‘ชวน หลีกภัย’ สุดมั่น ‘ประชาธิปัตย์’ กวาดเก้าอี้ภาคใต้ – ชี้ ‘อภิสิทธิ์’ ไม่ใช่ตัวประกอบ

เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 24 มีนาคม นายชวน หลีกภัย ผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ เดินเท้าออกจากบ้านพักเลขที่ 183 ถนนวิเศษกุล อำเภอเมือง จังหวัดตรัง พร้อมนายระลึก หลีกภัย ผู้เป็นน้องชาย มาลงคะแนนเสียงเลือกตั้งที่ 53 ห้องประชุมใต้อาคารโรงเรียนวัดควนวิเศษ (2) โดยนายชวน ได้เดินดูรูปภาพและหมายเลขของผู้สมัครบนบอร์ดปิดประกาศ และได้ยื่นบัตรประชาชนต่อเจ้าหน้าที่ตามขั้นตอน และหลังหย่อนบัตรเลือกตั้งเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว

นายชวน ให้สัมภาษณ์หลังลงคะแนนเสียงว่า ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนมาใช้สิทธิ์กันให้มากที่สุด เลือกตั้งครั้งนี้มีผลต่อการจัดตั้งรัฐบาลโดยที่ระบบการเลือกตั้งเปลี่ยนไป และเป็นครั้งแรกที่ใช้บัตรใบเดียว เวลาเลือกผู้สมัครมีผลไปถึงพรรค มีผลไปถึงคนอื่น มีผลมาถึงตนเองด้วย จึงอยากเชิญชวนให้พ่อแม่พี่น้องมาใช้สิทธิ์ให้มากๆ เลือกคนดีเข้าไป ก่อนหน้านี้ตนได้เดินทางหาเสียงไปทั่วทุกจังหวัดในภาคใต้

“เช่นวันที่ 23 มีนาคม ในพื้นที่เขต 3 ตรัง ก่อนที่จะมาปราศรัยที่นาโยง ผู้สมัครต้องรีบกลับไปเพราะเรื่องเงินที่อาจจะลงในพื้นที่นั้น ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องหนึ่งที่เป็นข้อเตือนใจสำหรับพี่น้องของเราว่าพฤติกรรมนี้มีในอดีต แต่ว่ายุค 2562 นี้ก็ปรากฏว่ายังไม่น้อยลงไปยังมีพฤติกรรมคนกลุ่มนี้อยู่และกลุ่มใหม่ ก็อยู่ที่ชาวบ้าน ซึ่งตนเองบอกทุกครั้งที่ปราศรัยว่า การขายเสียง ไม่เคยมีใครรวยมีแต่มลทิน” นายชวน กล่าว

นายชวน กล่าวอีกว่า เมื่อนักการเมืองประพฤติอย่างนี้ในหน้าที่เราก็คืออย่าไปเลือกคนประเภทนี้เพราะว่าคนดีเขาไม่ทำ การซื้อเสียงไม่ใช่พฤติกรรมคนดี ไม่ว่าพี่น้องของเราที่ตรังหรือพัทลุงหรือทั่วประเทศ ต้องเลือกคนดี และวันนี้วันเลือกตั้งผมไม่ประสงค์ที่จะระบุว่าเลือกพรรคใด แต่ว่าระวังคนไม่ดีเข้าไป คนไม่ดีเบื้องต้นเห็นได้ชัดก็คือการใช้เงินซื้อเสียงคุกคามใช้เจ้าหน้าที่ข่มขู่คนทั่วไป

Advertisement

เกาะติดการเมือง กับ Line@มติชนการเมือง

เพิ่มเพื่อน

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความมั่นใจว่าในพื้นที่ภาคใต้รักษาที่นั่งเดิมได้ทั้งหมดหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า ในพื้นที่ภาคใต้เที่ยวที่แล้วเรามี 53 แต่เที่ยวนี้ลดลงไป3 จังหวัด ได้แก่กระบี่, ตรัง, นครศรีธรรมราช เหลือ 50 ที่นั่ง เมื่อเทียบแล้วเราได้ 50 ถ้ารักษา 50 ได้ก็นับว่าเก่งแต่เนื่องพรรคถูกดูดไปหลายคน คนใหม่ก็เหนื่อยหน่อย ตามการหยั่งเสียงของสำนักต่างๆ ก็ออกมาได้ 40 กว่าคน บางรายก็ 30 กว่าคน แต่ตนเองยังคิดว่ามากกว่าการหยั่งเสียงเอาไว้ และดูจนวินาทีสุดท้าย จังหวัดที่อ่อนๆ ที่ว่าเป็นห่วงพะวงกันอยู่น่าจะดีขึ้นกว่า

Advertisement

เมื่อถามว่า หลังการเลือกตั้งสถานการณ์การเมืองจะเกิดความวุ่นนวายหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า สถานการณ์การเมืองหลังจากเลือกตั้งนั้นต้องรอผล ปัญหาประชาธิปไตยก็ต้องมีข้อความเห็นที่ขัดแย้งบ้างเป็นธรรมดา ทุกคนต้องเคารพกฎหมายของบ้านเมือง โดยที่้เคยเกิดวิกฤตเพราะความไม่เคารพกฎหมายบ้านเมือง ไม่ยึดหลักประชาธิปไตย การยึดหลักประชาธิปไตยจะต้องยึดกฎหมายเป็นหลัก ถ้าเราใช้วิธีการที่ไม่ประชาธิปไตยเช่น อุ้มฆ่า ฆ่าทิ้ง แบบภาคใต้ของเราปัญหามันก็ตามมามันต้องมีบทเรียนที่พี่น้องคนไทยต้องจำ

“แต่โดยทั่วไปแล้ว ยากที่คนทั่วไปจะเข้าใจในเหตุการณ์อย่างนี้เพราะฉะนั้นต้องศึกษาและยากที่ชาวบ้านจะศึกษา จึงต้องแจ้งความจริงกับชาวบ้านว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเกิดจากอะไร การเผาบ้านเผาเมือง มันเกิดจากคนที่คิดไม่ดีกับบ้านเมือง ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบต่อบ้านเมืองไม่รักษาหน้าที่ของตนเอง เราจึงได้ยินพระบรมโชวาท ขอให้ท่านทั้งหลายให้ประชาชนทุกหมู่เหล่าพิจารณาให้ถ่องแท้ว่าหน้าที่ของท่านคืออะไร แล้วปฏิบัติหน้าที่นั้นให้ดีที่สุด บ้านเมืองมีระบบการดูแลอยู่ มีข้าราชการฝ่ายระดับที่คอยดูแลปัญหา บ้านเมืองกับปัญหาเป็นของคู่กัน ถ้าเมื่อไหร่กลไกไม่ทำงาน ตำรวจไม่ดูแล ทหารไม่ดูแล ปล่อยให้คนร้ายก่อเหตุ

ผู้สื่อข่าวถามว่าหลังเลือกตั้งพรรคประชาธิปัตย์พร้อมเป็นฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน นายชวน กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้ประกาศตามหลักของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งไม่ใช่พรรคเล็กๆ เป็นพรรคที่ตั้งมา 70 กว่าปี ต้องมีความเชื่อมั่นในตัวผู้นำ เพราะการเลือกผู้นำพรรคต้องใช้ระบบที่สมาชิกต้องเห็นด้วยทั้งหมด เขาเลือกมาแล้วก็ต้องหวังให้คนของเขาเป็นผู้นำ ไม่ใช่เป็นรองนายกฯ หรือเป็นตัวประกอบ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image