ครูใหญ่ ฮา ไม่อยากจะเชื่อ กกต.ขอนแก่น เรียกไปให้ปากคำ จะชง ‘ยุบพรรคก้าวล่วง’ ?
เมื่อวันที่ 11 มีนาคม นายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือ ครูใหญ่ หัวหน้าพรรคก้าวล่วง ซึ่งเป็นหนึ่งในนักเคลื่อนไหวทางการเมือง โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กเปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (10 มี.ค. 66) ตนได้รับแจ้งจาก กกต. ขอนแก่น ว่า กกต.กลาง ให้ มีคำสั่งให้ กกต.ขอนแก่นเรียกไปพบเจ้าหน้าที่ กกต.เพื่อให้ปากคำข้อมูลเกี่ยวกับพรรคก้าวล่วง ตามที่ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เคยร้อง กกต. ให้ตรวจสอบการดำเนินกิจกรรมของพรรคก้าวล่วง
นายอรรถพล ระบุว่า นี่แทบไม่เชื่อว่าเรืองฮาๆ แบบนี้จะเกิดขึ้นได้ ไม่แน่นะ กกต. อาจชงเรื่องยุบพรรคก้าวล่วง และตามด้วยพรรคกระยาจก พรรคเม้งก่า พรรคฟ้าดิน พรรคทานตะวัน และพรรคอื่นๆ ในยุทธจักรอีกหลายพรรค
ทั้งนี้ ผมได้ให้ข้อมูลกับ กกต. ว่า พรรคโดมปฏิวัติ พรรคปฏิวัติมอดินแดง พรรคมอน้ำชี พรรคแก่นนครปฏิวัติ และ “พรรค” อื่นๆ ในทุกสถาบันการศึกษาก็ไม่ได้จดทะเบียนต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองของ กกต. แต่อย่างใด
และแน่นอนว่า หากพี่ปู พงษ์สิทธิ์ คัมภีร์ จะร้องเพลง “พรรคสายตาเถอะนะคนดี…..” อาจจำเป็นที่จะต้องจดทะเบียนกับ กกต. ก่อน
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา ผู้สื่อข่ารายงานว่า นายอรรถพล ได้โพสต์ข้อความแจ้งความคืบหน้าและเหตุผล ที่ถอนตัลงสมัคร ส.ส. ขอนแก่นเขต 2 ในนามพรรคก้าวไกล ตามที่ตั้งใจไว้ก่อหน้านี้ โดยระบุว่า
วันนี้ผมเดินทางจากขอนแก่นมาขึ้นศาลที่กรุงเทพอีกครั้งจากข้อหาที่พวกเผด็จการศักดินายัดเยียดให้ หลังจากนี้ก็คงจะมีนัดสืบพยานในศาลแน่นเอี้ยด บางคดีอาจส่งฟ้องเพิ่ม และบางคดีอาจตัดสินเร็วๆ นี้ อย่างไรก็ตาม ผมยังคงยืนหยัดต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับพี่น้องผู้รักประชาธิปไตยอย่างเต็มที่
แต่สิ่งที่ผมอยากจะแจ้งให้พี่น้องชาวขอนแก่นทราบคือ ในวันพรุ่งนี้ผมคงไม่ได้ไปปรากฏตัวบนเวทีปราศรัยและเปิดตัวผู้ประสงค์ลงสมัคร ส.ส. ขอนแก่นของพรรคก้าวไกลด้วยในวันพรุ่งนี้
เหตุเพราะว่า จากเดิมที่ผมเคยประกาศตัวว่าจะลงสมัคร ส.ส. ขอนแก่นเขต 2 ในนามพรรคก้าวไกลนั้น แต่ด้วยภาระทางคดีและความไม่พร้อมส่วนตัวบางประการ มาถึงวันนี้ผมจึงตัดสินใจที่จะไม่เอาสิทธิเสียงของพี่น้องชาวขอนแก่นเขต 2 ที่รักและชื่นชอบอุดมการณ์และนโยบายของพรรคก้าวไกลเข้ามาร่วมเสี่ยงกับตัวผมด้วย ผมจึงตัดสินใจถอนตัวจากการเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ในครั้งนี้
ส่วนตัวว่าที่ผู้สมัครคนใหม่นั้นรับรองว่า “จ้วด” แน่นอน
สุดท้าย ผมยังคงร่วมงานกับพรรคก้าวไกลต่อไป และจะต้องปรับบทบาทหลายอย่างเพื่อให้ได้ใช้ความสามารถของผมเป็นแรงเสริมที่จะช่วยส่งผู้สมัครของพรรคก้าวไกลโดยเฉพาะในภาคอีสานเข้าสู่สภาให้ได้มากที่สุด
