นพ.อุดม คชินทร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึงกรณีที่ที่ประชุมสภาคณบดีคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์แห่งประเทศไทย(ส.ค.ศ.ท.)ขอให้มีการทบทวนเปิดปิดภาคเรียนตามอาเซียน เนื่องจากส่งผลกระทบต่อการฝึกประสบการณ์ในการสอนของนิสิตนักศึกษาสายครูอย่างมาก ว่า ศธ. ไม่มีนโยบายหรือเป็นกฎหมายบังคับให้มหาวิทยาลัยต้องเปิดปิดภาคเรียนในช่วยไหน รวมทั้งที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย(ทปอ.)ก็ไม่ได้บังคับมหาวิทยาลัยเช่นกัน ทุกแห่งทำตามด้วยความสมัคใจ อีกทั้งมหาวิทยาลัยแต่ละแห่งต้องไปตกลงกันเอง ส่วนส.ค.ศ.ท.ก็มีเหตุผลของตนเอง แต่การจะเปิดปิดภาคเรียนช่วงไหนนั้นต้องดูภาพใหญ่ของการศึกษา ดูถึงความ เป็นสากล ดูช่วงเวลาที่เหมาะสม และต้องดูผลกระทบที่เกิดขึ้นกับภาพโดยรวมจริง ๆ ไม่ใช่กระทบแค่ตัวเองหรือประเทศไทย เพราะขณะนี้ทุกอย่างจะต้องมีความเชื่อมโยงกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะเป็นไปได้หรือไม่ที่จะให้โรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) มาเปิดภาคเรียนตามอาเซียน นพ.อุดม กล่าวว่า ช่วงเวลาเปิดปิดภาคเรียนของโรงเรียนในสังกัดสพฐ. ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมแล้ว เพราะเด็กจะมีเวลาถึง 4เดือน เพื่อเตรียมตัวก่อนที่จะเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย เช่น ถ้าเด็กอ่อนภาษาอังกฤษ ก็จะได้ไปเรียนเสริม หรือมีเวลาช่วยผู้ปกครองทำงาน ขณะเดียวกันเด็กจะได้มีเวลาตัดสินใจที่จะเลือกเรียนในสิ่งที่ตนเองชอบและถนัดด้วย นอกจากนี้ตนอยากให้มหาวิทยาลัยกลับไปช่วยกันดูว่าในช่วงเวลานี้มหาวิทยาลัยจะสามารถจัดวิชาหรือหลักสูตรอะไรให้เด็กได้มาเรียน เพื่อปูพื้นฐานก่อนเข้าเรียนได้บ้าง และอาจจะเปิดให้เด็กเข้ามาเรียนได้ทุกคน โดยไม่จำเป็นว่าเด็กคนนั้นจะต้องเข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยที่จัดสอนเท่านั้น อีกทั้งสิ่งที่เรียนมาก็น่าจะสามารถนำมาเทียบโอนระหว่างมหาวิทยาลัยได้ด้วย
