พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ สถาปนา 2 ‘สมเด็จพระสังฆราชเจ้า’

ภาพกราฟิกลิขสิทธิ์ของ "มติชนออนไลน์"

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ สถาปนา 2 ‘สมเด็จพระสังฆราชเจ้า’

เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศ เรื่อง สถาปนาสมเด็จพระสังฆราชเจ้า โดยระบุว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ประกาศว่า โดยที่ทรงพระราชอนุสรณ์คำนึงถึง

๑.สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (วาสน์ วาสโน) สมเด็จพระสังฆราช วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ที่ทรงเป็นพระราชอุปัธยาจารย์มีพระคุณูปการอย่างยิ่งแด่พระองค์ เมื่อคราวทรงผนวชได้ถวายพระโอวาทานุศาสน์ให้ทรงเข้าพระราชหฤทัยในหลักพระพุทธศาสนาอย่างซาบซึ้ง และยังทรงเป็น สมเด็จพระอุปัชฌายะของสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อัมพร อมฺพโร) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายกพระองค์ปัจจุบัน นับว่าทรงดำรงอยู่ในฐานะอภิปูชนียบุคคลแห่งพระมหากษัตริย์ และสมเด็จพระสังฆราชผู้ทรงเป็นศิษย์ ทรงยินดีในเนกขัมมปฏิบัติเป็นอจลพรหมจริยาภิรัตยั่งยืนนาน ตลอดพระชนมชีพ ทรงกอปรด้วยพระศีลาจารวัตรบริสุทธิ์บริบูรณ์มิหวั่นไหวต่อโลกามิส ทั้งพระฉันทจริตก็เพียบพูนด้วยสมณคุณธรรม ยากจะหาผู้ใดเสมอ ทรงพระปรีชาญาณยิ่งยวดในการประพันธ์ ทรงพระสุตญาณลึกซึ้งสามารถในธรรมวิจารณธรรมวินิจฉัยได้ถูกต้องเด็ดขาด ทรงบริหารคณะสงฆ์และการพระศาสนาให้เจริญก้าวหน้ามาโดยลำดับ ในที่สุดทรงด ารงต าแหน่งสกลมหาสังฆปริณายก นานถึง ๑๔ ปี ทรงบำเพ็ญพระกรณียกิจใหญ่น้อยเพื่อยังประโยชน์แก่พุทธจักรและอาณาจักรอย่างไพศาล แม้เสด็จสิ้นพระชนม์ไปแล้วนับแต่วันที่ ๒๗ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๓๑ แต่พุทธบริษัททุกหมู่เหล่าก็ยังเฝ้ารำลึกถึงพระเดชพระคุณอยู่มิเสื่อมคลาย และบัดนี้ได้เป็นที่ประจักษ์ว่า สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (วาสน์ วาสโน) สมเด็จพระสังฆราช ทรงเป็นคารวสถานปูชนียเจดีย์แห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ ตลอดถึงมวลพุทธบริษัททั่วสกลราชอาณาจักร สมควรจะสถาปนาพระเกียรติยศพระอัฐิขึ้นเป็น สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวง เพื่อเป็นศรีศุภมงคลแด่พระบวรพุทธศาสนา และเป็นที่เฉลิมพระราชศรัทธาสืบไป

จึ่งมีพระบรมราชโองการโปรดสถาปนาพระอัฐิ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (วาสน์ วาสโน) สมเด็จพระสังฆราช ขึ้นเป็น สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวง มีพระนามตามจารึกในพระสุพรรณบัฏว่า สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ ธรรมาภรณคุณวิจิตรปฏิภาณ สุขุมธรรมวิธานธำรง อริยวงศาคตญาณวิมล สกลมหาสังฆปริณายก ตรีปิฎกคัมภีรญาณบัณฑิต วชิราลงกรณนริศหิโตปัธยาจารย์ วาสนภิธานสังฆวิสุต พุทธบริษัทคารวสถาน นิทัศนนิทาน นิพนธปรีชา ปาวจนุตตมโสภณ ภัทรผลสาธารณูปการ วิบุลศีลสมาจารวัตรสุนทร สรรพคณิศรมหาสังฆาธิบดี ศรีสมณุดมบรมบพิตร

๒. สมเด็จพระญาณสังวร (เจริญ สุวฑฺฒโน) สมเด็จพระสังฆราช วัดบวรนิเวศวิหาร ทรงเป็นพระราชกรรมวาจาจารย์ มีพระคุณูปการอย่างยิ่งแด่พระองค์ ทั้งเมื่อครั้งที่ทรงผนวชและที่ทรงลาสิกขาแล้ว ได้ทรงสอนพระธรรมวินัยและคิหิปฏิบัติ ถวายให้ทรงเข้าพระราชหฤทัยอย่างลึกซึ้ง นับว่าทรงดำรงอยู่ ในฐานะอภิปูชนียบุคคลแห่งพระมหากษัตริย์ ทรงยินดีในเนกขัมมปฏิบัติเป็นอจลพรหมจริยาภิรัต ยั่งยืนนานตลอดพระชนมชีพ ทรงกอปรด้วยพระศีลาจารวัตรบริสุทธิ์บริบูรณ์มิหวั่นไหวต่อโลกามิส ทั้งพระฉันทจริตก็เพียบพูนด้วยสมณคุณธรรมยากจะหาผู้ใดเสมอ ทรงพระสุตญาณลึกซึ้งสามารถ ในธรรมวิจารณธรรมวินิจฉัยได้ถูกต้องเด็ดขาด ทรงบริหารคณะสงฆ์และการพระศาสนาให้เจริญก้าวหน้ามาโดยลำดับ ในที่สุดทรงด ารงต าแหน่งสกลมหาสังฆปริณายกนานถึง ๒๔ ปี ทรงบำเพ็ญพระกรณียกิจใหญ่น้อยเพื่อยังประโยชน์แก่พุทธจักรและอาณาจักรอย่างไพศาล แม้เสด็จสิ้นพระชนม์ไปแล้วนับแต่วันที่ ๒๔ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๕๖ แต่พุทธบริษัททุกหมู่เหล่าก็ยังเฝ้ารำลึกถึงพระเดชพระคุณอยู่มิเลือนหาย และบัดนี้ได้เป็นที่ประจักษ์ว่า สมเด็จพระญาณสังวร (เจริญ สุวฑฺฒโน) สมเด็จพระสังฆราช ทรงเป็นคารวสถานปูชนียเจดีย์แห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ ตลอดถึงมวลพุทธบริษัท ทั่วสกลราชอาณาจักร สมควรที่จะสถาปนาพระเกียรติยศพระอัฐิขึ้นเป็น สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวง เพื่อเป็นศรีศุภมงคลแด่พระบวรพุทธศาสนา และเป็นที่เฉลิมพระราชศรัทธาสืบไป

Advertisement

จึ่งมีพระบรมราชโองการโปรดสถาปนาพระอัฐิ สมเด็จพระญาณสังวร (เจริญ สุวฑฺฒโน) สมเด็จพระสังฆราช ขึ้นเป็น สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวง มีพระนามตามจารึกในพระสุพรรณบัฏว่า สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร วชิราลงกรณ ราชาภินิษกรมณาจารย์ สุขุมธรรม วิธานธำรง อริยวงศาคตญาณวิมล สกลมหาสังฆปริณายก ตรีปิฎกปริยัติธาดา วิสุทธจริยาธิสมบัติ สุวัฑฒนภิธานสังฆวิสุต ปาวจนุตตมพิสาร วชิรญาณวงศวิวัฒ พุทธบริษัทคารวสถาน วิจิตรปฏิภาณ พัฒนคุณ วิบุลสีลาจารวัตรสุนทร สรรพคณิศรมหาสังฆาธิบดี ศรีสมณุดมบรมบพิตร การนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เจ้าพนักงานจัดฉัตรตาดเหลือง 5 ชั้น ถวายกางกั้นพระรูปบรรจุพระสรีรางคาร ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม และวัดบวรนิเวศวิหารกับทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้แบ่งพระอัฐิบรรจุลงพระโกศทองค า เชิญมาประดิษฐาน ในหอพระนาก วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เพื่อเป็นที่ทรงสักการบูชาและทรงบำเพ็ญพระราชกุศลอุทิศถวายในพระฐานะพระบุพการีทางธรรมสืบไป ขอให้พระเกียรติคุณวิบุลยศ ปรากฏแผ่ไพศาลไปในสากลจักรวาล ตราบจิรัฏฐิติกาลนิรันดร เทอญ

ประกาศ ณ วันที่ ๒๘ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒ เป็นปีที่ ๔ในรัชกาลปัจจุบัน

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ

Advertisement

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา

นายกรัฐมนตรี

อ่าน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image