| ผู้เขียน | เดินหน้าชน |
|---|
การเมืองที่ร้อนแรงอยู่แล้ว เมื่อมีประเด็น “ค่าไฟแพง” ยิ่งทำให้ร้อนฉ่าเข้าไปอีก
แต่ละพรรคโยนบาปให้รัฐบาล แม้แต่พรรคร่วมรัฐบาลก็ไม่เว้น (ยกเว้นพรรครวมไทยสร้างชาติ)
แกนนำและทีมเศรษฐกิจของพรรคต่างๆ ออกมาซัดแหลก อ้างสาเหตุต่างๆ นานา บ้างก็ว่ามาจากสัญญาซื้อไฟเอกชนมากเกินไป บ้างก็ว่าบริหารจัดการผิดพลาดเรื่องพลังงาน อย่างก๊าซแอลเอ็นจี ที่เป็นเชื้อเพลิงหลัก บ้างก็ว่าสูตรคิดค่าไฟผิดเพี้ยน…และบลาๆๆๆๆ
ขณะเดียวกันไอเดียกระฉูด เสนอโน่นนี่นั่น หวังโกยคะแนนเสียง แต่ทำได้จริงหรือไม่ ค่อยว่ากันหน้างานหากฟลุคได้เป็นรัฐบาล แต่ถ้าเป็นฝ่ายค้านก็ลอยตัวไม่ต้องทำตามที่พูด เอาไว้คอยถล่มรัฐบาลต่อ
บางพรรคโวว่าจะลดค่าไฟทันทีจาก 4.70 บาท/หน่วย เหลือแค่ 2.50 บาท/หน่วย บางพรรคจะรื้อสูตรการคำนวณค่าไฟ ยกเลิกค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) ให้ค่าไฟลดลงมาได้ 1.50 บาท
หากเลิกค่าเอฟที จะมีคำถามตามมาว่าแล้วจะมีสูตรคำนวณต้นทุนส่วนอื่นๆ อย่างไร เช่น ค่าสายส่ง ค่าสนับสนุนพลังงานทดแทน (Adder) และการจ่ายหนี้คืนให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
พูดถึงเรื่องค่าเอฟที ไม่ใช่ว่าเพิ่งจะพุ่งขึ้นมา ย้อนไปตั้งแต่ปี 2559-2564 ค่าเอฟทีติดลบมาตลอด อย่างปลายปี2559 ติดลบ 33.29 สต./หน่วย ปี 2560 ติดลบ 15.90-37.29 สต./หน่วย ปี 2561 ทั้งปีติดลบ 15.90 ปี 2562 ทั้งปีติดลบ 11.60 สต. ปี 2563 ติดลบ 11.60-12.43 สต./หน่วย ปี 2564 ทั้งปีติดลบ 15.32
เพิ่งมาปี 2565 ที่เพิ่งมาบวก งวดแรก (ม.ค.-เม.ย.) 1.39 สต./หน่วย งวดที่สอง (พ.ค.-ส.ค.) 24.77 สต./หน่วย และงวดที่สาม (ก.ย.-ธ.ค.) 93.43 สต./หน่วย
กระทั่งปี 2566 งวดแรก อยู่ที่ 93.43 สต./หน่วย ล่าสุด งวดที่สอง พฤษภาคม-สิงหาคม อยู่ที่ 98.27 สต./หน่วย
สาเหตุเพราะเกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ทำให้ราคาพลังงานทั่วโลกสูงขึ้น โดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติที่ไทยใช้ในการผลิตไฟฟ้าถึง 60%
คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เผยว่าโครงสร้างค่าไฟช่วง พ.ค.-ส.ค. 2566 มีต้นทุนค่าเชื้อเพลิงอยู่กว่า 2.74 บาทต่อหน่วย ต้นทุนค่าเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้นมาจากราคาก๊าซแอลเอ็นจี นำเข้าจากต่างประเทศ ที่นำเข้ามาผลิตไฟฟ้าในช่วงที่ก๊าซในอ่าวไทยผลิตได้น้อยลง
ประกอบกับช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย. ที่ผ่านมาอากาศร้อนมาก ประชาชนใช้ไฟฟ้ามาก เพราะต้องเปิดแอร์ เปิดพัดลมกันแทบทั้งวัน จำนวนหน่วยใช้ไฟฟ้าก็ดีดขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า บางบ้านเคยใช้ไฟต่ำกว่า 300 หน่วย ได้รับส่วนลดจากรัฐบาล แต่เมื่อใช้เกิน 300 หน่วย ส่วนลดก็ไม่ได้ เลยต้องจ่ายแพงขึ้น
นอกจากนี้ เมื่อใช้ไฟเพิ่มขึ้น ค่าไฟจะคิดในอัตราก้าวหน้า นั่นคือยิ่งใช้ไฟมาก ค่าไฟที่ใช้ในหน่วยหลังๆ ต้องจ่ายแพงขึ้น เป็นไปตามหลักการที่ว่าผู้ใช้น้อยจ่ายต่ำกว่าผู้ใช้มาก เป็นมาตรฐานสากลที่ใช้แทบทั้งโลก
ดังนั้น การหาเสียงจะลดค่าไฟฟ้า 1-2 บาท/หน่วย ในเวลาอันสั้นเป็นเรื่องยาก เพราะขึ้นกับราคาเชื้อเพลิงในตลาดโลก หากก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยไม่พอ ก็ต้องนำเข้าก๊าซแอลเอ็นจี ที่มีต้นทุนสูงกว่ามาผลิตไฟอยู่ดี หากจะลดค่าไฟก็ต้องหาเงินมาอุดหนุนกันมหาศาล
ช่วงที่ค่าเอฟทีติดลบ ไม่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อะไร เป็นธรรมชาติเมื่อได้ของถูกจะเงียบ แต่เมื่อราคาแพงขึ้นจะมีเสียงโวยวายทันที
ยิ่งช่วงเลือกตั้ง พรรคต่างๆ เลยโหมกระพือ หวังเรียกคะแนนเสียง ฉวยเอาเรื่องเทคนิคที่ชาวบ้านเข้าใจยาก มาบิดเบือน ปั่นกระแส แล้วชูนโยบายต่างนานา…บลาๆๆๆๆ ว่าจะลดค่าไฟเท่านั้น เท่านี้
ประชาชนไม่อยากรู้อยู่แล้วว่าต้นสายปลายเหตุไฟแพงเกิดจากอะไร ขอแค่ค่าไฟถูกลงเป็นพอ แต่ของถูกที่ได้อาจแค่ความฝัน หรืออาจต้องไปจ่ายแพงกว่าในภายหลัง ทั้งทางตรงและทางอ้อม
สราวุฒิ สิงห์เอี่ยม
