บทเรียน ความคิด จาก น้ำพริกเผา แม่ประนอม ถึงกรณี เชอรี่ สามโคก

บทเรียน ความคิด จาก น้ำพริกเผา แม่ประนอม ถึงกรณี เชอรี่ สามโคก

บทเรียน ความคิด จาก น้ำพริกเผา แม่ประนอม ถึงกรณี เชอรี่ สามโคก

ไม่ว่ากรณีอันเกี่ยวกับการแย่งชิงมรดกในกิจการแห่ง “น้ำพริกเผา” ไม่ว่ากรณีอันเกี่ยวกับการปรากฏตัวในงานโชว์ 1 ของ เชอรี่ สามโคก

ล้วนมิได้ดำเนินไปด้วยความราบรื่น

ตรงกันข้าม กลับสะท้อนให้เห็นภาวะขัด ภาวะแย้ง ภาวะเห็น “ต่าง” กระทั่งนำไปสู่การปะทะและกลายเป็นกรณีพิพาทในที่สุด

คล้ายกับความขัดแย้ง ความแตกแยกจะมีอยู่แต่ในแวดวง “การเมือง”

Advertisement

กระนั้น เมื่อพิจารณาลงไปในกรณีพิพาทเรื่องน้ำพริกเผายี่ห้อ “แม่ประนอม” เมื่อพิจารณาลงไปในกรณีการแสดงโชว์วาบหวิวของ เชอรี่ สามโคก ก็จะสัมผัสได้ในความขัดแย้งจนต้องมีการฟ้องร้อง จนต้องมีการไปเปรียบเทียบปรับ

เชอรี่ สามโคก ต้องเสียเงิน แม่ประนอม แดงสุภา ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งน้ำพริกเผายี่ห้อดังก็ต้องขึ้นโรงขึ้นศาลกับลูกสาวของตนเอง

ความเป็นจริงของ เชอรี่ สามโคก น่าเจ็บปวด ความเป็นจริงของ แม่ประนอม แดงสุภา น่าขมขื่น

Advertisement

แต่ก็ต้องยอมรับว่า นี่คือความเป็นจริงที่ เชอรี่ สามโคก ต้องประสบ นี่คือความเป็นจริงที่ แม่ประนอม แดงสุภา ยากจะหลีกเลี่ยงได้พ้น

ท่ามกลางการเติบใหญ่ ขยายตัวของ “สังคม”

เรื่องของ ปัจเจก

สะท้อน “สังคม”

กรณีของ แม่ประนอม แดงสุภา เป็นเรื่องส่วนตัวอย่างแน่นอน ไม่เพียงแต่เป็นเรื่องส่วนตัวภายในธุรกิจครอบครัวอันแม่ประนอมริเริ่มและก่อร่างสร้างมากับมือ

แต่เมื่อมี “เงิน” มี “ผลประโยชน์” เข้ามาสัมพันธ์ ก็เริ่มจะไม่ใช่อีกแล้ว

ขณะเดียวกัน น้ำพริกเผา “แม่ประนอม” อาจเป็นเรื่องภายในครอบครัวเมื่อเป็นธุรกิจเล็กๆ แต่เมื่อเสนอสินค้าเข้าไปแข่งขันในตลาด ก็มิได้ดำรงอยู่เหมือนกับแต่แรกตั้งแล้ว หากได้กลายเป็นธุรกิจในทางสังคม

วงจร “ตลาด” นั้นเองได้สลายความเป็นส่วนตัวออกไป

ยิ่งตลาดขยายตัว ก็จำเป็นต้องเพิ่มผลผลิต ก็จำเป็นต้องขยายทุนและก่อให้เกิดความสัมพันธ์ทางการผลิตที่ซับซ้อนมากยิ่งขึ้น

เบื้องต้น แม่ประนอมอาจกระจายทุนไปในหมู่ลูกหลานซึ่งเป็นทายาท แต่ยิ่งทำไป ทำไป เมื่อทุนขยาย มีความจำเป็นต้องนำเอาเทคโนโลยีซึ่งเป็นส่วนของพลังการผลิตอย่างใหม่เข้ามา ทุนจากภาคส่วนอื่นก็เข้ามามีบทบาท

ในที่สุด น้ำพริกเผา “แม่ประนอม” ก็มิได้เป็นทรัพย์สินแต่เพียงในขอบเขตของ แม่ประนอม แดงสุภา อีกต่อไปแล้ว

1 มีลูกสาวเข้ามาเกี่ยวข้อง 1 มีทุนอื่นเข้ามามีส่วนร่วม

ตรงจุดนี้เองที่ทำให้มีความจำเป็นต้องจัดแบ่ง “ผลประโยชน์” ภายในให้เหมาะสม เป็นธรรม และหากบริหารจัดการไม่เหมาะสม ไม่ถูกใจ ก็กลายเป็นความขัดแย้ง แล้วความขัดแย้งก็บานปลายกลายเป็นความแตกแยกและแยกตัว

เมื่อมิอาจตกลงกันได้ก็จำเป็นต้องนำเรื่องเข้าสู่ “ศาลสถิตยุติธรรม”

เชอรี่ สามโคก

ปัจเจกที่มิใช่ส่วนตัว

พลันที่ เชอรี่ สามโคก ตกลงรับจ้างจากสปอนเซอร์ซึ่งเป็นผู้เปิดตัวสินค้า งานของ เชอรี่ สามโคก เหมือนกับเป็นส่วนตัว แต่เอาเข้าจริงๆ ก็มิได้เป็นส่วนตัว

โชว์ของ เชอรี่ สามโคก มีคนดู

เรียกตามภาษาการตลาดก็คือ การแสดงวาบหวิวให้หวั่นไหวของ เชอรี่ สามโคก มีผู้บริโภค และภายในกระบวนการแสดงก็มีเส้นแบ่ง

1 เส้นแบ่งทางอารมณ์ 1 เส้นแบ่งทางกฎหมาย

เมื่อนาฏลักษณ์เริงรำของ เชอรี่ สามโคก ก่อความรู้สึกซี้ดซ้าด ก็ย่อมมีทั้งคนที่ชมชอบ เห็นด้วย ชื่นชม และคนที่ไม่ชมชอบ ไม่เห็นด้วย และไม่ชื่นชม

ตรงนี้เองที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามามีบทบาท

กรณี เชอรี่ สามโคก อาจสามารถจบลงได้อย่างรวดเร็ว ปัจจัยสำคัญก็คือ เชอรี่ สามโคก ยินดีเสียค่าปรับตามที่บทบัญญัติของกฎหมายกำหนด

และจากกรณี เชอรี่ สามโคก ก็พลอยลามไปยัง “พริตตี้”

กระบวนการในทางศีลธรรมได้เรียกร้องและเร่งเร้าให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้มงวด กวดขัน ไม่ยอมให้การแสดงออกเนื้อตัวของหญิงสาว เปิดเผยจนเกินไป ด้วยหวั่นเกรงว่าอาจจะทำให้เด็กและเยาวชนต้องถูกรบกวน

ตรงนี้สะท้อนให้เห็นว่า ในที่สุด สังคมก็จะมามีบทบาท มีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางของการแสดงว่าเหมาะสม ถูกต้อง หรือไม่ อย่างไร

เส้นทางของ เชอรี่ สามโคก จึงมิอาจดำรงอยู่อย่างราบรื่นเหมือนเดิม

จาก “น้ำพริกเผา”

ถึง เชอรี่ สามโคก

ไม่ว่ากรณีน้ำพริกเผา “แม่ประนอม” ไม่ว่ากรณี เชอรี่ สามโคก ล้วนสะท้อนถึงพัฒนาการอันไม่หยุดนิ่งในทางสังคม

เป็นการยืนยันถึงสัจจะแห่ง “อนิจจัง”

เป็นการยืนยันผลแห่งการปะทะสังสรรค์ระหว่างสิ่งใหม่กับสิ่งเก่า ระหว่างความคิดใหม่กับความคิดเก่า

มีเรื่องของ “สังคม” เข้ามาเกี่ยวข้อง มีเรื่องของ “เศรษฐกิจ” เข้ามามีบทบาท

ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์และยึดโยงระหว่างปัจจัยทางเศรษฐกิจ ปัจจัยทางสังคมว่าดำเนินไปอย่างยากที่จะแยกออกจากกันได้

ในตอนต้นอาจดำเนินไปอย่างราบรื่น กลมกลืน เป็นเอกภาพ

แต่ในท่ามกลางวิถีดำเนินและความเป็นไป เมื่อมีปัจจัยใหม่ๆ ปัจจัยอื่นๆ เข้ามาเกาะเกี่ยวและมีส่วนร่วม ร่องรอยแห่งความขัดแย้ง ความแตกแยกก็สำแดงตัวออกมา

ใครก็ตามมองกรณีน้ำพริกเผา “แม่ประนอม” เฉพาะด้านที่ราบรื่น เท่ากับ “เพ้อฝัน”

ใครก็ตามมองกระบวนการแสดงตัวตนของ เชอรี่ สามโคก เสมอเป็นเรื่องส่วนตัวและเห็นแต่ด้านอันราบรื่นเท่ากับ “เพ้อฝัน”

แม้กระทั่งตัว แม่ประนอม แดงสุภา เอง แม้กระทั่งตัว เชอรี่ สามโคก เอง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image