Isle of Dogs กับ Billionaire Boys Club เข้มข้นสองสไตล์

Isle of Dogs กับ Billionaire Boys Club เข้มข้นสองสไตล์

Isle of Dogs กับ Billionaire Boys Club เข้มข้นสองสไตล์

Isle of Dogs

หนังเรื่องนี้เป็นแอนิเมชันเรื่องแรกที่ได้รับเลือกให้ฉายเปิดเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเบอร์ลิน ครั้งที่ 68 เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2018 เวส แอนเดอร์สัน ผู้กำกับและเขียนบทได้รับรางวัลกรังด์ปรีซ์หรือหมีเงิน ( Silver Bear) สาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม โดยหนังเข้าฉายที่อเมริกาตั้งแต่เมื่อเดือนมีนาคม

สำหรับแฟนหนังในประเทศไทย แม้จะรอคอยนานหน่อย แต่ยังดีที่ได้มีโอกาสดู แอนเดอร์สันหายหน้าไปนาน หลังกำกับ The Grand Budapest Hotel หนังที่คว้าออสการ์ถึง 4 รางวัล

เขาเป็นผู้กำกับที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีลายเซ็นชัดเจน ตั้งแต่งานภาพที่ละเอียด เนี้ยบ พล็อตเรื่องแฟนตาซีแต่แอบเสียดสีและตลกร้าย จัดองค์ประกอบภาพแบบกึ่งกลางเฟรมและสมดุล (ไม่แปลกที่พอเข้าโรงหนัง จะเห็นคนดูส่วนใหญ่ที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ของแอนเดอร์สันเลือกที่นั่งตรงกลางจอ) สีสันหนังสดใส และนักแสดงเป็นหน้าเดิมๆ ที่เคยร่วมงานกับเขา

Advertisement

แม้หนังเรื่องนี้จะเป็นแอนิเมชัน แต่ผู้ให้เสียงน้องหมายังคงเป็นนักแสดงที่เคยร่วมงานกับเขา ตั้งแต่ ไบรอัน แครนสตัน บิลล์ เมอร์เรย์ เอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน เจฟฟ์ โกลด์บลัม เป็นต้น

Isle of Dogs ไม่ใช่หนังแอนิเมชันสต๊อปโมชั่นเรื่องแรกที่แอนเดอร์สันสร้าง ก่อนหน้านี้ มีเรื่อง Fantastic Mr. Fox เรื่องราวจิ้งจอกหัวขโมยที่ถูกเจ้าของฟาร์มไล่ล่า แต่ทั้งโทนและอารมณ์หนังต่างกันโดยสิ้นเชิงกับ Isle of Dogs

คนดูที่ไม่ทราบเรื่องราวมาก่อนอาจนึกว่ากำลังดูการ์ตูนญี่ปุ่นที่คนญี่ปุ่นสร้าง เพราะแอนเดอร์สันสร้างหนังเรื่องนี้ด้วยแรงบันดาลใจจากหนังของ ผู้กำกับอากิระ คุโรซาวา มีการค้นคว้าและถ่ายทอดศิลปะญี่ปุ่นออกมาอย่างละเมียดละไมตลอดทั้งเรื่อง ทั้งภาพ ฉาก วัฒนธรรม การตีกลองไทโกะ กลอนไฮกุ ละครคาบุกิ ฯลฯ

Advertisement

หนังเล่าเรื่องราวเมืองสมมุติในประเทศญี่ปุ่นที่ประชากรสุนัขเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และถูกประกาศว่าเป็นตัวแพร่โรคร้ายที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ นายกเทศมนตรีโคบายาชิจึงสั่งเนรเทศน้องหมาทุกตัว ทั้งหมาจรจัดและหมามีเจ้าของไปยังเกาะขยะ

โดยตัวแรกที่ถูกเนรเทศให้เป็นตัวอย่างคือ สปอตส์ สุนัขบอร์ดี้การ์ดของ อาตาริ โคบายาชิ หลานชายกำพร้าที่นายกเทศมนตรีรับมาเลี้ยง

แต่เรื่องนี้มีเบื้องหลัง ตั้งแต่อดีตกาลตระกูลโคบายาชิมีแค้นฝังใจกับเผ่าพันธุ์สุนัข และถือโอกาสที่มีอำนาจกำจัดสุนัขและคนที่เห็นต่างให้หมดสิ้นไป ทั้งๆ ที่นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบยารักษาโรคของน้องหมาเหล่านี้แล้ว

เด็กน้อยวัย 12 ขวบ อาตาริ หลานนายกเทศมนตรี จึงขโมยเครื่องบินออกเดินทางไปเกาะขยะเพื่อตามหาสปอตส์ เขาได้รับความช่วยเหลือจากน้องหมากลุ่มหนึ่งที่เคยเป็นสุนัขบ้าน และชีฟ (ไบรอัน แครนสตัน) สุนัขจรจัดที่เกลียดและไม่ยอมรับความเป็นนายของมนุษย์

งานสร้างแอนิเมชันสต๊อปโมชั่นเรื่องนี้พิถีพิถันและละเอียดลออ ทั้งงานภาพ การเคลื่อนไหวของตัวละคร และซาวด์ประกอบที่มีเอกลักษณ์ความเป็นญี่ปุ่น ตัวละครไม่สวยสดใสแบบแอนิเมชันของค่ายวอลต์ดิสนีย์ หรือ ดรีมเวิร์ก

อาตาริเป็นเด็กน้อยหน้าตาไม่น่ารัก ดูเป็นตัวการ์ตูน การเคลื่อนไหวก็แปลกๆ แต่เป็นเจตนาของแอนเดอร์สันที่ต้องการให้คนดูรู้สึกว่าตัวละครในเรื่องเป็นตัวการ์ตูน และคนดูกำลังดูการ์ตูนอยู่ มีหลายฉากที่ดูแล้วต้องอมยิ้มเพราะขันในความเป็นการ์ตูนของหนัง เช่น ฉากฉีดยาให้น้องหมา หรือฉากผ่าตัดไต

ดูเผินๆ เหมือนเป็นหนังผจญภัยและมิตรภาพระหว่างเด็กน้อยกับเพื่อนสี่ขา แต่ถ้าดูให้ลึก มันคือการเปรียบเทียบชีวิตมนุษย์ในเรื่องราวของสุนัข คนที่ถูกลิดรอนสิทธิ ขับไล่ออกจากสังคม จากผู้มีอำนาจที่มีอคติ ใช้การโฆษณาชวนเชื่อก่อให้เกิดความเกลียดชัง ทั้งยังสอดแทรกเนื้อหาการเมือง และการต่อสู้ของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงสังคม

หนังค่อนข้างซีเรียสแต่เล่าออกมาในแนวที่สนุกสนาน แทรกตลกร้ายตามลายเซ็นผู้กำกับ และดูกวนๆ เช่น ตัวละครที่เป็นมนุษย์พูดภาษาญี่ปุ่น ที่ผู้กำกับตั้งใจไม่แปลในบางครั้ง (แต่คนดูก็เข้าใจ) ในขณะที่ตัวละครสุนัขพูดภาษาอังกฤษ

มุขตลกน่าเอ็นดู เช่น การแต่งตั้งชีฟให้เป็นบอร์ดี้การ์ดใหม่ของอาตาริ ล้อเลียนพิธีการแต่งงานที่มีการถามความสมัครใจของคู่บ่าวสาว

Isle of Dogs เป็นแอนิเมชันที่ไม่เหมือนหนังแอนิเมชันทั่วไป หนังมีเสน่ห์มาก ทั้งๆ ที่ตัวละครไม่สวยไม่งาม และไม่ใช่เรื่องราวพาฝัน น่าจะโดนใจคนรักสุนัขเป็นพิเศษ หนังสนุกและดีจนอยากชักชวนให้ไปรู้จักมุมมองที่น่าทึ่ง และความอาร์ตที่แสนจะเท่ของหนังแอนิเมชันจากฝีมือผู้กำกับสุดคูลแห่งยุค

เวส แอนเดอร์สัน

Billionaire Boys Club

“การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจ” คำพูดคุ้นหูคุ้นตาที่มักจะผ่านหูซ้ายทะลุหูขวาไปอย่างไม่สนใจ ยามความโลภเข้ามาเยือน ทำให้มิจฉาชีพใช้จุดอ่อนนี้หลอกล่อนักลงทุนให้หลงเชื่อ ด้วยลูกไม้เดิมๆ ใช้แชร์ลูกโซ่ ที่พลิกแพลงรูปแบบแต่ยังคงแนวการระดมทุนที่อ้างว่าเอาไปลงทุนในสินค้ามูลค่ามหาศาลที่ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนสูง

Billionaire Boys Club เป็นคลับที่หนุ่มน้อยหัวใสสองคน โจ ฮันท์ (แอนเซล เอลกอร์ต) และดีน คาร์นี (ทารอน อีเกอร์ตัน พระเอก Kingsman) ร่วมกันตั้งขึ้น ระยะแรกเป็นการระดมทุนจากเพื่อนๆ ลูกเศรษฐีที่เคยเรียนหนังสือด้วยกัน จูงใจผองเพื่อนด้วยผลตอบแทนที่เกินจริง โดยอ้างว่าไปลงทุนในธุรกิจที่กำไรดี หนังโปรยว่า “เงินพันล้าน พวกเราหาได้ในชั่วพริบตา”

ไปดูหนังเรื่องนี้เพราะติดใจเอลกอร์ต ตั้งแต่เมื่อครั้งแสดง Baby Driver หนุ่มน้อยคนนี้ฝีมือจัดจ้านขึ้นเป็นลำดับ จนทำให้เราได้เห็นเขาในบทบาทที่หลากหลายมากขึ้น

ครั้งนี้เขาเป็นหนุ่มอัจฉริยะยากจนนาม โจ ฮันท์ ที่มีโอกาสได้เรียนในโรงเรียนดีๆ ของเหล่าลูกคนรวย เพราะได้ทุนเรียนดี แม้จะเป็น nobody ในสายตาคนอื่น แต่ความเฉลียวฉลาดของเขาเข้าตา ดีน คาร์นี หนุ่มกะล่อนชอบสังคม ที่สามารถตีซี้ได้ทั้งกับเพื่อนร่วมโรงเรียนลูกเศรษฐี และนักธุรกิจหลายพันล้าน

แต่ทั้งสองพลาดท่าเมื่อ รอน เลวิน (เควิน สเปซีย์) นักลงทุนจอมเก๋าประจำเบฟเวอรี่ฮิลล์มาร่วมลงทุนด้วย “นายคิดว่าคนเรารวยได้เพราะเล่นตามกฎหรือ”

แต่ไลฟ์สไตล์สุดหรู ความเด่น ความดัง ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในชั่วพริบตา ทำให้ฮันท์และคาร์นีไม่ทันคาดคิดว่า จะมีคนโกงที่เหนือชั้นยิ่งกว่า เรื่องจึงลงเอยด้วยการทรยศหักหลังและบานปลายไปสู่การฆาตกรรม

ผู้กำกับเจมส์ ค็อกซ์ (เคยมีผลงานอย่าง Wonderland และ Straight A’s) หยิบเรื่องจริงสุดเหลือเชื่อของ โจ เฮนรี่ แกมสกี้ นักเรียนทุน Harvard School for Boys ที่หลอกหลวงผู้คนด้วยแชร์ลูกโซ่แบบพอนซี สกีม เป็นคดีที่เกิดขึ้นที่ลอสแองเจลิส เมื่อปี 1984 โด่งดังขนาดสร้างเคยเป็นภาพยนตร์โทรทัศน์ในปี 1987 มาเล่าใหม่อีกหน

นี่เป็นหนังที่เตือนสตินักลงทุน แต่ยังไม่คมและห่างไกลจากหนังอาชญากรรมทางการเงินเกี่ยวกับโบรกเกอร์หนุ่มระดับล่างที่ไต่เต้าตัวเองจนถึงจุดสูงสุดแบบ The Wolf of Wall Street

การปูเรื่องความเป็นมาของสองหนุ่มน่าสนใจ แต่ความสำเร็จชั่วข้ามคืนของฮันท์มันดูง่ายไป จากอดีตเด็กเรียนที่เพื่อนๆ ไม่ยอมรับ กลายเป็นพูดอะไรเพื่อนก็เชื่อหมด ทั้งนี้อาจเป็นเพราะปัจจัยเรื่องเงินที่เข้ามาปังตา แต่ก็ยังไม่ค่อยสมเหตุสมผล

หนังไม่ได้ลงลีกถึงวิธีการหลอกลวง แค่ฉายให้เห็นภาพของฮันท์จากหนุ่มใส่สูทราคาถูกสุด เปลี่ยนเป็นสวมสูทยี่ห้ออาร์มานีราคาแพงหูฉี่

การแสดงของเอลกอร์ตและอีเกอร์ตันได้ใจสาวน้อยสาวใหญ่ (เพราะหล่อมากกกทั้งสองคน) แต่ถ้าพูดถึงฝีมือยังห่างไกลกับดาราระดับออสการ์สองตัว เควิน สเปซีย์ (จาก The Usual Suspect และ American Beauty)

Billionaire Boys Club เป็นหนังเรื่องแรกของสเปซีย์ หลังโดนมรสุมชีวิตเรื่องข่าวการล่วงละเมิดทางเพศเด็กชาย และเป็นเรื่องที่สองที่เขาแสดงร่วมกับ แอนเซล เอลกอร์ต ถัดจาก Baby Driver

โดยสรุป Billionaire Boys Club เป็นหนังอาชญากรรมการเงิน ที่พอดูเป็นเครื่องเตือนสตินักลงทุนไม่ให้ถลำตัวกลายเป็นแมงเม่าบินเข้ากองไฟ แม้จะมีข่าวมีบทเรียนมากมาย แต่แชร์ลูกโซ่ก็ยังเกิดขึ้นตลอดเวลา เงียบไปพัก และกลับมาใหม่ พลิกแพลงรูปแบบและสินค้าที่อ้างว่านำไปการลงทุน

โดยเหยื่อยังคงเป็นนักลงทุนรายใหม่ที่หวังรวยทางลัดหรือโลภจนขาดสติ

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image