‘หลานม่า’ ถูกเลือก! 1 ใน 10 ลิสต์หนัง เทศกาลภาพยนตร์จีน ‘พินิจ’ ชี้มิตรภาพไทย-จีน ดั่งครอบครัวเดียวกัน
เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ที่โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำราชอาณาจักรไทย ทบวงกิจการภาพยนตร์แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนและกระทรวงวัฒนธรรม ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพร่วมกันจัดพิธีเปิด “เทศกาลภาพยนตร์จีน ณ กรุงเทพ ครั้งที่ 18”
ดำเนินงานโดย ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน ณ กรุงเทพฯ หอภาพยนตร์แห่งประเทศจีนและหอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) ร่วมจัดโดย โรงละครแห่งชาติจีน สำนักงานคณะกรรมการเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติปักกิ่ง มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ บริษัท GDH559 โรงภาพยนตร์เอสเอฟ ซีเนม่า และสถานีโทรทัศน์ MONO Next
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศภายในงานมี นายอู๋ จื้ออู่ อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำราชอาณาจักรไทย, นางยุถิกา อิศรางกูร ณ อยุธยา รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ประเทศไทย, นายพินิจ จารุสมบัติ ประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีนและส่งเสริมความสัมพันธ์, นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ประธานกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ, นางฉาง ยู่เหมิง อัครราชทูตที่ปรึกษาสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำราชอาณาจักรไทย ร่วมพิธีเปิดเทศกาลภาพยนตร์จีนในครั้งนี้
ร่วมด้วย จ้าว ซิน รองผู้อำนวยการศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน ณ กรุงเทพฯ หลี่ เสี่ยวหมิง รองเลขาธิการคณะกรรมการเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติปักกิ่ง, น.ส.ชลิดา เอื้อบำรุงจิต ผู้อำนวยการหอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน), รศ.ดร. ลัดดาวัลย์ ผิวทองงาม รองอธิการบดีฝ่ายบริหารและทรัพยากรบุคคล มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, ผศ.ว่าที่ร้อยตรี ดร. กิตติคุณ รุ่งเรือง รองอธิการบดีฝ่ายองครักษ์และพัฒนากายภาพ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, น.ส.สุวรรณี ชินเชี่ยวชาญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการปฏิบัติการ บริษัท เอส เอฟ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) , นางอุษา เสมคำ นักแสดงนำในภาพยนตร์เรื่อง “หลานม่า” รับบทเป็นอาม่าเหม้งจู พร้อมแขกผู้มีเกียรติชาวจีนและชาวไทย ผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการจากอุตสาหกรรมภาพยนตร์จีนและไทย หอการค้าและวิสาหกิจ อาจารย์และนักศึกษาจากมหาวิทยาลัย สื่อจีนและไทย รวมถึงผู้ชมทั่วไปกว่า 600 ท่าน เข้าร่วม
นายอู๋ จื้ออู่ กล่าวว่าเทศกาลภาพยนตร์จีน ณ กรุงเทพฯ เป็นงานแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่ได้รับการสนับสนุนจากจีนและไทย โดยได้สร้างสะพานเชื่อมด้านภาพยนตร์ที่ส่งเสริมการเชื่อมโยงระหว่างผู้คนและกลายเป็นกิจกรรมแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่ได้รับความนิยมในหมู่ชาวไทย
“เทศกาลภาพยนตร์ในปีนี้ได้คัดเลือกภาพยนตร์จีนและไทยที่โดดเด่นจำนวน 10 เรื่อง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณทางวัฒนธรรมดั้งเดิมอันยอดเยี่ยมของจีน และมิตรภาพที่สวยงามระหว่างจีนและไทย ที่มีสายเลือดและวัฒนธรรมเดียวกัน
ปีหน้าเป็นวาระครบรอบ 50 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนและไทย ความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างทั้งสองประเทศอยู่บนจุดเริ่มต้นทางประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ ภาพยนตร์จีน-ไทยและการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือทางวัฒนธรรมจะนำมาซึ่งโอกาสและบรรยากาศใหม่ๆ ซึ่งส่องสว่างให้การแลกเปลี่ยนและความร่วมมือระหว่างประชาชนจีน-ไทยและวัฒนธรรมมีความลึกซึ้งและเป็นรูปธรรมมากขึ้น และจะเป็นการเขียนบทใหม่ของการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือระหว่างประชาชนจีน-ไทยและวัฒนธรรมในยุคใหม่” นายอู๋กล่าว
ด้าน นางยุถิกา รองปลัดกระทรวงวัฒนธรร กล่าวว่าในฐานะที่ภาพยนตร์เป็นศิลปะรูปแบบหนึ่ง จึงทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างไทยและจีน “เทศกาลภาพยนตร์จีน ณ กรุงเทพ ครั้งที่ 18” จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนและไทย โดยหวังว่าจะส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม การเรียนรู้ร่วมกันและความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนในเชิงลึกระหว่างทั้งสองประเทศในด้านการผลิตภาพยนตร์ การแบ่งปันข้อมูลและการฝึกอบรมผู้มีความสามารถ พร้อมทั้งยังเป็นการส่งเสริมความร่วมมือเชิงปฏิบัติระหว่างทั้งสองประเทศในด้านภาพยนตร์ในอนาคตมากยิ่งขึ้น
ขณะที่ นายพินิจ ประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีนและส่งเสริมความสัมพันธ์ กล่าวว่า ประเทศไทยและประเทศจีน ได้เข้าสู่ยุคปลอดวีซ่า ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของมิตรภาพที่ยาวนาน และความไว้วางใจซึ่งกันและกันระหว่างทั้งสองประเทศ
“จีนและไทยเป็นครอบครัวเดียวกัน และกำลังใกล้ชิดกันมากขึ้นในทุกๆ วัน ผมเพิ่งไปเยือนปักกิ่งเมื่อไม่นานมานี้ และก็สัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าจีนกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
ภาพยนตร์จีนได้แสดงถึงภาพลักษณ์ของจีนในยุคใหม่อย่างครอบคลุม ในรูปแบบสามมิติและมีชีวิตชีวา ผมหวังว่าทุกคนจะได้ไปเยือนประเทศจีนด้วยตนเอง เพื่อสัมผัสกับบรรยากาศและรูปลักษณ์ใหม่ของ จีนในยุคใหม่” นายพินิจกล่าว
ด้าน นพ.สุรพงษ์ ประธานกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ กล่าวว่า ในฐานะตัวสื่อของซอฟต์พาวเวอร์ร่วมสมัยที่สำคัญ ภาพยนตร์ได้ก้าวข้ามขอบเขตของศิลปะและกลายเป็นสะพานเชื่อมโยงวัฒนธรรมที่แตกต่างและส่งเสริมความเข้าใจซึ่งกันและกัน เทศกาลภาพยนตร์จีน ณ กรุงเทพฯ รวบรวมภาพยนตร์จีนและภาพยนตร์ไทยที่โดดเด่น ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างทั้งสองประเทศ กระชับความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างไทยและจีน สร้างความผูกพันทางอารมณ์และความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ
ด้าน หลี่ เสี่ยวหมิง รองเลขาธิการคณะกรรมการเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติปักกิ่ง กล่าวว่า ภาพยนตร์ในฐานะสื่อกลางที่สำคัญของการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม เป็นหน้าต่างให้ผู้คนจากทุกประเทศเข้าใจซึ่งกันและกัน หวังว่าเทศกาลภาพยนตร์จีน ณ กรุงเทพฯ จะส่องสว่างเส้นทางแห่งความก้าวหน้าและการพัฒนาร่วมกันด้วยแสงแห่งการแลกเปลี่ยนอารยธรรมและการเรียนรู้ร่วมกัน ส่งเสริมความร่วมมือจีนไทยในหลากหลายสาขารวมทั้งในด้านภาพยนตร์ให้บรรลุผลสำเร็จมากขึ้น มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันต่อความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนทั้งสองประเทศและทั่วโลก
ทั้งนี้ หลังจากพิธีเปิด ได้มีการภาพยนตร์เรื่อง “Successor” ภาพยนตร์เรื่องนี้สำรวจเรื่องราวของความสัมพันธ์ในครอบครัวและการเติบโตของคนรุ่นต่อไปในรูปแบบที่เบาสมองและตลก ในขณะเดียวกันภายใต้เสียงหัวเราะก็ทำให้ผู้ชมอดไม่ได้ที่จะคิดถึงปรากฏการณ์ทางสังคมและปัญหาที่ฝังลึกในสังคม
โดยเทศกาลภาพยนตร์จีน ณ กรุงเทพฯ ในปีนี้ได้คัดเลือกภาพยนตร์ยอดเยี่ยม 5 เรื่อง ได้แก่ “Successor” “Day Dreaming” “YOLO” “Endless Journey” และ “Decoded” เป็นการผสมผสานระหว่างการผ่อนคลายและความจริงจัง การสัมผัสทางอารมณ์และการวิพากษ์วิจารณ์ ทำให้ผู้ชมไม่เพียงแต่ได้รับประสบการณ์การรับชมที่หลากหลายเท่านั้น แต่ยังรวมเป็นการเดินทางทางจิตวิญญาณด้วย
นอกจากนี้ เทศกาลภาพยนตร์จีน ณ กรุงเทพฯ ในปีนี้ยังได้เปิดตัวสามหมวดใหม่ ได้แก่ “กวงหยิ่งถงเฉิง” “ภาพยนตร์ศิลปะ” และ “มิตรภาพจีน-ไทย” ในหมวด “กวงหยิ่งถงเฉิง” ได้ร่วมกับคณะกรรมการเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติปักกิ่ง ฉายภาพยนตร์นานาชาติปักกิ่ง 2 เรื่อง “Chang An” และ “G for Gap” ให้ผู้ชมชาวไทยรับชมฟรี ซึ่งภาพยนตร์สองเรื่องนี้ได้รับรางวัลจากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติปักกิ่ง นำภาพยนตร์ที่มีคุณภาพสูงมาสู่ผู้ชมชาวไทยมากขึ้น หมวด “ภาพยนตร์ศิลปะ” ได้ร่วมมือกับโรงละครแห่งชาติจีนเพื่อฉายภาพยนตร์ศิลปะ 2 เรื่อง ได้แก่ ละครเรื่อง “Lin Zexu” และละครเต้นรำ “The Railway to Xizang” โดยเน้นที่การแสดงออกอันเป็นเอกลักษณ์ของภาพยนตร์ศิลปะของจีน
หมวด “มิตรภาพจีน-ไทย” ได้ร่วมมือกับบริษัทภาพยนตร์ GDH 559 และนำ “หลานม่า” ภาพยนตร์ยอดฮิตของไทยในปีนี้ ที่ทำรายได้ทะลุบ็อกซ์ออฟฟิศและมีชื่อเสียงเป็นอย่างมากทั้งในประเทศไทยและประเทศจีน โดยจะกลับมาฉายอีกครั้ง ในโรงภาพยนตร์ให้ผู้ชมชาวไทยได้สัมผัสถึงความเชื่อมโยงที่ใกล้ชิดระหว่างวัฒนธรรมจีนและไทย พร้อมทั้งผลักดันมิตรภาพระหว่างจีนไทยให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
สำหรับ เทศกาลภาพยนตร์ในครั้งนี้ ยึดถือวัตถุประสงค์ในการออกสู่สาธารณะชนและเผยแพร่เสียงของประเทศจีน สานต่อแนวปฏิบัติเดิมโดยจะมีการฉายพร้อมกันที่หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) โรงภาพยนตร์เอส เอฟ ซีเนม่า และมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เพื่อให้ชาวไทย โดยเฉพาะคนวัยหนุ่มสาวได้เข้าใจประเทศจีน สัมผัสประเทศจีนและหลงรักประเทศจีนผ่านภาพยนตร์เหล่านี้