ที่มา | มติชนออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ที่มติชนอคาเดมี มีการจัดเสวนาหัวข้อ หลวงวิจิตรวาทการ กับงานโฆษณา “เพื่อชาติ” โดยสโมสรศิลปวัฒนธรรม วิทยากร คือ ผศ.ดร.ธำรงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต์ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ดำเนินรายการโดย นายอัครพงษ์ ค่ำคูณ อาจารย์วิทยาลัยนานาชาติปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ผศ.ดร.ธำรงศักดิ์ กล่าวว่า หลวงวิจิตรวาทการมองตัวเองว่าเป็นคนจน ซึ่งในยุคสมัยนั้น ในสังคมคนจนหากคนจนต้องการเรียนหนังสือจะต้องบวช จึงจะได้เรียนและมีอาหารกิน เนื่องจากในสมัยก่อนนั้นจะมีการตีพิมพ์พงศาวดารแจกตามงานศพ ดังนั้นวัดจึงมีหนังสือประเภทนี้อยู่มาก ทำให้หลวงวิจิตรวาทการสามารถศึกษาพงศาวดารได้จากที่นี่ ซึ่งในปัจจุบันก็ยังสามารถพบเห็นได้ตามชนบท แสดงถึงความไม่พัฒนาจากอดีต
ในระหว่างที่บวชเณรอยู่ที่วัดมหาธาตุ หลวงวิจิตรวาทการอยากจะไปต่างประเทศ แต่ทว่าในระหว่างบวชเณรนั้นมีกฎห้ามเรียนภาษาต่างประเทศ เรียนได้เฉพาะภาษาบาลีเท่านั้น ท่านจึงแอบเรียนภาษาอังกฤษและฝรั่งเศสในระหว่างบวช หลังจากสึกจึงสอบเข้าเป็นเสมียนที่กระทรวงการต่างประเทศทันที นับว่าเป็นการวางจังหวะก้าวไว้อย่างดี หลวงวิจิตรวาทการมีความคิดว่า “มนุษย์จะเกิดเป็นอะไรก็ได้ แต่มนุษย์กำหนดก้าวตัวเองได้” ดังนั้น คำว่า “ใฝ่สูง” ในความหมายของหลวงวิจิตรวาทการคือ ฝันให้ไกล ไปให้ถึง
“หลังจากกลับมาจากต่างประเทศในปี พ.ศ. 2470 เหตุใดหลวงวิจิตรวาทการไม่ได้เป็นหนึ่งในคณะราษฎรนั้นมีเงื่อนงำ ซึ่งในตอนนั้นยังไม่มีชื่อเสียง หลวงวิจิตรวาทการใช้วิธีส่งสาส์นผ่านสื่อ สร้างตัวตนผ่านงานเขียนหนังสือ เพราะหลวงวิจิตรมีความคิดว่า เป็นการทิ้งผลงานให้คนได้รับรู้ หนังสือไม่มีวันตาย ซึ่งหลวงวิจิตรวาทการใช้เวลาเพียง 2 ปีในการตีพิมพ์หนังสือถึง 7 เล่ม ซึ่งหนังสือทั้ง 7 เล่มนี้ ล้วนการนำองค์ความรู้ตะวันตกที่ท่านได้พบมาระหว่างอยู่ที่ฝรั่งเศสมาเผยแพร่ให้แก่คนไทย ได้แก่ วิชาแปดประการ มันสมอง มหาบุรุษ ความฝัน พุทธานุภาพ จิตตานุภาพ และลัทธิโยคี โดยผลงานที่ทำให้หลวงวิจิตรวาทการถูกยอมรับจากสังคมมากที่สุด คือ หนังสือชุดประวัติศาสตร์สากล ซึ่งท่านนำมาจากหนังสือWorld History ที่พบที่ฝรั่งเศส” ผศ.ดร.ธำรงศักดิ์กล่าว
ผศ.ดร.ธำรงศักดิ์ ยังกล่าวอีกว่า ในบทละครเลือดสุพรรณ หนึ่งในงานประพันธ์ชิ้นเอกของหลวงวิจิตรวาทการ ตัวเอกของเรื่อง “ดวงจันทร์” ผู้หญิงที่เป็นคนไทยที่ถูกจับตัวเป็นเชลยในสงครามระหว่างพม่าและไทย ฉากที่ถือว่าเป็นการเปิดฉากผู้หญิงในสังคมไทยคือฉากที่ดวงจันทร์ นางเอกของเรื่อง เป็นผู้นำลุกขึ้นสู้กับพม่า จากการที่ตัวเองสูญเสียคนที่เป็นที่รักไป ซึ่งฉากนี้ถือเป็นการปลูกฝังความเป็นชาตินิยมผ่านผู้หญิง เนื่องจากคนที่ดูละคร คนที่อ่านนิยายส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง และผู้หญิงจะนำความคิดเหล่านี้ไปเผยแพร่ให้ผู้ชายและลูก บทละครเลือดสุพรรณถือว่าไม่เพียงจะเป็นการสอดแทรกกระบวนการสร้างชาตินิยม ยังเป็นการแทรกลัทธิทหารนิยมลงไปอีกด้วย เพื่อปลุกใจให้คนไปเกณฑ์ทหาร และในช่วงนี้เองที่มีโรงเรียนฝึกหัดครูสตรีเกิดขึ้น คือ โรงเรียนฝึกหัดครูสวนดุสิต และสวนสุนันทา ซึ่งผู้บริหารในตอนนั้นล้วนแต่เป็นผู้หญิง ถือเป็นการสร้างฐานให้กับหลวงวิจิตรวาทการเป็นอธิบดีกรมศิลป์ กระทรวงศึกษาธิการ โรงเรียนฝึกหัดครูสตรี จึงกลายเป็นเครื่องมือในการแพร่กระจายชุดความรักชาติ