‘ประภัสร์’ อ้อนชาวนครปฐม อย่ารักพี่เสียดายน้อง เลือก พท.ทั้งคนทั้งพรรค สู่การเปลี่ยน รบ.

‘ประภัสร์’ อ้อนชาวนครปฐม อย่ารักพี่เสียดายน้อง เลือก พท.ทั้งคนทั้งพรรค สู่การเปลี่ยน รบ.

เมื่อวันที่ 23 เมษายน เวลา 12.00 น. นายประภัสร์ จงสงวน แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) ลงพื้นที่ จ.นครปฐม ช่วย นายวินัย วิจิตรโสภณ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 (อ.บางเลน อ.ดอนตูม) จ.นครปฐม หาเสียงที่ตลาดน้ำลำพญาแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของอำเภอบางเลน โดยมีพ่อค้าแม่ค้า รวมทั้งนักท่องเที่ยวมาพูดคุยทักทาย และขอถ่ายรูปด้วยเป็นจำนวนมาก หลายคนยืนยันว่าจะเลือกพรรคเพื่อไทยอย่างแน่นอน เพราะเชื่อมั่นผลงานในอดีตว่าสามารถทำตามนโยบายที่ใช้หาเสียงได้จริง พร้อมทั้งฝากให้ช่วยลดค่าแก๊สค่าไฟ รวมทั้งค่าน้ำมันให้ชาวบ้านด้วยหากเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล เพราะตอนนี้ชาวบ้านแบกรับภาระกันแทบไม่ไหวแล้ว

นายประภัสร์ยังอ้อนวอนไปยังชาวนครปฐมด้วยว่าอย่ารักพี่เสียดายน้อง ด้วยการเลือกเพื่อไทยเพียง ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ แต่ ส.ส.เขตไปเลือกจากพรรคการเมืองอื่นตามกลยุทธ์ของพรรคคู่แข่งที่ขอให้เลือกแบบแบ่งคะแนนกัน เพราะต้องไม่ลืมว่า ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์มีเพียง 100 คน ส่วน ส.ส.เขตมีถึง 400 คน ดังนั้นหากอยากได้เพื่อไทยเป็นรัฐบาล ก็ต้องเลือกทั้ง ส.ส.เขตและ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ให้เพื่อไทยแลนด์สไลด์ จึงจะสามารถเปลี่ยนรัฐบาลได้ เพราะต้องไม่ลืมว่าเขามี 250 ส.ว.คอยยกมือสนับสนุนอยู่ หากยังเลือก ส.ส.เขตจากรัฐบาลเก่าเราก็จะไม่มีโอกาสเปลี่ยนแปลง หากทุกท่านคิดว่า 8 ปีที่ผ่านมาควรถึงจุดที่พอได้แล้วก็ควรให้โอกาสพรรคเพื่อไทยที่เคยสร้างผลงานในอดีตจนเป็นที่ประจักษ์ โดยเฉพาะการทำให้คนไทยยืนอยู่ได้ด้วยลำแข้งของตัวเองไม่ต้องคอยพึ่งพาความช่วยเหลือจากรัฐบาลอยู่ตลอดเวลาเหมือนยุคปัจจุบัน

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าผู้สมัครบางคนเริ่มมีการเจรจาต่อรองกับผู้นำท้องถิ่น หรือเริ่มมีกระแสข่าวเรื่องการแจกเงินในบางพื้นที่นั้น นายประภัสร์ตั้งข้อสังเกตว่าตั้งแต่รัฐบาลชุดนี้เข้ามาเริ่มมีการใช้เงินเข้ามาเกี่ยวข้องตลอด ตั้งแต่มีการแจกกล้วยในสภา หรือมีการแจกนั่นแจกนี่อยู่ตลอดเวลา จนกลายเป็นเรื่องปกติของพวกเขาทั้งที่การให้เงินเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง ดังนั้นควรคิดไว้เสมอว่าเมื่อเขาให้เงินเรามาแสดงว่า ต้องการผลประโยชน์ตอบแทนในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง และไม่ได้เอาคืนธรรมดาอาจเป็นการเอาคืนแบบมีดอกเบี้ยด้วย ดังนั้นหากคิดจะรับเงินใครควรคิดถึงอนาคตของลูกหลานเราด้วย

Advertisement

ด้าน นายวินัย วิจิตรโสภณ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 กล่าวว่า จากการลงพื้นที่หาเสียงอย่างต่อเนื่องพบว่า ชาวบ้านชื่นชอบนโยบายกระเป๋าตังค์ดิจิทัล 1 หมื่นบาทเป็นอย่างมาก เพราะสามารถเอาเงินก้อนที่ได้รับไปลงทุน หรือประกอบธุรกิจค้าขายของตัวเองได้เลย ไม่เหมือนกับการแจกเงินเล็กๆ น้อยๆ รายเดือนที่เป็นเพียงการหล่อเลี้ยงชีวิตไปแบบเดือนต่อเดือนเท่านั้นไม่รู้จักจบจักสิ้น ไม่สามารถทำให้พี่น้องประชาชนลืมตาอ้าปากได้ อย่างเช่นใน 1 ครอบครัวมีคนอายุเกิน 16 ปี 5 คน ก็จะได้รับ 5 หมื่นบาท ซึ่งสามารถเอาไปลงทุน หรือทำอะไรได้มากมาย จึงอยากให้พี่น้องชาวนครปฐมเลือกตั้งแบบมียุทธศาสตร์เลือกเพื่อไทยให้ได้เกิน 300 เสียงเพื่อสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้จริงอย่าไปรักพี่เสียดายน้อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image