ปธ.สอบชี้ ผอ.กิ๊กเด็กม.2 มีมูล เข้าข่ายชู้สาว แฉอดีตลวนลามชั้นป.6

ความคืบหน้ากรณีนายณฐาภพ บุญทองโท อายุ 51 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านป่าตองท่าเนินสามัคคี อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา ถูกกล่าวหามีพฤติกรรมเชิงชู้สาวกับน้องบี (นามสมมุติ) นักเรียนหญิงชั้น ม.2 อายุ 14 ปี ของโรงเรียนดังกล่าว โดยมีหลักฐานข้อความแชตไลน์ในโทรศัพท์มือถือหวานซึ้ง โดยฝ่ายนักเรียนใช้สรรพนามเรียก ผอ.ว่า “ที่รัก” และ ผอ.เรียกนักเรียนว่า “เมียที่รัก” ต่อมาสำนักงานเขตพื้นที่ประถมศึกษานครราชสีมา เขต 6 สั่งย้ายด่วนผู้อำนวยการไปช่วยราชการที่สำนักงานฯพร้อมตั้งกรรมการสืบหาข้อเท็จจริงรายงานผลใน 7 วัน หากพบผิดจริงมีโทษทางวินัยร้ายแรงถึงขั้นไล่ออก และความผิดทางอาญา ฐานพรากผู้เยาว์เด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี

ล่าสุดเมื่อวันที่ 24 มกราคม ที่ จ.นครราชสีมา นางติ๋ม (นามสมมุติ) อายุ 40 ปี แม่ของเด็กนักเรียนหญิง ม.2 หรือ “น้องบี” เปิดเผยว่า รู้สึกงุนงงและตกใจที่ลูกสาวตกเป็นข่าวฉาวกับผู้อำนวยการโรงเรียน เชื่อว่าเป็นการกล่าวหาจากกลุ่มคนไม่หวังดี ตอนนี้ไม่รู้รายละเอียดใดๆ ทั้งสิ้น ไม่รู้ว่าลูกสาวจะแอบมีความสัมพันธ์ชู้สาวกับผู้อำนวยการหรือไม่ ต้องรอฟังจากปากของลูก ซึ่งขณะนี้เดินทางไปบ้านยายที่ จ.สกลนคร ยังไม่กล้ากลับมาเรียนหนังสือ ส่วนตัวไม่รู้จักกับผู้อำนวยการคนนี้ ส่วนกรณีนางไพรวัล ไหทอง ที่ออกมาเคลื่อนไหวเอาผิดเพราะเป็นแม่ของนักเรียนชาย ม.3 ซึ่งเป็นแฟนเก่าของลูกสาวที่คบหากันกว่า 2 ปี และเพิ่งเลิกรากันนั้น เป็นการกล่าวหาเด็กอายุ 14 ปี ที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ทั้งที่ไม่ใช่แม่แท้ๆ ญาติพี่น้องก็ไม่ใช่ จะกล่าวหาอย่างนี้ไม่ได้ ตอนนี้ต้องรอฟังความชัดเจนกับลูกสาวก่อน และจะยังไม่ดำเนินการเอาผิดกับผู้อำนวยการทั้งสิ้น ส่วนหน่วยงานต้นสังกัดจะเอาผิดทางวินัยอย่างไรนั้นไม่เกี่ยวกับตน

นายศุภพงษา จันทรังษ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่ประถมศึกษานครราชสีมา เขต 6 ประธานกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง เปิดเผยว่า ได้สอบปากคำกรรมการสถานศึกษา 4 คน นักเรียนชาย ม.3 ซึ่งเป็นแฟนหนุ่มของน้องนักเรียนหญิง ม.2 และเพื่อนสนิทในชั้นเรียนอีก 2 คน เบื้องต้นพบมีมูลความจริงที่เข้าข่ายผู้อำนวยการมีพฤติกรรมเชิงชู้สาวกับนักเรียนหญิง ม.2 ลักษณะผู้อำนวยการให้ความสนใจนักเรียนคนนี้เป็นพิเศษ ชอบพาไปไหนมาไหนแบบ 2 ต่อ 2

“วันนี้กรรมการจะลงพื้นที่สอบปากคำพยานเพิ่มเติม เป็นครูประจำชั้น ครูผู้ควบคุมกิจกรรมออกค่ายลูกเสือ รวมถึงเพื่อนนักเรียนคนอื่นๆ อีก เพื่อหาข้อมูลอย่างละเอียด ขณะเดียวกันหากนักเรียนหญิง ม.2 มาโรงเรียน จะสอบปากคำในฐานะผู้เสียหายโดยตรง และเปิดโอกาสให้ผู้อำนวยการชี้แจงข้อเท็จจริง เพื่อให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย อย่างไรก็ตาม พบว่านายณฐาภพได้ติดต่อครูธุรการของโรงเรียนเพื่อขอลาป่วยเพิ่มอีก 1 วัน และยังไม่ติดต่อมารายงานตัวต่อสำนักงานเขตพื้นที่นครราชสีมาเขต 6 แต่อย่างใด” นายศุภพงษากล่าว

Advertisement

รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านั้นนายณฐาภพเคยดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนวัดบ้านหนองแวง หมู่ 7 ต.โนนทองหลาง อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา โดยในปี 2559 ถูกกล่าวหามีพฤติกรรมเชิงชู้สาวกับนักเรียนหญิงชั้น ป.6 จากนั้นมีปัญหาครอบครัวและเลิกรากับภรรยา ต่อมามีการย้ายนายณฐาภพไปช่วยราชการที่ สพป.นม.เขต6 เพื่อตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง จากนั้นไม่นานมีคำสั่งย้ายมาเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านป่าตองท่าเนินสามัคคี เมื่อเดือนตุลาคม 2560 ขณะนั้นคณะกรรมการโรงเรียนและชาวบ้านทำหนังสือคัดค้านการย้ายครั้งนี้เพราะเคยถูกกล่าวหาว่ามีประวัติเสื่อมเสีย แต่ไม่สามารถหา ผอ.มาแทนคนเก่าที่เกษียณได้ จึงต้องยอมรับนายณฐาภพมาเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าว

วันเดียวกัน ที่โรงเรียนบ้านป่าตองท่าเนินสามัคคี ต.บัวใหญ่ อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงที่ทางสำนักงานเขตพื้นที่การประถมศึกษานครราชสีมา เขต 6 ตั้งขึ้น ลงพื้นที่สอบปากคำคณะครูและนักเรียนชั้น ม.3 เพื่อนของเด็กหญิงวัย 14 ปี ขณะที่นักเรียนหญิงแจ้งลาป่วย

นายสนอง สุดสะอาด ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การประถมศึกษานครราชสีมา เขต 6 เปิดเผยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นคณะกรรมการจะเร่งดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงให้ทราบผลภายใน 7 วัน หรือภายในสัปดาห์หน้า โดยเป็นการกระทำกับเด็กที่มีอายุไม่เกิน 15 ปี หากพบว่ามีความผิดจริง คณะกรรมการจะส่งเรื่องไปให้ศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงกับผู้อำนวยการโรงเรียนรายนี้ต่อไป หากผิดจริงมีโทษถึงขั้นไล่ออกจากราชการ และไม่มีสิทธิได้รับเงินบำเหน็จบำนาญ ส่วนเรื่องที่ผู้อำนวยการรายนี้เคยมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับเด็กหญิงชั้น ป.6 จากโรงเรียนเก่า ครั้งนั้นเป็นเพียงการลวนลามไม่ถึงขั้นมีความสัมพันธ์ชู้สาว จึงไม่ได้มีการลงโทษถึงขั้นไล่ออก ประกอบกับฝ่ายผู้ปกครองนักเรียนยอมความกันได้ ซึ่งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษานครราชสีมา เขต 6 ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนและลงโทษทางวินัยด้วยการลดขั้นเงินเดือน 5 เปอร์เซ็นต์เป็นเวลา 2 เดือน ก่อนมีคำสั่งย้ายออกจากโรงเรียนเก่ามาอยู่ที่โรงเรียนป่าตองท่าเนินสามัคคีในปัจจุบัน

Advertisement

พ.ต.อ.คารม บุญสด ผกก.สภ.บัวใหญ่ เปิดเผยว่า เรื่องที่เกิดขึ้น พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ได้สั่งการให้ตั้งชุดสืบสวนเพื่อสืบสวนหาข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าว และรายงานผลให้ทราบภายใน 3 วัน หากพบว่าผู้อำนวยการโรงเรียนมีการกระทำผิดจริงตามที่มีเรื่องร้องเรียน ให้ดำเนินคดีในข้อหาพรากผู้เยาว์เด็กหญิงไม่เกิน 15 ปี โดยคดีที่เป็นความผิดกับเด็กนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถดำเนินคดีได้เลยโดยไม่ต้องมีผู้ร้องทุกข์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image