“จริงๆ ไม่ได้รับงานพิธีกรมานานมากแล้วนะครับ” นักแสดงคนดัง ป๋อ ณัฐวุฒิ สกิดใจ ซึ่งได้ตอบรับเป็นพิธีกรรายการโทรทัศน์ชื่อ ‘The Best of All เลขระทึกโลก’ ที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ที่ออกอากาศทุกวันเสาร์ เวลา 18.20 น. บอกกับ ‘มติชนออนไลน์’
ก่อนให้เหตุผลของการไม่ได้รับ ว่า “เพราะอยากจะมุ่งมั่นกับสิ่งที่ตัวเองรัก นั่นคือการแสดง เลยพยายามตัดอย่างอื่นออกไปหมดเลย อยากทำการแสดงไปให้สุด”
หากพอได้รับการติดต่อจากทีมงาน ได้พูดคุยเกี่ยวกับรูปแบบรายการ “มันอดใจไม่ได้” เขาสารภาพลางหัวเราะเบาๆ
“อยากลองทำ”
“เพราะว่าด้วยไซซ์ของโปรดักชันคือระดับบิ๊ก จัมโบ้ ด้วยความที่เขาเป็นระดับโลก เป็นรายการที่ซื้อมาจากประเทศอิสราเอล ที่เป็นเจ้าแห่งเกมโชว์เหมือนกัน แล้วประเทศนี้เป็นประเทศที่ชอบเกี่ยวกับคำนวณ มีนักฟิสิกส์ คณิตศาสตร์ระดับโลก เพราะฉะนั้นเขาจะชอบเรืองเกี่ยวกับตัวเลข เกี่ยวกับการคำนวณ”
ซึ่งน่าจะเหมาะกับคนไทยที่ก็ชอบๆในเรื่องนี้อยู่
ขณะเดียวกันเขายังรู้สึกว่า รายการซึ่งถูกซื้อลิขสิทธิ์ไปผลิตในหลายประเทศแล้วนั้น ยังมีความเป็นที่สุดในอีกหลายเรื่อง ทั้งในแง่จำนวนผู้เข้าแข่งขันที่แต่ละครั้งมีมากถึงระดับ 1,000 ถึง 1,500 คน จนเวลาจะบันทึกเทปแต่ละครั้งต้องไปทำกันที่สนามกีฬาอินดอร์ สเตเดียมหัวหมาก เนื่องจากไม่มีสตูดิโอที่ใหญ่พอจะรองรับ
ไม่เพียงเท่านั้นยังมีความเป็นที่สุดของเหล่าคนดังซึ่งจะมาร่วมรายการ ที่ตั้งเป้าเอาไว้ว่า จะคัดในระดับชั้นนำ ซึ่งไม่จำกัดเฉพาะกลุ่มดาราซุปเปอร์สตาร์ของช่องเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงในส่วนของพิธีกร ผู้ประกาศ นักกีฬา และบุคลในสาขาวิชาชีพต่างๆ
รวมไปถึงเรื่องของเงินรางวัลที่เตรียมไว้ให้ถึง 4,000,000 บาท
กับการหวนมาเป็นพิธีกรอีกครั้งในรอบ 8 ปี ป๋อบอกว่า เขาต้องเคาะสนิมเยอะมาก เนื่องจากพักหลังคุ้นชินแต่กับการแสดง ซึ่งจะว่าไปแล้ว 2 หน้าที่นี้แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
“เวลาทำการแสดง เราจะรู้สึกว่าเราอยู่กับตัวเรา เล่นกับบทของเรา กับคาแรคเตอร์ของตัวละคร แทบไม่มองกล้องเลย แต่งานพิธีกรทุกอย่างตรงกันข้ามกับสิ่งที่พูดไปทั้งหมด”
“เราต้องสื่อสารกับกล้อง และต้องสื่อสารกับผู้ชม กับ 1,500 คนที่เข้าร่วม ต้องเทคแคร์แขก รวมทั้งแขกรับเชิญที่อยู่บนเวที ที่เป็นเหล่าซุปเปอร์สตาร์อีก 7 ด้วยตัวเราคนเดียว และต้องเอาให้อยู่”
ดังนั้นโปรดอย่าได้ถามว่ายากขนาดไหน?
“มันมีอุปสรรคความยาก” เขาบอก
“แต่สิ่งที่เราได้รับกลับมา คือประสบการณ์ที่ดี ความประทับใจที่เกิดขึ้นมากมาย แล้วก็ได้เห็นอีกอย่างหนึ่งว่า ในทุกเงินรางวัลมันไม่ใช่แค่คนที่ได้จะรู้สึกชนะ แล้วเฮ”
“แต่เงินเหล่านี้มีความหมายกับคนที่มาเล่นเกมนี้จริงๆ บางคนมาเล่นเพื่อปลดหนี้ คนที่เขาต้องการเงินจริงๆก็มี จึงมีความสุขที่ได้สานฝัน ได้เป็นส่วนหนึ่งของการช่วยเหลือ”
ดังนั้นเมื่อมองให้ลึกลงไป เขาจึงเห็นว่า “ภายใต้การเล่นเกมส์มันก็มีเรื่องราวของชีวิตปะปน”
คนเป็นพิธีกรยังบอกอีกว่า ถึงตอนนี้แม้จะถ่ายทำรายการมาได้หลายเทปแล้ว แต่สำหรับตัวเอง “ยังไม่พอใจนะครับ”
ยังไม่ชอบเสียงของตัวเองนัก รวมถึงอะไรต่ออะไรของตัวเองอีกนิดหน่อย
“แต่คิดว่าทุกคนต้องมีจุดเริ่มต้น”
และ “ข้อผิดพลาดมันทำให้เรารู้สึกสนุกในการปรับปรุงตัวที่จะทำให้เราดีขึ้น”
“เราไม่ชอบในการที่จะเป็นคนสมบูรณ์แบบ แล้วอยู่บนยอดเขาโดยที่ไม่มีความท้าทายอะไรแล้ว ชอบที่จะเดินทางขึ้นเขาที่มีปัญหา อุปสรรคเยอะแยะ และพยายามจะเดินต่อไปให้ถึงยอดเขาให้ได้ ในมุมของเราบทบาทพิธีนี้จึงยังมีอีกหลายจุดที่ต้องพัฒนา”
และเมื่อถามว่า ได้ตั้งความหวังอะไรไว้ กับงานใหม่ ในบทบาทพิธีกรนี้ เขาก็ตอบทันที
“บอกตามตรงว่าคาดหวังนะครับ แต่ไม่ได้มุ่งหวังว่าเราจะเดินไปถึงไหน เพียงแต่คาดหวังอยากให้คนชอบ เพราะเราและทีมงานตั้งใจ อยากให้เป็นรายการมหาชน เป็นรายการครอบครัวที่ดูกันได้ทุกคน ร่วมเล่นเกมกันได้ทุกคน”
“อยากมอบความสุขให้แฟนๆช่อง 3”
ผ่านรายการ ‘The Best of All เลขระทึกโลก’ รายการนี้