เจ้าอาวาสสำนักสงฆ์ดัง สร้างกิโยติน ก่อนตัดหัวตัวเอง ระบุเพื่อเป็นพุทธบูชา
เมื่อวันที่ 17 เมษายน จากกรณีเมื่อวันที่ 15 เมษายน 2564 เวลาประมาณ 10.30 น. เจ้าอาวาสสำนักสงฆ์ภูหินกอง (อยู่บนภูเขาซ้ายมือทางไปบ้านนาแค ในเขตเทศบาลเมืองหนองบัวลำภู) ได้เสียชีวิตโดยได้ใช้มีดตัดคอตนเองจนเสียชีวิต จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่วัดพบลูกศิษย์ทั้งหญิงและชาย กว่า 300 คน ที่บริเวณสำนักสงฆ์ โดยด้านหลังของเจดีย์ ได้มีโลงศพสีน้ำตาลแกะสลักบรรจุร่าง และมีโลงเมียเล็กๆ วางอยู่ด้านบนคาดว่าน่าจะเป็นศีรษะของพระธรรมกร หรือนายธรรมกร วังปรีชา ญาติโยมที่อยู่บนวัดได้เงียบสนิทไม่ยอมให้ข่าวๆ ใด มีแต่พูดว่าหลวงพ่อได้ทำตามที่กล่าวไว้แล้ว ท่านบรรลุแล้ว และตรงจุดที่ฆ่าตัวตายมีรูปปั้นคล้ายๆ กับพระอินทร์ไม่มีศีรษะ และมือทั้งสองได้ถือศีรษะคล้ายกับโดนตัดไว้ในมือทั้งสองข้าง
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวน สภ.เมืองหนองบัวลำภู ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ตายผิดธรรมชาติภายในสำนักสงฆ์ภูหินกอง จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และแจ้งแพทย์เวรโรงพยาบาลหนองบัวลำภูเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เมื่อเดินทางไปถึงพบศพผู้ตายถูกบรรจุในหีบศพแล้ว ทราบชื่อคือนายธรรมกร วังปรีชา อายุ 68 ปี ชาวตำบลหนองบัว อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู ในที่เกิดเหตุมีนายบุญเชิด บุญรอด แสดงตัวเป็นผู้พบศพและเป็นน้องร่วมบิดามารดาเดียวกับผู้ตายให้การว่า ผู้ตายบวชเป็นพระจำวัดอยู่สำนักสงฆ์ภูหินกอง มาประมาณ 11 ปี ผู้ตายตั้งใจจะตัดศีรษะตนเองเพื่อเป็นพุทธบูชา ตามความเชื่อของตนเองในวันที่ 15 เมษายน 2564 จากนั้นวันที่ 14 เมษายน 2564 เวลา 18.39 น. จึงได้ลาสิกขา และฆ่าตัวตายในวันที่ 15 เมษายน 2564 เวลาประมาณ 05.19 น. โดยใช้วิธีใช้ของมีคมมีความกว้างประมาณ 4 นิ้วยาวประมาณ 1 เมตร รวมด้าม และด้าม 2 ด้านนั้นใช้ก้อนปูนซีเมนต์เทหล่อในถังพลาสติก จำนวน 2 ก้อน ผูกติดกับด้ามมีดข้างละก้อน แล้วใช้เชือกดึงขึ้นไปบนเสาจากนั้นได้พาตัวเอง เข้าไปนั่งก้มอยู่ตรงใบมีดที่จะตกลงมา และใช้มีดขนาดเล็กตัดเชือกเมื่อเชือกขาดมีดที่ผูกติดก้อนปูนได้ตกลงมาที่คอทำให้ศีรษะขาดออกจากลำตัวเสียชีวิต
ญาติและผู้เกี่ยวข้องที่อยู่ร่วมในการชันสูตรไม่ติดใจในสาเหตุการตาย เนื่องจากเป็นความประสงค์ของผู้ตายประกอบกับมีจดหมายเขียนโดยผู้ตายลงวันที่ 11 เมษายน 2564 สรุปข้อความได้ว่าเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมาผู้ตายให้คำมั่นว่าเมื่อครบกำหนด 5 ปี ในวันที่ 15 เมษายน 2564 ผู้ตายจะสักการบูชาพระพุทธเจ้าโดยการตัดศีรษะของตนเอง เพื่อที่ตนเองจะได้ตรัสรู้เป็นพระปัจเจกพระพุทธเจ้าในอนาคตเมื่อถึงกำหนด 5 ปี ผู้ตายจึงทำตามที่ตั้งใจไว้ เมื่อชันสูตรเสร็จได้มอบศพให้ญาติจัดการตามประเพณี โดยได้เผาช่วงบ่ายในวันเดียวกัน
