หวานชื่นที่สุดในตอนนี้คงหนีไม่พ้น นางเอกสาว เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ ที่หวานใจ มิกกี้ นนท์ อัลภาชน์ ณ ป้อมเพชร เพิ่งคุกเข่าขอแต่งงานที่อเมริกาไปหมาดๆ ล่าสุดเจ้าตัวมาร่วมงานเปิดตัว ซัมซุง คิว แอลอีดี ทีวี ที่ เกษร เออร์เบิน รีสอร์ท ก็ได้เผยถึงเหตุการณ์วันที่ฝ่ายชายเซอร์ไพรส์ว่า ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ ตามความรู้สึกของตนไม่ได้มีการประดิษฐ์แต่อย่างใด
“ไม่รู้ค่ะ ว่าจะโดนเซอร์ไพรส์ค่ะ ถ้ารู้ตัวคงแต่งหน้า และคงไม่ใส่รองเท้าแตะ ตอนนั้นคือไปทะเลกัน”
ก่อนจะเล่าสถานการณ์ตอนนั้นให้ฟังว่า
“ตอนนั้นหูอื้อมากเลยค่ะ เหมือนกับประมาณว่าเจนี่ปวดท้องแล้วเจนี่ก็เดินไปบอกว่าขอเข้าห้องน้ำหน่อยนะไม่ไหวแล้ว เขาก็บอกว่าดูดอกไม้สิ แล้วเราก็บอกว่าดูทำไมของคนอื่นอย่าไปยุ่ง เราก็ชวนเขาไปที่อื่น เขาก็เลยคุกเข่าลงไป เจนี่ก็เริ่มหูอื้อแล้ว คือมิกกี้เขาเตรียมไว้ตั้งแต่กรุงเทพกับเพื่อนที่อเมริกาและไทย”
“ก็ตอนนั้นมันหูอื้อ มันก็ด้วยความซึ้ง ด้วยอะไรหลายๆอย่าง ก็เลยตอบตกลง ”
ทั้งยังว่ากับทริปนี้ตนไม่ได้คิดหรือคาดหวังอะไรไว้ ไม่อยากเข้าข้างตัวเองว่า เดี๋ยวมันจะต้องมีอะไร เพราะทริปนี้ตนวางแผนกันตั้งแต่ทีแรกแล้ว ปกติปีหนึ่งตนจะต้องไปอเมริกา
และอย่างที่หลายคนรู้ว่าจากความรักครั้งที่ผ่านมาไม่ได้สวยงามนัก การตัดสินใจครั้งนี้ไม่ใช่แค่มิกกี้คนเดียว
“การที่เจนตัดสินใจจะใช้ชีวิตกับใครสักคน ในอนาคตมันก็ค่อนข้างเป็นอะไรที่ลำบากใจสำหรับเจนี่มาก เพราะว่าคือเป็นชีวิตของเจนี่ทั้งชีวิตจริงๆ”
“แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่เจนี่ตัดสินใจครั้งนี้เลยคือแม่ของมิกกี้ แม่ได้มีการพูดคุยกับเจนี่ไว้ก่อนที่จะถูกขอแต่งงาน เพราะฉะนั้นมันก็เลยทำให้เจนี่ รู้สึกอุ่นใจ”
รวมไปถึง “เราจะรู้สึกว่าเราปลอดภัยทางความรู้สึก”
“เรารู้สึกว่าความรักของคุณแม่มันเป็นอะไรที่ครบ ทั้งความเข้าใจ ความรัก ทำให้เจนอบอุ่น และเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเขาด้วย ตัวเราเองไม่อยากให้มีปัญหาอะไร หรือจะต้องให้อดีตมาทำร้ายปัจจุบันและสถาการณ์ที่เป็นอยู่”
เมื่อถามว่าวันแต่งงานใช่เดือนตุลาคมตามข่าวหรือไม่ เจนี่ก็ว่า
“ไม่ใช่ว่าเราไม่อยากพูดนะ แต่ว่าการที่เราจะพูดอะไรมันต้องระวัง คือมันต้องเกิดก่อน เราเชิญพี่ๆแน่นอน แต่ได้ฤกษ์แล้ว”
หากใครจะมองว่าใช้เวลาดูใจน้อยไปนั้น เจนี่ก็ว่าระยะบางครั้งมันเป็นเรื่องของคนสองคน รวมถึงเรื่องอายุที่ต่างกัน
“ตัวเราเองก็คิดว่าคนที่อายุน้อยกว่าจะมีความคิดหรือประสบการณ์ที่เท่ากับเราหรือเปล่า แต่กลายเป็นว่ามิกกี้เขาโตกว่าเราด้วยซ้ำ”
“ความคิดและวิธีการ วางแผนจัดการชีวิต ที่เป็นระบบ เพราะฉะนั้นเจนี่ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง อาจเพราะเราและเขาเกิดโต ที่อเมริกา เลยมีความคิดแบบเดียวกัน”
“เจนี่ไม่อยากคาดหวัง เราชิว อะไรจะเกิดก็คือเกิด เจนี่ทำวันนี้ให้มันมีความสุข ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน”