นิยม เวชกามา แฉ ผอ.พศจ.กาฬสินธุ์ แอบเข้าไปพบเจ้าคุณบัวศรีให้โทรศัพท์มาให้ตนถอนแจ้งความ กรณีทำหนังสือรายงานกล่าวหา 7 นักการเมืองเคลื่อนไหวปลุกมวลชนถวายฎีกา ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด ลั่นเจอกันที่ศาล
จากกรณีคณะสงฆ์ จ.กาฬสินธุ์ (ธรรมยุต) และศิษยานุศิษย์เคลื่อนไหวคัดค้านมติมหาเถรสมาคมที่มีคำสั่งถอดถอน พระเทพสารเมธี หรือ เจ้าคุณบัวศรี อดีตเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ (ธรรมยุต) โดยมีทั้งการลงชื่อ 1 แสนคนถวายฎีกา และบานปลายถึงขั้นขึ้นป้ายไม่ต้อนรับพระเล็ก รวมทั้งพระสังฆาธิการทยอยลาออก ต่อมา มีหนังสือสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกาฬสินธุ์ รายงานไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติมีเนื้อหาทำนองว่า “คณะสงฆ์ (ธรรมยุต) ได้ยุติความเคลื่อนไหวแล้ว แต่ยังมีศิษยานุศิษย์ที่เป็นฝ่ายนักการเมืองเคลื่อนไหวทำการล่ารายชื่อ 100,000 รายชื่อเพื่อทูลเกล้าถวายฎีกา” พร้อมระบุชื่อ 7 นักการเมือง ทำให้ 4 ส.ส.พรรคเพื่อไทย เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ ผอ.พศจ.กาฬสินธุ์ ในข้อหาหมิ่นประมาทและ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งทาง ผอ.พศจ.กาฬสินธุ์ออกมายืนยันว่าทำตามหน้าที่ข้าราชการที่ดี ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
- 4 ส.ส.เพื่อไทยเดือดแจ้งจับ ผอ.พศจ.กาฬสินธุ์กล่าวหาเท็จชี้เจตนาทำแผ่นดินอีสานแตกแยก
- ผอ.พศจ.กาฬสินธุ์ พร้อมเข้าให้ปากคำ หลัง 4 ส.ส.เพื่อไทยแจ้งความ ยันรายงานไปตามหน้าที่ ขรก.
ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม นายนิยม เวชกามา ส.ส.สกลนคร เขต 2 พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า การที่ผอ.สำนักพุทธศาสนาจังหวัดกาฬสินธุ์ให้สัมภาษณ์สื่อว่าการทำหนังสือรายงานเรื่องดังกล่าวเป็นการทำหน้าที่ข้าราชการที่ดีนั้น ขอถามว่าการทำหน้าที่เป็นข้าราชการที่ดีจำเป็นหรือไม่ที่จะต้องใส่ร้ายคนอื่น เพื่อเป็นผลงานของตนเอง การทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริตต่างหากถึงจะเรียกว่าเป็นข้าราชการที่ดี ดังนั้น เหตุผลที่ได้ตัดสินใจเข้าไปแจ้งความนั้น เพื่อต้องการที่จะพิสูจน์ว่าเรื่องนี้เป็นอย่างไร เนื่องจากมองว่ากรณีที่ผอ.พศจ.กาฬสินธุ์ทำหนังสือรายงานแบบนั้นไปถือว่าเป็นการใส่ร้าย กล่าวหา และเป็นข้อความอันเป็นเท็จ เหมือนกับว่าได้รายงานให้นายทราบแล้ว ตนเองจะได้มีผลงานจริงหรือไม่ การกระทำไม่คำนึงถึงความเป็นธรรม จึงอยากถามว่านี่หรือข้าราชการที่ดีเขาทำกัน หรือต้องการจะให้มีความขัดแย้ง
นายนิยมกล่าวว่า สำหรับผู้ที่เข้าไปแจ้งความทั้ง 4 คน รวมถึงตนนั้น ทุกคนมองว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เป็นการนำเสนอข้อมูลอันเป็นเท็จ ทำให้ประชาชนเข้าใจผิด ทั้งๆ ที่สิ่งที่เกิดขึ้นกับเรื่องดังกล่าวเป็นความตั้งใจจริงของศิษย์ยานุศิษย์ที่ต้องการขอความเป็นธรรมให้กับเจ้าคุณบัวศรี จึงต้องการเรียกร้องให้มีการตรวจสอบ
นายนิยมกล่าวอีกว่า ที่สำคัญกรณี ผอ.สำนักพุทธศาสนาจังหวัดกาฬสินธุ์เข้าไปหาพระเทพสารเมธี หรือหลวงพ่อบัวศรี เพื่อให้โทรศัพท์มาให้ตนถอนแจ้งความนั้น อยากถามอีกว่านี่หรือเป็นพฤติกรรมของข้าราชการที่ดี โดยเฉพาะตัว ผอ.มีหน้าที่ในเรื่องของการทำนุบำรุงศาสนา และจะต้องดูแลพระ ไม่ใช่ไปสั่งพระ และเป็นอำนาจหน้าที่ของ ผอ.สำนักพุทธศาสนาจังหวัดกาฬสินธุ์ที่สามารถทำได้หรือไม่ เรื่องดังกล่าวนั้นยืนยันว่าจะดำเนินคดีถึงที่สุด และให้ไปเจอกันที่ศาลในการพิสูจน์ความจริง เพื่อให้พี่น้องประชาชนจะได้รับรู้
