ที่มา | มติชนออนไลน์ |
---|
เมื่อวันที่ 15 พ.ค. ที่วัดเตว็ด ตำบลสำเภาล่ม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีการพบแนวอิฐซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นทางเดินลงท่าน้ำสมัยอยุธยาซึ่งอยู่ในสภาพค่อนข้างสมบูรณ์อย่างมาก โดยทำให้เห็นภาพในอดีต และบ่งชี้ระดับน้ำในคลองยุคกรุงศรีอยุธยาอีกด้วย
นางสาวภัทราวดี ดีสมโชค นักโบราณคดีชำนาญการประจำสำนักศิลปากรที่ 3 พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยกับ “มติชนออนไลน์” ว่า จากการดำเนินการทางโบราณคดีที่วัดเตว็ดซึ่งเริ่มดำเนินการตั้งแต่ พ.ศ. 2558 ได้มีการขุดค้น และขุดแต่งโบราณสถานในบริเวณวัด อาทิ เจดีย์ อุโบสถ มณฑปและวิหาร มีการแบ่งเขตสังฆาวาสและพุทธาวาส ต่อมาได้พบแนวอิฐที่ถูกเรียงในลักษณะเป็นทางเดินจากอาคารของวัดมุ่งสู่ “คลองคูจาม” ซึ่งปัจจุบันมีถนนที่ถูกสร้างขึ้นเลียบคลองในภายหลังคั่นอยู่ จึงทำการขุดแต่งที่เผยให้เห็นการเรียงของอิฐซึ่งนำด้านสันหงายขึ้นด้านบน ลักษณะเป็นลายก้างปลา คาดว่าเป็นฉนวนทางเดินลงท่าน้ำ การพบทางเดินดังกล่าว ทำให้ทราบถึงระดับน้ำในคลองคูจามในอดีต ซึ่งอยู่ต่ำลงไปกว่าในปัจจุบันอย่างมาก และขนาดของคลองก็คาดว่าเคยมีความกว้างกว่าในปัจจุบันด้วย
“การพบทางเดินลงท่าน้ำนี้ทำให้เห็นภาพในอดีต คือระดับน้ำในคลองอยู่ลึกลงไปกว่าในปัจจุบัน ซึ่งสังเกตได้จากแนวอิฐที่ปูลาดจากอาคารของวัดลงไปสู่ท่าน้ำ โดยมีการพบชิ้นส่วนท่อนไม้ตรงขอบด้านข้างด้วย สำหรับอิฐที่พบ คงเป็นอิฐพื้นบ้านที่ทำในท้องถิ่น เพราะแถวนั้นมีเตาเผาอิฐที่คลองสระบัว จริงๆแล้ว วัดใหญ่ๆแห่งอื่นก็น่าจะมีทางเดินแบบนี้ แต่ยังขุดไม่พบหรือถูกไถทิ้งไปหมดแล้ว บริเวณวัด ยังพบบ่อผสมปูนสำหรับฉาบและก่อสร้างด้วย”
นางสาวภัทราวดี ยังกล่าวถึงความสำคัญของวัดเตว็ด ซึ่งปัจจุบันเป็นวัดร้าง ว่าเป็นวัดที่สร้างขึ้นในช่วงรอยต่อระหว่างสมัยอยุธยาตอนกลางกับตอนปลาย สันนิษฐานว่าคงสร้างในรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราชเป็นต้นมา เนื่องจากรูปแบบศิลปกรรมในวัดได้รับอิทธิพลตะวันตกแล้ว เช่น ศีรษะประติมากรรมปูนปั้น อีกทั้งมีอาคารแบบยกใต้ถุนสูง โดยปรากฏชื่อในพงศาวดาร รวมถึงแผนที่ของพระยาโบราณราชธานินทร์ ก็ระบุตำแหน่งวัดแห่งนี้ไว้
ทั้งนี้ วัดเตว็ดได้รับการขุดค้น ขุดแต่งและบูรณะเสร็จแล้วบางส่วน โดยมีการเสริมความแข็งแรงให้โบราณสถาน สำหรับโบราณวัตถุที่พบจากการขุดค้นครั้งล่าสุด เก็บรักษาอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา