‘น้องเอ่เอ้’ เด็กเก่งระดับประเทศ หนูเก่งได้ เพราะอ่าน ‘การ์ตูนความรู้’

เพราะหนังสือคือสื่อที่บรรจุความรู้อยู่อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ยิ่งอ่านมากเท่าไหร่ ยิ่งได้ประโยชน์มากเท่านั้น โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนที่อยู่ในช่วงวัยแห่งการเรียนรู้ การอ่านหนังสือที่นอกเหนือไปจากตำราเรียน จะช่วยส่งเสริมความรู้รอบตัวทั้งในและนอกห้องเรียน

ตัวอย่างหนึ่งที่น่าชื่นชมของสาวน้อยมากความรู้ อย่าง น้องเอ่เอ้ ด.ญ.อาทิชา ไตรรงค์ทอง อายุ 9 ปี ชั้น ป.3 โรงเรียนสาธิตละอออุทิศ จ.ลำปาง ที่คว้าเหรียญทองชนะเลิศอันดับ 1 ของประเทศในสาขาวิชาวิทยาศาสตร์ ระดับชั้น ป.3 ประจำปี 2560 จากโครงการประเมินและพัฒนาสู่ความเป็นเลิศทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ หรือ TEDET ถือเป็นรางวัลแห่งความภูมิใจของเด็กหลายๆ คน

น้องเอ่เอ้ ยังมีผลการเรียน และรางวัลอีกมากมายมาช่วยยืนยันว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้รางวัล ไม่ว่าจะเป็นผลการเรียนที่ได้เกรด 4.00 มาตั้งแต่เรียนชั้นอนุบาลจนถึงปัจจุบัน ชนะเลิศการประกวดตอบคำถามวิชาการประเภททีมในระดับชั้น ป.1 ของโรงเรียนเลิศหล้า ถนนเกษตร-นวมินทร์, ชนะเลิศอันดับ 1 ของจังหวัดเพชรบูรณ์ สาขาวิทยาศาสตร์ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 จาก TEDET ปี 2559 และสอบได้คะแนนรวมสูงสุด อันดับ 1 ของจังหวัดเพรชบูรณ์ ในวิชาวิทยาศาสตร์ ระดับประถมศึกษาตอนต้น (ป.1-ป.3) ในปี 2559 จากโครงการสอบแข่งขันวัดความรู้ความสามารถทางวิชาการ Top Test Center เมื่อตอนน้องเอ่เอ้เรียนอยู่ป.2 โรงเรียนเซนต์โยเซฟศรีเพชรบูรณ์ ถึงแม้น้องเอ่เอ้จะต้องย้ายโรงเรียนตามคุณพ่อบ่อยๆ เพราะคุณพ่อรับราชการเป็นผู้พิพากษา แต่ก็ไม่ได้มีผลกระทบใดๆ กับผลการเรียน ซึ่งผลงานที่ผ่านมานั้นถือเป็นรางวัลที่สั่งสมมาให้น้องเอ่เอ้สามารถก้าวสู่ระดับประเทศในที่สุด

อะไรคือเคล็ดลับที่ทำให้เรียนเก่ง? น้องเอ่เอ้ ตอบอย่างมั่นใจว่า “เพราะหนูชอบอ่านหนังสือค่ะ เริ่มต้นคุณแม่ซื้อหนังสือการ์ตูนความรู้ครอบครัวตึ๋งหนืดมาให้อ่าน หนูก็อ่านจนจบชุดรู้สึกว่ามันสนุกมาก หลังจากนั้นก็หาชุดอื่นๆ มาอ่านอีกเรื่อยๆ เช่น ชุดแก๊งซ่าท้าทดลอง ชุดเอาชีวิตรอด ชุดล่าขุมทรัพย์สุดขอบฟ้า ชุด Why ชุดนึงมี 20-30 เล่ม รวมๆ แล้วก็ 30 กว่าชุดค่ะ โดยเฉพาะชุด Why เป็นหนังสือการ์ตูนความรู้ที่มีความรู้เยอะมากทั้งเรื่องวิทยาศาสตร์และความรู้รอบตัว เพราะ 1 เล่มต่อ 1 หัวข้อ เนื้อหาข้างในก็จะเจาะลึกเรื่องนั้นๆ ซึ่งทำให้หนูมีพื้นฐานมาก่อนเมื่อไปเรียนในชั้นเรียน ในชั้นหนูก็ตั้งใจเรียน เมื่อครูพูดถึงเรื่องที่เรารู้มาก่อน ก็เหมือนช่วยทบทวนความรู้ของเรา หนูพยายามมาเรียนอย่างสม่ำเสมอไม่เคยขาด หากมีการสอบคุณแม่จะให้หาข้อสอบเก่ามาให้ทำทุกวัน วันละ 10 ข้อ หากเนื้อหาตรงไหนหนูไม่เข้าใจ คุณแม่ก็ช่วยอธิบายให้หนูฟังจนเข้าใจ หนังสือการ์ตูนความรู้อ่านง่ายและสนุก คุณแม่จึงไม่เคยห้าม หนูว่างเมื่อไหร่ ก็จะหยิบมาอ่าน แต่ก็ต้องทำการบ้านจนเสร็จก่อนด้วยนะคะ”

Advertisement

ด้านคุณแม่น้องเอ่เอ้ พ.ญ.กัณต์กัลยา ตัณชวนิชย์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟู เผยว่า ส่วนตัวอยากให้น้องเอ่เอ้สนใจภาษาจีน จึงหาหนังสือการ์ตูนมาให้อ่าน เลือกครอบครัวตึ๋งหนืดตะลอนทัวร์ตอนหนี่ห่าวเมืองจีนมาให้อ่าน เราดูเนื้อหาภายในแล้วตัวละครน่ารักดี มีความรู้สอดแทรกตลอดทั้งเล่ม เนื้อหาไม่หนักอ่านง่าย ที่สำคัญคือไม่มีคำพูดหยาบคาย พอลูกอ่านก็ชอบมากเป็นเล่มแรกที่อ่านเองได้จนจบ จากนั้นลูกก็อยากอ่านเล่มอื่นๆ อีกและซื้อเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนเต็มบ้านเป็นร้อยๆ เล่ม ที่ประทับใจมากคือตอนน้องอ่านตึ๋งหนืดอยู่เล่มหนึ่ง ข้างหลังบทมีสอนทำอาหารง่ายๆ เขาก็ชวนแม่เข้าครัว ทำอาหารตามหนังสือ เป็นเมนูไข่ง่ายๆ สนุกดีค่ะแม่ลูกช่วยกันทำ

อ่านไปอ่านมาปรากฏว่าน้องชอบเรื่องวิทยาศาสตร์ เราก็ไม่ห้ามค่ะอยากอ่านอะไรเราก็ส่งเสริม ก่อนซื้อเราจะอ่านเพื่อคัดกรองก่อนเสมอ เพราะตนเองเป็นหมอเลยรู้ว่าข้อมูลในหนังสือของสำนักพิมพ์นานมีบุ๊คส์นั้นเชื่อถือได้ จึงไว้ใจคุณภาพหนังสือ ที่ผ่านมาไม่เคยบังคับให้อ่าน หรือต้องเรียนพิเศษเสริม แต่เราเชื่อว่าการอ่านจะทำให้น้องเกิดจินตนาการ ฝึกเรื่องการอ่านให้คล่อง และยังทำให้ไม่เครียด อีกทั้งจดจำได้ดีกว่าการเรียนพิเศษ เพราะถ้าเรียนพิเศษต้องกำหนดเวลาและทำให้เครียดกว่า ในขณะที่หนังสือก็สอนความรู้เหมือนกัน แต่สามารถหยิบมาอ่านเมื่อไหร่ก็ได้

วิธีการส่วนตัวที่ทำให้น้องเรียนเก่งคือ ให้อ่านเยอะๆ แต่ต้องไม่เครียดนะคะ เราจึงเลือกหนังสือการ์ตูนความรู้ให้อ่าน ซึ่งเหมือนเป็นการอ่านเพื่อผ่อนคลาย แล้วยังได้ความรู้ไปด้วย ส่วนทีวีจะให้ดูเฉพาะเสาร์-อาทิตย์ หลังทำการบ้านเสร็จแล้ว ให้ดูประมาณ 2-3 ชั่วโมง ก่อนสอบประมาณหนึ่งเดือนจะให้ทำข้อสอบเก่าประมาณวันละ 10-15 ข้อ เพื่อทบทวน แต่ถ้าวันไหนไม่อยากทำก็ให้อ่านหนังสือเล่มที่อยากอ่าน หรือเปิด YouTube ดูเรื่องที่สนใจ และมีข้อตกลงร่วมกันว่า ถ้าสอบได้คะแนนระดับไหนจะได้รางวัลอะไรจากคุณแม่ เช่น พาไปเที่ยวสวนน้ำ ขอดูการ์ตูนทาง YouTube ส่วนวันหยุดเราก็หากิจกรรมทำร่วมกันไปเรื่อยๆ

Advertisement

ส่วนตอนนี้น้องกำลังสนใจเรียนที่ Gakken Classroom ตอนแรกเราก็ไม่รู้ว่าคืออะไร จึงได้ลองศึกษาดู ก็รู้สึกว่าน่าสนุก เน้นให้เด็กคิดทดลองและลงมือทำ ไม่เหมือนการเรียนพิเศษทั่วไป เวลาเรียนก็ไม่ยาวมาก เดือนหนึ่งต่อหนึ่งเรื่องกำลังดีเน้นให้เด็กได้หัดวิเคราะห์และสรุปสาระสำคัญด้วย เลยขอให้น้องไปทดลองเรียน ซึ่งน้องชอบก็ขอเรียนต่อ เราก็ให้เรียน เพราะมันสามารถต่อยอดจากหนังสือการ์ตูนความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ที่เขาเคยอ่านมาเป็นการลงมือทำการทดลอง เขาจะได้มีทักษะมากขึ้นนอกการอ่านอย่างเดียว หากถามว่าลูกประสบความสำเร็จด้านการเรียนได้ในระดับประเทศแบบนี้ คนเป็นแม่อย่างเราก็ภูมิใจมากค่ะ

ไตรศักดิ์ เจียรวัฒนสวัสดิ์ เจ้าของร้านหนังสือเติมปัญญา และเจ้าของ Gakken Classroom สาขาจังหวัดลำปาง กล่าวว่า น้องเอ่เอ้ มีความรู้และพื้นฐานวิชาวิทยาศาสตร์ค่อนข้างมาก จากการอ่านหนังสือเป็นประจำ ความรู้เหล่านั้นทำให้น้องมีจินตนาการเกี่ยวกับการทดลองต่างๆ ในใจ แต่ไม่ค่อยได้ลงมือทำการทดลองมากนัก ตอนที่น้องมาเรียนที่กักเคนคลาสรูมน้องให้ความสนใจมาก ตื่นเต้นกับอุปกรณ์ที่จะใช้ในการทดลอง หลายการทดลองเพียงแค่เห็นอุปกรณ์ น้องก็สามารถคาดเดาได้ว่าวันนั้นเราจะทดลองเรื่องอะไร ในการทำการทดลองน้องจะคุยให้ฟังเสมอๆ ว่าเมื่อทดลองจริงมันไม่เหมือนกับที่คิดเอาไว้ การที่น้องได้มาทดลองลงมือทำจริงที่ห้องเรียนของกักเคนจึงช่วยเติมเต็มความรู้ เชื่อมโยงหลักการทางวิทยาศาสตร์ที่น้องมีอยู่แล้วได้มาก

หากน้องๆ คนไหนที่อยากเรียนเก่งแบบน้องเอ่เอ้ ก็ลองเริ่มจากการอ่านหนังสือให้มากๆ จะเลือกเป็นหนังสือการ์ตูนความรู้ที่ตนเองชอบสักเล่มก็ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี เดี๋ยวนี้หนังสือการ์ตูนความรู้ หรือเสริมความรู้ ทำออกมาสีสันสวยงาม อ่านสนุก และได้ความรู้ มีมากมาย มากว่าสมัยก่อนมาก อย่างไรคุณพ่อคุณแม่ ลองอ่านคัดกรองด้วยตนเองก่อนตัดสินใจซื้อ ก็จะช่วยให้เรามั่นใจว่าปลอดภัยต่อลูก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image