40 โบราณสถานอยุธยาจมน้ำแล้ว กรมศิลป์ผุด 3 มาตรการ รับมือน้ำท่วมวัดเก่าแก่ด่วน
นายสถาพร เที่ยงธรรม รองอธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ฝนตกหนักทั่วประเทศ จึงได้สั่งการให้สำนักศิลปากรทั่วประเทศ เตรียมความพร้อมรับมือผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับโบราณสถาน และรายงานสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยสำนักศิลปากรที่ 3 พระนครศรีอยุธยา ได้รายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ว่าจากอิทธิพลของพายุโนรูทำให้เกิดฝนตกหนัก เขื่อนเจ้าพระยา และเขื่อนป่าสักระบายน้ำในปริมาณสูงขึ้น จนทำให้ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ระดับน้ำในแม่น้ำบริเวณอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาสูงขึ้นมากกว่า 1 เมตร และทางกรมชลประทานยังแจ้งเตือนว่าระดับน้ำในแม่น้ำบริเวณพื้นที่อุทยานฯ จะสูงขึ้นอีกประมาณ 30-60 เซนติเมตร จึงเตรียมการรับมือดังนี้ 1.ในพื้นที่เกาะเมือง ขณะนี้ทางเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยาได้ทำคันป้องกันน้ำ ซึ่งจะป้องกันโบราณสถานในเกาะเมืองได้เกือบทั้งหมด จะมีเพียงป้อมเพชร และระหัดวิดน้ำในพระราชวังโบราณเท่านั้นที่ถูกน้ำท่วม
นายสถาพรกล่าวต่อว่า 2.พื้นที่นอกเกาะเมือง วัดไชยวัฒนาราม ระดับน้ำต่ำกว่าแผงกันน้ำ 35 เซนติเมตร อุทยานฯ จึงได้ทำการต่อแผงกันน้ำ และเสริมกระสอบทรายบนกำแพงด้านทิศใต้ของวัด ซึ่งจะป้องกันน้ำได้เพิ่มอีก 40 เซนติเมตร รวมแล้วป้องกันน้ำได้อีก 75 เซนติเมตร ซึ่งจะป้องกันน้ำได้มากกว่าระดับน้ำท่วมสูงสุดใน พ.ศ.2554 วัดธรรมาราม ระดับน้ำต่ำกว่าแผงกันน้ำ 30 เซนติเมตร อุทยานฯ จึงเสริมกระสอบทรายบนแผงกันน้ำ ซึ่งจะป้องกันน้ำได้เพิ่มอีก 30 เซนติเมตร รวมแล้วป้องกันน้ำได้อีก 60 เซนติเมตร ซึ่งจะป้องกันน้ำได้เท่ากับระดับน้ำท่วมสูงสุดใน พ.ศ.2554 โบราณสถานสำคัญอื่นๆ โดยเฉพาะโบราณสถานที่เป็นวัดที่มีพระสงฆ์จำพรรษา และวัดที่อยู่กลางชุมชน อุทยานฯ ได้ประสานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในการป้องกันน้ำท่วมไว้แล้ว ซึ่งจะเสริมความสูงของแนวป้องกันน้ำตามระดับน้ำที่สูงขึ้น
นายสถาพรกล่าวอีกว่า 3.ขณะนี้ภายในพื้นที่อุทยานฯ มีโบราณสถานที่ได้ถูกน้ำท่วมแล้วกว่า 40 แห่ง ส่วนใหญ่อยู่นอกเกาะเมืองด้านที่เหนือ ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ แต่โบราณสถานเหล่านั้นส่วนใหญ่จะได้รับการบูรณะเสริมความมั่นคงแล้ว ซึ่งจะไม่ได้รับความเสียหายมาก ส่วนโบราณสถานที่ยังไม่ได้บูรณะเสริมความมั่นคง อุทยานฯ ได้ตั้งนั่งร้านค้ำยันเสริมความมั่นคงไว้แล้ว
“ทั้งนี้ ได้เตรียมความพร้อมสูงสุดในการรับมือ โดยในพื้นที่เกาะเมือง ได้ประสานกับทางเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยาทำคันดินป้องกันน้ำเข้าเกาะเมือง ซึ่งจะป้องกันผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับโบราณสถานได้เกือบทั้งหมด ส่วนพื้นที่นอกเกาะเมือง ในส่วนของวัดไชยวัฒนาราม และวัดธรรมาราม ได้เสริมแนวป้องกันให้รับน้ำได้มากกว่าระดับน้ำท่วมใน พ.ศ.2554 ส่วนโบราณสถานอื่นๆ ได้ประสานความร่วมมือกับทางวัด และ อปท.ในการป้องกันโบราณสถานแล้ว” นายสถาพร กล่าว 
