เต้น เหน็บ ประยุทธ์ เอาเวลาไปดูพรรคที่เคยเป็นแคนดิเดตนายกฯดีกว่า ไม่ต้องห่วง พท.

เต้น เหน็บ ประยุทธ์ เอาเวลาไปดูพรรคที่เคยเป็นแคนดิเดตนายกฯดีกว่า ไม่ต้องห่วง พท.

‘เพื่อไทย’ ฟิต! ร่ายยาวแถลงกำหนดการลงพื้นที่ปราศรัย พรุ่งนี้วันเดียว 4 เวทีรวด ขณะที่โปรแกรมต่างๆ ถูกวางถึงสิ้นเดือน เหน็บ ‘ประยุทธ์’ ไม่ต้องห่วง พท.เอาเวลาไปดูพรรคที่เคยเป็นแคนดิเดตนายกฯ ดีกว่าว่าทำอะไรสำเร็จแล้วบ้าง

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 17 เมษายน ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย แถลงตารางการลงพื้นที่ปราศรัยใหญ่ในภูมิภาคต่างๆ ว่า วันที่ 18 เมษายน นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรค พท. และคณะจะเดินทางไปที่ จ.ร้อยเอ็ด โดยเวลา 09.30 น. จะมีเวทีปราศรัยที่โรงเรียนจันทรุเบกษา อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด

Advertisement

นำโดย นายเศรษฐา ตน นายนพดล ปัทมะ รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรค พท. และนายอดิศร เพียงเกษ จากนั้นเดินทางไปพบปะนักธุรกิจในพื้นที่สาเกต ฮอลล์ ก่อนจะมีเวทีปราศรัยที่สาเกต ฮอลล์ ด้วย จากนั้นออกเดินทางไปยัง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ เพื่อเปิดเวทีปราศรัยที่สวนสุขภาพข้างที่ว่าการ อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ และเดินทางไปยังเวทีปราศรัย ที่สนามกีฬากลาง โรงเรียนวังมนวิทยาคาร อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์

จากนั้นเดินทางไป อ.เมือง จ.ขอนแก่น เพื่อพบปะพี่น้องประชาชนที่ตลาดต้นตาล อ.เมือง จ.ขอนแก่น

นายณัฐวุฒิกล่าวต่อว่า ส่วนในวันที่ 19 เมษายน จะมีเวทีปราศรัยที่ลานตลาดนัดน้ำพอง อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ก่อนเดินทางไป อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น เพื่อพบปะผู้ประกอบการปศุสัตว์ และอุตสาหกรรมไก่ย่างเขาสวนกวาง และเดินทางไปนิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี อ.เมือง จ.อุดรธานี เพื่อพบปะนักธุรกิจ พูดคุยประเด็นการยกระดับภาคอุตสาหกรรม และการขนส่งสินค้า และดูเส้นทางการสร้างรถไฟความเร็วสูง จากนั้นเวลา 17.00 น. นายเศรษฐาจะนำคณะขึ้นรถแห่พบปะพี่น้องประชาชน อ.เมือง จ.อุดรธานี

Advertisement

นายณัฐวุฒิกล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ในช่วงโค้งสุดท้าย คณะกรรมการบริหารพรรค และกองอำนวยการเลือกตั้งจะมีแนวทางในการปรับรูปแบบและยุทธวิธีเพื่อจะนำไปสู่การลงคะแนนอย่างไร คงต้องประเมินสถานการณ์ช่วงปลายเดือนเมษายนอีกครั้ง แต่ขณะนี้โปรแกรมต่างๆ วางยาวไปถึงสิ้นเดือนเมษายนแล้ว ซึ่งไม่เฉพาะเวทีปราศรัยใหญ่ที่มีนายเศรษฐาไปลำพังเท่านั้น แต่บางทีจะมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรค พท.อีกคนร่วมปราศรัยผ่านระบบออนไลน์อีกครั้งด้วย

นายณัฐวุฒิกล่าวด้วยว่า หลังกลับมา กทม.แล้ว วันที่ 20 เมษายนจะมีการปราศรัยที่เขตคันนายาว ก่อนจะกลับขึ้นอีสานอีกครั้ง โดยวันที่ 21 เมษายนจะเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ในพื้นที่ จ.หนองคายและ จ.เลย ขณะที่วันที่ 22 เมษายนจะไปที่ภาคเหนือตอนล่างคือ จ.เพชรบูรณ์และ จ.สุโขทัย และวันที่ 23 เมษายนจะมีการปราศรัยใหญ่ใน จ.ปทุมธานี วันที่ 24 เมษายนจะมีเวทีปราศรัยใหญ่ในพื้นที่ กทม.ย่านสะพานพระราม 8 จากนั้นวันที่ 25-27 เมษายนจะยกทีมลงพื้นที่ภาคใต้ กลับมาวันที่ 28 เมษายน จะมีเวทีปราศรัยในพื้นที่ กทม.อีกครั้งในโซนห้วยขวาง-ดินแดง วันที่ 29 เมษายนจะไป จ.สุรินทร์ และ จ.ศรีสะเกษ จากนั้นวันที่ 30 เมษายน จะไปที่ จ.บุรีรัมย์ โดยหนึ่งวันอาจจะไม่ได้มีแค่เวทีเดียว แต่แน่นอนว่าอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงบ้าง ขึ้นอยู่กับสถานการณ์

นายณัฐวุฒิกล่าวต่อว่า สำหรับกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์นโยบายดิจิทัลวอลเล็ตกัน และล่าสุดพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอเรียนว่าเรื่องนโยบายพรรค พท.มั่นใจในประสบการณ์ และเชื่อมั่นเกียรติประวัติที่เคยทำไว้ให้กับประชาชนว่าสิ่งที่พรรค พท.ประกาศในสนามเลือกตั้งจะถูกนำมาเป็นนโยบายหลักของรัฐบาลและปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม

ที่ พล.อ.ประยุทธ์วิพากษ์วิจารณ์อยู่ก็เข้าใจว่าท่านไปเทียบเคียงกับการประกาศนโยบายพรรคการเมืองที่ท่านเคยเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เพราะพรรคนั้นประกาศแล้วทำไม่ได้ ท่านจึงเข้าใจว่าทุกพรรคเมื่อประกาศนโยบายแล้วจะทำไม่ได้ ยืนยันว่าไม่ใช่แนวทางของพรรค พท. ท่านไม่ต้องมากังวลอะไรกับเราตรงนี้ ให้ประชาชนตัดสินใจดีกว่า ท่านมีหน้าที่กลับไปดูนโยบายพรรคการเมืองที่ท่านเคยเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีว่ามีนโยบายอะไรบ้างที่ท่านทำสำเร็จแล้วบ้าง ที่นายธนกร วังบุญคงชนะ เคยบอกว่าเลือกความสงบจบที่ลุงตู่ แต่ตนคิดว่าไม่มีอีกแล้ว ตนคิดว่าประชาชนเข็ดแล้ว หากจะมีคำขวัญเช่นนั้นอีก คนคงคิดตรงกันว่า เลือกความเป็นอยู่ลุงตู่พอแล้ว เพราะความสงบก็ไม่มี ความเป็นอยู่ก็วิกฤต ไม่มีอะไรดีไปกว่าการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง เอาพรรคการเมืองอื่นเข้าไปทำหน้าที่

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image