‘ดร.เอ้’ ควง ‘แนน ศิริภา’ ขอคะแนนชาวฝั่งธน พร้อมเดินสายใช้เครื่องวัดฝุ่น PM2.5 พบยังเกินค่ามาตรฐาน

“ดร.เอ้” ควง “แนน ศิริภา” ขอคะแนนชาวฝั่งธน พร้อมเดินสายใช้เครื่องวัดฝุ่น PM2.5 พบยังเกินค่ามาตรฐาน ชูนโยบาย Wrap ตึกก่อสร้าง ติดตั้งเครื่องวัดฝุ่นคุณภาพสูง 2,000 จุดทั่วกรุง

เมื่อวันที่ 26 เม.ย. นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ลงพื้นที่ตลาดสำเหร่ เขตธนบุรี ขอคะแนนเสียงสนับสนุนให้กับ น.ส.ศิริภา อินทวิเชียร ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เบอร์ 11 เขตธนบุรี คลองสาน ราษฎร์บูรณะ พรรคประชาธิปัตย์ โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักมีการพบปะมีพี่น้องประชาชนที่มาจ่ายตลาดยามเช้า นำเสนอนโยบายของพรรคและรับฟังการสะท้อนปัญหาจากประชาชนในพื้นที่เพื่อรวบรวมและผลักดันให้มีการแก้ไข โดยมีการสะท้อนถึงปัญหาค่าไฟฟ้าแพง ปัญหาค่าครองชีพปากท้องและที่สำคัญคือ ปัญหาสุขภาพ จากฝุ่น PM2.5 เกินค่ามาตรฐานกระทบต่อวิถีชีวิตคนในชุมชน เนื่องจากคนในพื้นที่จำนวนไม่น้อยเป็นผู้สูงอายุ

ทั้งนี้นายสุชัชวีร์ได้น้ำเครื่องตรวจวัดค่าฝุ่น PM2.5 ที่ได้มาตรฐานไปตรวจวัด ในจุดที่ประชาชนร้องเรียนว่าได้รับผลกระทบอย่างมาก ที่บริเวณถนนเจริญนคร 23 ด้วย เนื่องจากเป็นพื้นที่ชุมชนที่อยู่อาศัย ที่มีโรงเรียนอนุบาล และเป็นพื้นที่ที่มีการก่อสร้าง กระทรวงมหาดไทยแห่งใหม่ ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่ ทั้งนี้จากการตรวจวัดในระดับพื้นที่พบ ค่าฝุ่น PM2.5 ถึง 65 มคก./ลบ.ม. ถือว่าเกินค่ามาตรฐาน ขององค์การอนามัยโลก ที่กำหนดค่า PM2.5 ไม่ควรเกิน 25 มคก./ลบ.ม.

นายสุชัชวีร์กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์มีนโยบายติดตั้งเครื่องวัดฝุ่นคุณภาพสูงอย่างน้อย 2,000 จุดทั่วกรุงเทพฯ และขอความร่วมมือป้าย LED แจ้งปริมาณฝุ่นพร้อมส่งสัญญาณเตือนเมื่อเกินค่ามาตรฐาน ถือเป็นการใช้เทคโนโลยีเข้ามาแก้ไขปัญหา นอกจากนี้จะกำหนดเงื่อนไขในกฎหมายอากาศสะอาด ให้ตึกที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างต้อง Wrap ตึกและสามารถเคลมเป็นภาษีได้ ถ้าไม่ Wrap ต้องมีมาตรการเพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างหรือโดนภาษีหนัก และในเขตกรุงเทพฯชั้นในที่มีทั้งโรงเรียน โรงพยาบาลมากมาย ควรเป็นเขต LEZ (Low Emission Zone) เช่น ถ้ารถสิบล้อเข้าเขตนี้ต้องเสียภาษีเพิ่ม รถควันดำห้ามเข้า เป็นต้น

Advertisement

ด้าน น.ส.ศิริภากล่าวยืนยันว่า พรรคประชาธิปัตย์จะเดินหน้าให้มีกฎหมายเข้ามาควบคุมมลพิษอย่างจริงจัง ภายใต้ พ.ร.บ.อากาศสะอาด เพื่อกำหนดมาตรฐานมลพิษทางอากาศอย่างเป็นธรรมต่อสุขภาพประชาชนมากที่สุด โดยเฉพาะ เขตกรุงเทพฯชั้นใน 16 เขต รวมถึง เขตธนบุรี คลองสาน ที่มีสถานศึกษามากกว่า 300 โรงเรียน และสถานพยาบาลมากกว่า 40 แห่ง และได้รับผลกระทบจากฝุ่นอย่างรุนแรง

อย่างไรก็ตามพื้นที่ซอยเจริญนคร 23 นอกจากได้รับเรื่องร้องเรียนผลกระทบของฝุ่น PM 2.5 แล้ว ยังเป็น 1 ใน 10 พื้นที่อันตรายของ กทม.ด้วย เนื่องจากเป็นซอยเปลี่ยว กลางคืนมืดอันตราย จนชาวบ้านในพื้นที่ต้องรวมกลุ่มกันแก้ปัญหา ติดตั้งไฟฟ้ากันเอง ตนจึงรับฟังปัญหาเพื่อมาผลักดันเป็นนโยบาย เพิ่มกล้องวงจรปิดมาช่วยสอดส่องดูแล และใช้นวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ ระบบแจ้งเตือนไปยังสถานีตำรวจ เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ควบคู่กับการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลพัฒนาพื้นที่ให้มีความปลอดภัย เฝ้าระวังปัญหายาเสพติด เชื่อว่าจะช่วยลดปัญหาอาชญากรรมในพื้นที่ได้

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image