‘วราวุธ’ ยกทัพ ชทพ.’ ปราศรัยแปดริ้ว ย้ำผู้สมัครลงพื้นที่เคาะประตูบ้านช่วงโค้งท้าย

‘วราวุธ’ ยกทัพ ชทพ.’ ปราศรัยแปดริ้ว ย้ำผู้สมัครลงพื้นที่เคาะประตูบ้านช่วงโค้งท้าย

เมื่อวันที่ 19 เมษายน นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา นายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรค พร้อมแกนนำพรรค อาทิ นายสันติ กีระนันทน์ รองหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา นางนันทพร ดำรงพงศ์ รองเลขาธิการพรรค เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ ที่สามแยกบางขวัญ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ช่วยนายเฉลิง จูจำรัส ผู้สมัคร ส.ส.ฉะเชิงเทรา เขต 1 พรรคชาติไทยพัฒนา หาเสียง

โดยนายวราวุธ ให้สัมภาษณ์ก่อนขึ้นเวทีว่า ชาติไทยพัฒนาเปิดเวทีปราศรัยในเขตเลือกตั้งเขต 1 ฉะเชิงเทรา ช่วยนายเฉลิง ซึ่งเราถือเป็นน้องใหม่ในพื้นที่นี้ จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้โอกาสจากพี่น้องประชาชนที่จะให้โอกาสกับพรรคชาติไทยพัฒนาและนายเฉลิง ให้เข้ามามีโอกาสรับใช้ เพราะแน่นอนว่าในแต่ละพื้นที่ย่อมมีเจ้าถิ่น มีคนที่ครองฐานเสียงประชาชนมายาวนาน แต่เราก็หวังว่าจะได้มีโอกาสเข้ามาทำงานให้กับพี่น้องประชาชนชาวฉะเชิงเทราเหมือนกับอีกหลายจังหวัดที่เราอาสาเข้าไปทำงาน ซึ่งพรรคชาติไทยพัฒนาเน้นการทำงานเหมือนครอบครัว และเมื่อทำงานแล้วย่อมมีความผูกพันธ์กับประชาชนในพื้นที่ ดังนั้นการมาเปิดเวทีปราศรัยในครั้งนี้ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะสามารถขอคะแนนและเรียกความเชื่อมั่น และให้ความมั่นใจกับชาวฉะเชิงเทราในเขต 1 ว่าจะให้โอกาสกับพรรคชาติไทยพัฒนาเบอร์ 18 และนายเฉลิง เบอร์ 8 เราก็มั่นใจว่าจะสามารถทำงานให้ได้ไม่แพ้กับอีกหลายจังหวัดที่เราทำงานมาแล้ว

“ในแต่พื้นที่ไม่มีมั่นใจมากกว่าหรือน้อยกว่า เพราะผมพูดอยู่เสมอว่าในทุกพื้นที่ของประเทศไทย แม้ในจังหวัดสุพรรณบุรี เราไม่เคยประมาท ทุกครั้งในการเลือกตั้ง จาก 50-50 โอกาสได้กับตกเท่ากัน ถ้าผู้สมัครฯมีความประมาท ดังนั้นฉะเชิงเทรา ไม่ว่าจะเป็นเจ้าถิ่นหรือเป็นน้องใหม่ การทำงานอย่างรัดกุม เข้าถึงพี่น้องประชาชน วางเครือข่ายให้ครอบคลุมทั่วพื้นที่เป็นสิ่งสำคัญ และที่สำคัญที่สุดคือ อย่าละสายตาออกจากพื้นที่เด็ดขาด จากนี้ไปถึงวันที่ 14 พ.ค. ผู้สมัคร ของพรรคชาติไทยพัฒนาทุกคนห้ามประมาท” นายวราวุธ กล่าว

Advertisement

นายวราวุธ กล่าวว่า ส่วนกลยุทธ์ในช่วงโค้งสุดท้ายของพรรคชาติไทยพัฒนา คือ เดินเคาะประตูทุกบ้านให้ครบทุกตารางนิ้ว ซึ่งยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องง่าย ซึ่งหวังอย่างยิ่งว่า นายเฉลิงจะเดินเคาะประตูได้ครบทุกบ้าน เหมือน ส.ส.ชาติไทยพัฒนาในทุกพื้นที่ อย่างไรก็ตาม สำหรับกระแสในช่วงนี้ ที่พรรคชาติไทยพัฒนา ไม่ติดโพล 1 ใน 5 นั้น เบื้องต้นเราทำให้ดีที่สุดในการลงพื้นที่ วางเครือข่ายให้แน่นหนาที่สุด ส่วนผลจะเกิดขึ้นอย่างไรก็จะเป็นบทเรียนให้เราเตรียมตัวในครั้งต่อไป ตนเพิ่งเข้ามารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา มาได้กว่า 6 เดือน เวลาไม่มากเท่ากับหัวหน้าพรรคอื่น แต่ระลึกเสมอว่าในการทำงานทุกครั้งความไม่ประมาทจะเป็นพื้นฐานสำคัญ ส่วนผลโพลจะเป็นแรงผลักดันสำคัญให้ผู้สมัครฯชาติไทยพัฒนาทุกคน ในเมื่อเห็นแล้วว่าโพลเราไม่ขึ้น หลายคนอาจจะถอดใจ ใจไม่อยากสู้ แต่ในส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนา เราให้กำลังใจผู้สมัครทุกคน ไม่ว่าผลเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร การเลือกตั้งจบลงแล้ว แต่ปัญหาของพี่น้องประชาชนยังไม่จบ การทำงานยังต้องดำเนินต่อไป ดังนั้นผู้สมัครชาติไทยพัฒนาทุกคนสอบได้หรือไม่ได้ ยังต้องทำงานต่อ ผลโพลเป็นเพียงส่วนหนึ่งในการมาช่วยกระตุ้นให้เราทำงานรอบคอบและละเอียดยิ่งขึ้นเท่านั้น อย่างไรก็ตาม พรรคชาติไทยพัฒนา มีการทำโพลเองเหมือนกัน บางพื้นที่ก็เป็นไปตามคาด แต่บางพื้นที่กระแสเรายังไม่ถึง เราก็ต้องกระตุ้นผู้สมัครฯ ให้เร่งดำเนินการตามแผนที่วางกันไว้ เพราะเหลือเวลาอีก 20 กว่าวันเท่านั้น”

นายวราวุธ กล่าวว่า สำหรับเรื่องบัตร 2 ใบที่กกต.กำหนดสีออกมาแล้วนั้น สีเขียวเลือกพรรค สีม่วงเลือกคน ถ้าเปิดบัตรลงคะแนนมาเห็นโลโก้พรรค ก็ให้กาเลือกพรรค ส่วนบัตรอีกใบหนึ่ง เห็นแต่ตัวเลขเพียงอย่างเดียว ก็ให้กาเลือกผู้สมัครเขต ส่วนกรณีของพรรคชาติไทยพัฒนา บัตรสีเขียวให้กาเบอร์ 18 ท่องไว้เลยว่า เขียว18

นายวราวุธ กล่าวด้วยว่า เรื่องการทำลายป้ายหาเสียง ในส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนาเองก็โดนไม่น้อยไปกว่าพรรคอื่่น ซึ่งอยากขอร้อง ขอความเห็นใจ ทุกพรรคการเมืองมีหน้าที่นำเสนอนโยบายสู่ประชาชนตามกฎหมาย จึงขอความเห็นใจว่าพวกเราก็ต้องทำงานตามครรลองประชาธิปไตย การมาทำลายป้ายแบบนี้เป็นการทำการเมืองที่ไม่สร้างสรรค์ อยากขอวิงวอนผู้ที่คิดจะทำลายป้ายว่าเราก็อยู่ในวงการการเมืองด้วยกัน ทำงานการเมืองด้วยกัน หากรักพรรคใดชอบผู้สมัครคนไหนก็นิยมชมชอบโดยไปแสดงออกโดยการเลือกเขา อย่ามาใช้วิธีการทำลายล้าง เพราะเป็นการทำงานการเมืองที่่ไม่สร้างสรรค์

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image