วธ. เชิญชวนสวดมนต์ข้ามปี 2567 เสริมสิริมงคลทั่วไทย 31 ธ.ค. 66 พร้อมกันทั่วประเทศ
เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า นับเป็นสิริมงคลอย่างยิ่ง ที่ วธ.ได้รับพระเมตตาจาก สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานไฟพระฤกษ์ให้แก่กระทรวงวัฒนธรรม เพื่อจุดเทียนมงคลในพิธีสวดมนต์ข้ามปี และโปรดประทานตราอักษรพระนาม ออป. จัดพิมพ์ลงบนกล่องไม้ขีดไฟ เพื่อมอบให้สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดทั่วประเทศ นำไปประกอบพิธีจุดเทียนมงคลในกิจกรรมดังกล่าว สร้างขวัญกำลังใจแก่พุทธศาสนิกชนที่เข้าร่วมในพิธี และเป็นสิริมงคลในการเข้าสู่ศักราชใหม่ ซึ่งกรมการศาสนาได้ส่งเสริมให้ประชาชนเข้าวัดปฏิบัติธรรมในช่วงเทศกาลปีใหม่ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2548 เป็นต้นมา และได้รับการตอบรับจากพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศไทย และทั่วโลก ร่วมจัดกิจกรรมอย่างแพร่หลาย
ในการนี้ วธ.โดยกรมการศาสนา ได้จัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนสามารถสวดมนต์ข้ามปีได้ทุกที่ในช่วงเวลาส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ประชาชนได้นำหลักธรรมคำสอน มาบ่มเพาะ เสริมสร้างพลังใจให้มีจิตใจที่ผ่องใส ลด ละ เลิกอบายมุข ก่อให้เกิดสิริมงคลแก่ตนเอง ครอบครัว สังคม และประเทศชาติ โดยส่วนกลางจัดกิจกรรมในวันที่ 31 ธันวาคม 2566 ณ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ วัดอรุณราชวราราม และวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม กรุงเทพมหานคร
ทั้งนี้ จะมีการถ่ายทอดสัญญาณภาพงานสวดมนต์ข้ามปี เชื่อมโยงการจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีในส่วนภูมิภาคของประเทศไทยและต่างประเทศ ผ่านทางสถานีวิทยุโทรทัศน์และช่องทางอื่นๆ อีกทั้งกรมการศาสนายังได้จัดทำหนังสือสวดมนต์เพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนที่มาร่วมพิธีอีกด้วย
นอกจากนี้ กรมการศาสนายังได้ขอความร่วมมือองค์การศาสนา เชิญชวนศาสนสถานในสังกัดจัดกิจกรรมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ตามหลักศาสนบัญญัติของศาสนานั้นๆ โดยศาสนาคริสต์ จัดพิธีอธิษฐานขอบคุณพระเจ้า ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู จัดพิธีสวดมนต์ ศาสนาซิกข์ จัดพิธีสวดอัรดาส ขอพรต้อนรับปีใหม่ และสำหรับในช่วงเช้าของวันที่ 1 มกราคม 2567 จะมีพิธีตักบาตรรับปีใหม่ของพุทธศาสนิกชน เพื่อความเป็นสิริมงคลพร้อมกันทั่วประเทศ
รัฐมนตรีว่าการ วธ.กล่าวต่อว่า ในส่วนภูมิภาค 76 จังหวัด โดยองค์กรเครือข่ายทางพระพุทธศาสนาในแต่ละจังหวัด ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ชุมชนท้องถิ่น ได้ร่วมจัดกิจกรรมหรือสนับสนุนการดำเนินงาน ตลอดจนประชาสัมพันธ์เผยแพร่การจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีและกิจกรรมตักบาตรรับปีใหม่ รวมทั้งยังร่วมกับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดที่มีพรมแดนติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคอาเซียน 17 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดอุบลราชธานี หนองคาย นครพนม บึงกาฬ มุกดาหาร ศรีสะเกษ สุรินทร์ เลย ตราด ตาก เชียงราย แม่ฮ่องสอน ยะลา ระนอง สตูล สงขลา และนราธิวาส จัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีอาเซียนให้สอดคล้องกับแนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับเทศกาล ประเพณี พิธีทางศาสนาและพิธีการต่างๆ ของจังหวัด
ส่วนของวัดต่างประเทศทั่วโลก ได้ส่งเสริมให้ประชาชนร่วมกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีฯ ตามวัด/ศาสนสถาน หรือสถานที่จัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีฯ ต่างประเทศ ร่วมกับมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้ประสานความร่วมมือไปยังวัดไทยและวัดทางพระพุทธศาสนาในต่างประเทศทั่วโลกร่วมจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี เช่น จีน ญี่ปุ่น ลาว เวียดนาม เมียนมา สิงคโปร์ ศรีลังกา อินเดีย เนปาล ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สหรัฐอเมริกา เป็นต้น
“การสวดมนต์ข้ามปีในปีนี้จะเป็นกิจกรรมสำคัญที่ประชาชนจะได้ร่วมก้าวเข้าสู่ศักราชใหม่ด้วยความเป็นสิริมงคลทั่วไทย ก่อเกิดอานิสงส์ที่สำคัญ คือ การลดความเสี่ยงจากอบายมุข อุบัติเหตุ และความชั่วร้าย นอกจากนี้ ยังเป็นการทำบุญใหญ่ให้กับชีวิต ทั้งทางกาย จิต และปัญญา พุทธศาสนิกชนได้ร่วมส่งท้ายปีเก่าด้วยธรรมะ และต้อนรับปีใหม่ด้วยศีล พร้อมเริ่มต้นชีวิตด้วยสิ่งที่เป็นมงคล อันจะส่งผลให้ได้พบสิ่งที่เป็นมงคลตลอดทั้งปี ทั้งนี้ กรมการศาสนาได้จัดทำเว็บไซต์สวดมนต์ข้ามปีฯ www.prayer2567.com เพื่อเพิ่มโอกาสให้เด็ก เยาวชน และประชาชนได้มีโอกาสสวดมนต์ได้ในทุกสถานที่ ทุกช่วงเวลาตามอัธยาศัย และยังสามารถเขียนคำอวยพรในการ์ดอวยพรปีใหม่ (ส.ค.ส) แบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Card) แล้วส่งต่อให้ผู้อื่นผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ได้อีกด้วย สามารถสอบถามรายละเอียดงานเพิ่มเติมได้ที่ www.dra.go.th โทรศัพท์ 0-2209-3728 สายด่วนวัฒนธรรม 1765” นายเสริมศักดิ์กล่าว