Call My Agent! วงการบันเทิงฝรั่งเศส สวยหรูดูแพง และโป๊ะแตก! คอลัมน์ เล่าเรื่องหนัง

Lilane ROVERE, sTEFI CELMA, Grégory MONTEL, Camille COTTIN, Laure CALAMY, Thibault DE MONTALEMBERT, Fanny SIDNEY, ASSAAD BOUAB

ทันทีที่ดูซีรีส์จากฝรั่งเศส “Call My Agent!” หรือในชื่อฝรั่งเศส “Dix Pour Cent” จบลง ก็เหมือนกับเพิ่งฉีกครัวซองต์ชิ้นเล็กๆ ปาดเนยทาใส่บางๆ กินในมื้อเช้า มันช่างฝรั่งเศสแฝงอารมณ์ขันตลกร้ายสิ้นดี!


Call My Agent! เป็นเรื่องราวของบริษัทตัวแทนดาราเซเลบริตี้วงการบันเทิงในปารีส ศูนย์กลางของเรื่อง คือเหล่าบรรดา “ผู้ถือหุ้น” ของบริษัท ซึ่งแต่ละคนมีหน้าที่เป็น “ผู้จัดการดารา” ติดต่อประสานคิวงาน การเลือกรับบท และดูแลภาพลักษณ์ โดยแต่ละคนมีดาราในมือที่ต้องดูแลหลายสิบคน

ทีเด็ดของซีรีส์คือการนำเสนอเรื่องราววงการภาพยนตร์ฝรั่งเศส ที่มองจากภายนอกเราสัมผัสได้ถึงความ “อาร์ตตัวแม่” ของผลงานไปยันผู้กำกับ และนักแสดง แต่กว่าจะเห็นเป็นผลงาน หรือเฉิดฉายอยู่บนพรมแดงเมืองคานส์ได้นั้น มันมีความ “อลเวงโป๊ะแตก” ของเหล่าผู้คนในอุตสาหกรรมภาพยนตร์

ที่สำคัญบทละครของซีรีส์เรื่องนี้เล่นได้ “ฉลาด” เพราะแต่ละตอนเป็นการเชิญ “นักแสดงฝรั่งเศส” ตัวจริงเสียงจริงมาเล่นเป็น “ตัวเอง”

Advertisement

นึกภาพว่าเหล่าตัวพ่อตัวแม่ในตำนานของวงการบันเทิงฝรั่งเศส และหลายคนมีผลงานระดับสากลในฝั่งฮอลลีวู้ด ผลัดกันมามีบทเด่น “เล่นเป็นตัวเอง” ในแต่ละตอน โดยผูกโยงเรื่องราวเข้ากับบรรดาผู้จัดการดาราก็สนุกไม่เบา อาทิ Juliette Binoche, Isabelle Adjani, Cecile de France, Fran?oise Fabian, Laura Smet, Joey Starr, Audrey Fleurot, Nathalie Baye และ Julie Gayet เป็นต้น

อย่างไรก็ดี แม้จะเป็นซีรีส์อิมพอร์ตฝรั่งเศส แต่เสียงวิจารณ์จากนักวิจารณ์สายอเมริกันมาทั้งบวกและบราโว่

Advertisement

ตัวซีรีส์มีความเข้มข้น ตลกร้าย ดราม่า แต่ไม่น้ำเน่า

หลายต่อหลายตอนนำเสนออย่าง “ร่วมสมัย” ในประเด็นวงการบันเทิงร่วมกับฮอลลีวู้ด อาทิ ความเท่าเทียมเรื่องรายได้ของนักแสดงหญิงกับนักแสดงชาย, การที่นักแสดงหญิงต้องทำศัลยกรรมเพื่อความอยู่รอดในวงการ ไปจนถึงประเด็นร้อนอย่าง #Me Too ในเรื่องการคุกคามทางเพศในอุตสาหกรรมบันเทิง

Call My Agent! เป็นซีรีส์เกี่ยวกับ “ชีวิตการทำงาน” ที่ต้องขับเคี่ยวแข่งขัน ตัวละครหลัก คือเหล่า “ผู้จัดการดารา” กำลังเผชิญวิกฤตความอ่อนไหวของบริษัท หลังจากผู้ก่อตั้งซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ และเป็นผู้จัดการดาราระดับเกรดเอของฝรั่งเศสเกิดเสียชีวิต ทำให้ภาระในการประคับประคองเอเยนซี่ตกเป็นของสมาชิกผู้ร่วมงานที่เหลือ ซึ่งต่างก็ใส่หมวกเป็นผู้จัดการดาราไปด้วย

เรื่องราวของแต่ละคนมีชั้นเชิงในการหลอกล่อ ช่วงชิง แม้จะทำงานอยู่บริษัทเอเยนซี่เดียวกัน แต่ต้องมีจังหวะหักหลัง และกลับมาช่วยกันในบางเวลา พอๆ กับการถีบตัวเพื่อเป็นผู้ทรงอิทธิพลในวงการ ขนานไปกับเรื่องราวชีวิตส่วนตัวของแต่ละคนที่สนุกไม่แพ้กัน

ซีรีส์เรื่องนี้ฉายภาพเบื้องหลังในภาพความหรูหรา ผสานกับความเป็นมืออาชีพของวงการบันเทิงฝรั่งเศส ซึ่งมีเรื่องอ่อนอกอ่อนใจที่สะท้อนออกมาได้อย่างตลกร้าย

เราได้เห็นความหวั่นไหวของผู้คนในวงการ เห็นการทำงานในวิถีศิลปิน เห็นการทำงานของผู้จัดการดารามืออาชีพที่เป็นมากกว่าคนที่รอรับส่วนแบ่ง 10% จากค่าตัวของนักแสดง

ตัวซีรีส์แต่ละตอนยังใส่มุมมองที่ยกย่องอุตสาหกรรมหนังฝรั่งเศสในแง่งามของการสร้างสรรค์ และจบซีซั่นด้วยภาพฉากหน้าของพรมแดงเทศกาลภาพยนตร์ระดับโลกอย่างเมืองคานส์ ที่มีเรื่อง “ซุกใต้พรม” ไปด้วยกัน

ซีรีส์ออกฉายแล้วสองซีซั่น ถูกพูดถึงในวงกว้าง เมื่อ “เน็ตฟลิกซ์” ซื้อลิขสิทธิ์จากช่อง France 2 มาฉาย ขณะที่ซีซั่น 3 อยู่ระหว่างถ่ายทำ และยังเล่นกับ “จุดขาย” เดิม ได้นักแสดงฝรั่งเศสระดับเข็ดเขี้ยวมาแสดงเป็นตัวเองในแต่ละตอน อาทิ Isabelle Huppert, Monica Bellucci และ Jean Dujardin เป็นต้น

“ก่อนจะมาถึงของซีซั่น 3-ตลอดทั้ง 18 ตอน ในสองซีซั่นที่ผ่านมาราวกับมื้ออาหารที่ปรุงได้อรรถรสระดับ Fine Dining ทั้งเรียกน้ำย่อย ยั่วเย้าให้อร่อยกับจานหลัก และใจจดจ่อที่จะสัมผัสของหวานปิดท้ายมื้ออาหารอย่างสมบูรณ์”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image