สื่อคาทอลิกไขปม ‘ซิสเตอร์’ ไปทำอะไรใน ‘ซีรีส์เกาหลี’ เทียบตัวละคร-ชีวิตจริงนอกจอ

สื่อคาทอลิกไขปม ‘ซิสเตอร์’ ไปทำอะไรใน ‘ซีรีส์เกาหลี’ เทียบตัวละคร-ชีวิตจริงนอกจอ

กระแสแรงไม่มีตกมานานหลายปีสำหรับคอซีรีส์ซึ่งผลผลิตจาก ‘เกาหลี’ นับว่าฮอตต่อเนื่อง โดยมีหนึ่งในข้อสังเกตที่น่าสนใจคือ ในซีรีส์เกาหลีหลาย ๆเรื่อง มักมี ‘ซิสเตอร์’ เป็นตัวละครให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง

ประเด็นนี้ ‘สื่อมวลชนคาทอลิกประเทศไทย’ โดย คุณพ่ออนุชา ไชยเดช ได้วิเคราะห์ไว้ลึกซึ้งใน ‘ฟังหนังดูสาระ ภาค พอดแคสต์ ซีซั่น 1 | EP.34 ซิสเตอร์ไปทำอะไรในซีรีส์เกาหลี’ ผ่านทางยูทูปช่อง Thai CatholicMedia -CSCT-

คุณพ่ออนุชา ย้อนเล่าถึงหนังสือที่ว่าด้วยพัฒนาการของภาพยนตร์เกาหลีจนเกิดเป็นกิจกรรมในแบบเทศกาลภาพยนตร์ที่ปูซาน และให้ข้อสังเกตวว่าเมื่อเดินทางไปที่ประเทศเกาหลี หากอยู่บนที่สูง บนสะพานหรือบนคอนโดมีเนียม จะพบไม้กางเขนบนหลังคา หรือยอดตึกมากมาย ข้อมูลในปี พ.ศ. 2558 ระบุว่าศาสนาในเกาหลีแบ่งเป็น ไม่มีศาสนา 56 กว่าเปอร์เซ็นต์ โปรเตสแตนต์ 19.72 เปอร์เซ็นต์ พุทธ 15.53 เปอร์เซ็นต์ เป็นโรมันคาทอลิก 7.9 เปอร์เซ็นต์ และศาสนาอื่นๆ 1.3 เปอร์เซ็นต์ สรุปคือ คนเกาหลีส่วนใหญ่ไม่นับถือศาสนาใดๆ แต่หากรวมตัวเลขโปรเตสแตนต์กับโรมันคาทอลิกจะมีถึง 24 เปอร์เซ็นต์ มีมิชชันนารี ข้อสังเกตคือ ครั้งหนึ่งองค์สมเด็จพระสันตะปาปาเคยเสด็จไปเยี่ยมเยียนประเทศเกาหลีด้วย

“ซิสเตอร์ปรากฏในซีรีส์เกาหลีพอให้น่าสังเกตอยู่บ้าง ซีรีย์เกาหลีมีหลาย ๆ แนว เช่น ซีรีย์แนวคุณธรรมอย่าง Move to heaven เป็นเรื่องของความรัก ความสัมพันธ์ในครอบครัวหนึ่งซึ่งมีหน้าที่ในการที่จะเก็บรักษาสมบัติของบรรดาผู้ที่จากไปและไปมอบให้กับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือซีรีย์ที่มีตัวละครในคริสตศาสนาโต้งๆ ก็มีอย่างเรื่อง The Fiery priest แต่สิ่งที่อยากจะเล่าในวันนี้คือซีรีส์เรื่อง Mine แปลเป็นไทยว่า ธาตุแท้ พูดถึงครอบครัวใหญ่ เป็นเศรษฐีระดับเลิศหรูอลังการ มีลูกชายคนโต ลูกสาวคนรอง และลูกชายคนเล็ก ซึ่งสองคนแรกมีแนวโน้มว่าเป็นลูกของแม่คนปัจจุบัน ส่วนลูกชายคนเล็กน่าจะเป็นแม่คนเก่า แล้วก็มีบรรดาภรรยาเป็นสะใภ้ใหญ่ สะใภ้รอง แต่ตัวละครสำคัญคือซิสเตอร์ท่านหนึ่งชื่อว่า แม่ชีเอ็มม่า มีบทบาทเริ่มจากการตายของคน ๆ หนึ่งที่ตกลงมาและมีคนเห็นเหตุการณ์นั้น ซึ่งซีรีส์ก็แกงเราไปเรื่อยๆ ทำให้เราคิดว่าใครเป็นคนตาย” คุณพ่ออนุชาเกริ่นไว้ในพอดแคสต์

Advertisement

 

จากนั้น เล่าต่อไปว่า ภูมิหลังของเรื่องนี้เล่าโดยซิสเตอร์เอ็มม่าซึ่งมีบทบาทสำคัญในการแบ่งปันพระวาจาให้กับบรรดาผู้หญิงไฮโซทั้งหลาย และคอยเป็นที่พึ่งพิเศษให้กับสะใภ้คนเล็ก รวมทั้งอาจจะเกี่ยวโยงไปกับคนใช้คนหนึ่งที่เข้าไปทำงานในบ้านหลังนี้

Advertisement

“ดูเหมือนว่าแม่ชีเอ็มม่ามีเงื่อนงำ มีคำคมที่รู้สึกประทับใจอยู่สองสามครั้ง ครั้งที่หนึ่งซิสเตอร์พูดว่า พวกเขาสูดอากาศต่างจากที่เราสูด และดื่มน้ำต่างจากที่เราดื่ม ความเข้มข้นของออกซิเจนที่พวกเขาสูดสูงกว่าปกติ 15 เท่า และดื่มน้ำบริสุทธิ์ที่ละลายจากธารน้ำแข็งแอนตาร์กติก เหมือนกับความเข้มข้นของออกซิเจน ความเข้มข้นของชีวิตที่พวกเขาต้องรักษาไว้ก็สูงเช่นกัน ไม่มีสิ่งใดที่ได้มาโดยไม่มีการเสียไป ผมประทับใจอีกคำหนึ่งในช่วงท้ายๆ แม่ชีเอ็มม่าพูดว่า ให้เราตามหาสิ่งที่เป็นของของเรา ซีรีส์พยายามนำเสนอเรื่องความร่ำรวยที่ไม่ได้ทำให้ชีวิตมีความสุข ความต้องมีหน้ามีตาทางสังคม ความที่ต้องเห็นแก่คนอื่นรักษาภาพลักษณ์ ความที่ต้องรักษาอะไรไว้มากมาย แต่ที่สุดกลับรักษาสิ่งที่เป็นตัวของตัวเองไว้ไม่ได้ รักษาสิ่งที่จำเป็นสูงสุดไว้ไม่ได้ และความสำคัญของซิสเตอร์ก็คือเข้าไปผูกโยงใยกับเรื่องราวของครอบครัวด้วย”

สำหรับซิสเตอร์ในชีวิตจริงนอกซีรีส์ คุณพ่ออนุชาอธิบายว่าหน้าที่หลักนั้น บางคนทำหน้าที่ทางด้านการศึกษาในโรงเรียน ซิสเตอร์บางคนก็ช่วยงานสังคม บางคนคอยดูแลความเป็นอยู่บ้านพักของคุณพ่อ คอยดูแลเรื่องพิธีกรรม ซิสเตอร์บางคนเป็นชีลับ ซิสเตอร์บางคนมีลักษณะเป็นกึ่งๆฆราวาสคืออาจไม่ได้สวมชุดยูนิฟอร์ม ซิสเตอร์บางคนเราเรียกมาเซอร์ ซิสเตอร์เหล่านี้มีจุดร่วมกันก็คือ พวกเขาคือผู้หญิงที่พร้อมที่จะเสียสละตนเองทำงานตามพระกระแสเรียกของ

“ดูเหมือนว่าซิสเตอร์เหล่านี้ค้นพบธาตุแท้ของความเป็นมนุษย์ คือการที่พระเป็นเจ้าสร้างเขามาเพื่อที่เขาจะได้รักและรับใช้ต่อไป เพราะฉะนั้นเรื่องราวของแม่ชีที่อยู่ในซีรีส์กับแม่ชีในชีวิตจริงก็มีความใกล้เคียงกัน เพราะว่าตอนปลายของเรื่องเราจะพบถึงแรงจูงใจของการเป็นแม่ชีเอ็มม่า ที่สุดแล้วเมื่อยังไม่สามารถค้นพบก็เปลี่ยน เราทุกคนก็ต้องเสาะแสวงหาสิ่งที่เป็นธาตุแท้ของชีวิตของเราแต่ละคนและธาตุแท้ที่ทุกคนต้องเจอในพระคัมภีร์ก็มีพูดไว้ว่า ‘พระเจ้าทรงเห็นว่าสิ่งสร้างนั้นดีมาก มีเวลากลางคืนและมีเวลากลางวัน’ จากหนังสือปฐมกาลบทที่ 1 ข้อที่ 30 แปลว่า ธาตุแท้ของมนุษย์นั้นเป็นสิ่งดีเพราะว่าพระเป็นเจ้านั้นสร้างสิ่งที่ดีๆทั้งสิ้น เรามีสิ่งที่ดีในตัว มีพระฉายาลักษณ์ของพระเจ้า เพราะฉะนั้นเราจึงหยิบยื่นสิ่งดีๆให้แก่กัน” คุณพ่ออนุชากล่าวทิ้งท้าย

ติดตามข่าวสารและสาระดีๆของรายการพอดแคสต์ต่าง ๆ ของสื่อมวลชนคาทอลิกประเทศไทยได้ทาง
https://www.csct.or.th/radio/ รับฟังผ่าน Podbean : http://bit.ly/3amRvt1 รับฟังผ่าน Spotify : http://spoti.fi/3oDewwQ
Apple Podcasts : http://apple.co/2NSWl9P

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image