจะต้องพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายผู้อำนวยการโรงเรียนด้วย ดังนั้น ต้องดูว่าจะเข้ามาได้อย่างไร ทั้งนี้ ต้องเข้าใจก่อนว่าคณะกรรมการบริหารงานบุคคลไม่มีอำนาจอะไร เป็นเพียงผู้กำกับดูแลให้การดำเนินการด้านงานบริหารงานบุคคลเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด
“ผมขอสื่อสารไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคน ใครที่มีปัญหา ขอให้ถามประชาชน และคิดดูว่า ครู เด็ก ผู้ปกครอง สนใจปัญหานี้หรือไม่ เชื่อว่าคนที่มีปัญหาในเรื่องนี้มีไม่มาก ไม่ใช่ว่าไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ แล้วมาบอกว่ากระทบต่อคุณภาพการศึกษา อยากให้พิสูจน์มาให้ได้ว่า เรื่องนี้แท้จริงแล้วกระทบต่อคุณภาพการศึกษาจริงหรือไม่ ทุกอย่างมีกติกา ประเทศจะเดินได้ก็ต่อเมื่อเล่นไปตามกติกา เดินไปตามกติกา หากไม่พอใจเรื่องใด ขอให้ทำตามกติกาในฐานะข้าราชการ ทำตามระบบ มีช่องทางที่จะเดิน ที่จะเจรจา เสนอความคิดเห็น แม้จะเป็นรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แต่การปกครอง มีการรับฟัง มีการคานอำนาจ ฉะนั้น ถ้าใครจะเคลื่อนไหวอะไรอีก ขอให้ดูว่า คนส่วนใหญ่เอาด้วยหรือไม่ ที่สำคัญกฎหมายให้ทำหรือไม่ ถ้าเคลื่อนไหวผิดกฎหมาย ผมก็ไม่มีทางเลือก นอกจากให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย คนที่จะเคลื่อนไหว ผมเชื่อไม่ใช่คนส่วนใหญ่ และถ้าเป็นผู้อำนวยการโรงเรียน ก็ขอให้ไปบริหารโรงเรียนของตัวเองให้ดีก่อน เพราะคุณเองก็ต้องไปตามระบบการแต่งตั้งโยกย้ายเช่นกัน เรื่องนี้ผมขอบอกตรงไปตรงมา” นพ.ธีระเกียรติ กล่าว
นพ.ธีระเกียรติกล่าวอีกว่า ส่วนความคืบหน้าการเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แก้ไขคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 19/2560 เรื่องการปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของ ศธ.เพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) และ สพท.นั้น ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้มีกระแสข่าวลือว่าในร่างแก้ไขคำสั่ง คสช.ที่ 19/2560 เรื่องการปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของ ศธ.จะมีการยุบศึกษาธิการภาค (ศธภ.) จากทั้งหมด 18 ตำแหน่ง ให้เหลือเพียง 6 ตำแหน่ง ตามภูมิภาคของประเทศ
