สำนักพุทธฯ ชี้พระตัดหัวเป็นพุทธบูชา ความเชื่อส่วนบุคคล

สำนักพุทธฯ ชี้ตัดหัวเป็นพุทธบูชาความเชื่อส่วนบุคคล เล็งส่งหนังสือแจ้งเจ้าอาวาสดูแลพระลูกวัดใกล้ชิด

จากกรณีเจ้าอาวาสสำนักสงฆ์ภูหินกองเสียชีวิต ทราบชื่อต่อมาคือ นายธรรมกร วังปรีชา อายุ 68 ปี ชาว ต.หนองบัว อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู ทั้งนี้ ในที่เกิดเหตุมีนายบุญเชิด บุญรอด แสดงตัวเป็นผู้พบศพและเป็นน้องร่วมบิดามารดาเดียวกับผู้ตายให้การว่า ผู้ตายบวชเป็นพระจำวัดอยู่สำนักสงฆ์ภูหินกองมาประมาณ 11 ปี ผู้ตายตั้งใจจะตัดศีรษะตนเองเพื่อเป็นพุทธบูชาตามความเชื่อของตนเองในวันที่ 15 เมษายนที่ผ่านมา

โดยใช้ของมีคม ความกว้างประมาณ 4 นิ้ว ยาวประมาณ 1 เมตร รวมด้าม และด้าม 2 ด้านนั้นใช้ก้อนปูนซีเมนต์เทหล่อในถังพลาสติก จำนวน 2 ก้อน ผูกติดกับด้ามมีดข้างละก้อน แล้วใช้เชือกดึงขึ้นไปบนเสา จากนั้นได้พาตัวเอง เข้าไปนั่งก้มอยู่ตรงใบมีดที่จะตกลงมา และใช้มีดขนาดเล็กตัดเชือก เมื่อเชือกขาดมีดที่ผูกติดก้อนปูนได้ตกลงมาที่คอ ทำให้ศีรษะขาดออกจากลำตัวเสียชีวิต

ทั้งนี้ญาติและผู้เกี่ยวข้องไม่ติดใจในสาเหตุการตาย เนื่องจากเป็นความประสงค์ของผู้ตายประกอบกับมีจดหมายเขียนโดยผู้ตายลงวันที่ 11 เมษายน 2564 สรุปข้อความได้ว่าเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมาผู้ตายให้คำมั่นว่าเมื่อครบกำหนด 5 ปี ในวันที่ 15 เมษายน 2564 ผู้ตายจะสักการบูชาพระพุทธเจ้าโดยการตัดศีรษะของตนเอง เพื่อที่ตนเองจะได้ตรัสรู้เป็นพระปัจเจกพระพุทธเจ้าในอนาคตเมื่อถึงกำหนด 5 ปี ผู้ตายจึงทำตามที่ตั้งใจไว้ นั้น

อ่าน ช็อก! เจ้าอาวาสสำนักสงฆ์ดัง สร้างกิโยติน ก่อนตัดหัวตัวเอง ระบุเพื่อเป็นพุทธบูชา

Advertisement

อ่าน ‘พระมหาไพรวัลย์’ ยันไม่มีคำสอน ตัดหัวตัวเองเป็นพุทธบูชา ย้ำ พระพุทธเจ้าไม่ต้องการให้ใครมาสละชีวิต

เมื่อวันที่ 18 เมษายน นายสิปป์บวร แก้วงาม ผู้ตรวจราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.)ในฐานะโฆษกพศ. กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องส่วนบุคคล ซึ่งโดยคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คงไม่มีเจตนาเช่นนั้น ในส่วนของคณะสงฆ์ พศ.โดยมหาเถรสมาคม เคยมีมติแจ้ง เรื่อง ห้ามการทำไสยศาสตร์ ความเชื่อ เวทมนต์คาถาที่ไม่ถูกต้องตามหลักคำสอนของพระพุทธศาสนา รวมถึงกำชับให้พระผู้บังคับบัญชาคอยสอดส่องดูและพระลูกวัด รวมถึงให้คำปรึกษาการปฏิบัติตามหลักคำสอนที่ถูกต้องอย่างใกล้ชิด

“เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ทางพศ.จะส่งหนังแจ้งเรื่องดังกล่าว เพื่อทบทวนแนวทางการปฏิบติของพระผู้บังคับบัญชาหรือเจ้าอาวาสไปยังวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศอีกรอบ รวมถึงจะกำชับให้สอดส่องดูแลพระลูกวัดอย่างใกล้ชิด เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นทำให้เห็นว่า ที่ผ่านมาอาจมีการละเลยไม่ได้ดูแลพระลูกวัดใกล้ชิดเท่าที่ควร ดังนั้นพศ.จะถือโอกาสกำชับเรื่องดังกล่าว เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ขึ้นอีก”นายสิปป์บวร กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image