พอถามถึงงาน ว่านับจากนี้แฟนๆจะเห็นเขาแสดงละครเรื่องอะไรบ้าง บิ๊ก ศรุต วิจิตรานนท์ ก็ทั้งที่ว่า ที่แน่ๆมีอาทิ ‘สายโลหิต’ , ‘พ่อตาปืนโต’ , ‘ไดมอนด์ อาย’ , ‘ริมฝั่งน้ำ’ และอีกต่างๆที่จะตามมา
“แต่ว่าแต่ละเรื่องจะจุ๊บจิ๊บ ไม่เยอะ” บิ๊กบอก
ครั้นทักว่างานแน่น บิ๊กก็บอก ความจริงก็ประมาณนี้มาทุกปีแหละ “เพียงแต่ว่าปีนี้มีคนสนใจเรามากขึ้น มีคนติดตามเรามากขึ้น เลยเหมือนกับจะเห็นเรามากขึ้น”
“แต่ทุกๆปีก็ประมาณนี้แหละ” เขายืนยัน
บิ๊กซึ่งทำงานละครควบคู่ไปกับการเล่นดนตรีตอนกลางคืนกับวงของเขาและเพื่อนพ้อง บอกด้วยว่า ถึงตอนนี้บท ‘พระเพทราชา’ ในละคร ‘บุพเพสันนิวาส’ อันโด่งดังนั้นยังส่งผล
“เหมือนกลับมาเปรี้ยงปร้างอีกครั้งหนึ่ง”
“ซึ่งสมัยก่อนถามว่าเคยเป็นแบบนี้ไหม ก็คิดว่าไม่เคยถึงขนาดนี้นะ ครั้งนี้เป็นอะไรที่เยอะที่สุดในชีวิตแล้ว”
กับชื่อเสียงและต่างๆนานาที่ถาโถมนั้น บิ๊กว่า เขาก็รับมือไปตามสภาพ
“ก็ทำเหมือนเดิม คือก่อนที่จะมีวันอย่างนี้ เราเคยทำอะไรมา เราก็เป็นอย่างนั้น ผมเชื่อว่าความเสมอต้นเสมอปลาย ความที่เราเคยทำงานมาอย่างไร เราตั้งใจอย่างไร วันนี้มันส่งผล คือผมไม่ใช่เพิ่งมาตั้งใจทำงานในเรื่องบุพเพฯ แค่เรื่องเดียว แต่ทำอย่างนี้มาเป็นสิบปีแล้ว และก็คงทำแบบนี้่ต่อไป รักษาความเป็นแบบนี้ ไม่ให้แย่ไปกว่านี้ ให้มันอย่างนี้ดีที่สุด หรือไม่ก็ทำให้มันดีขึ้นๆ”
เขายังว่า สำหรับเขาแล้ว “การมีชื่อเสียงมันเป็นเรื่องดี ถ้าคุณใช้ชื่อเสียงของตัวเองทำในสิ่งที่ดี แต่มันก็มีตัวอย่างให้เห็นหลายๆอัน ที่มีชื่อเสียงมาจากสิ่งไม่ดี หรือเอาชื่อเสียงไปทำในสิ่งที่ไม่ดี ซึ่งอันนั้นผมว่าเดี๋ยวนี้มันไว ไม่ต้องรอบาปกรรมชาติหน้า ด้วยความที่ตอนนี้เรามีโซเชียลมีเดีย แป๊บเดียวมันก็ฟ้องออกมาหมดแล้ว”
“ความมีชื่อเสียงของผม ผมรู้สึกว่ามันนำพาหลายๆอย่าง คนให้ความสนใจ เหมือนเรามีอะไรอยู่กับตัวมากกว่าคนอื่น”
ซึ่ง “ผมเคยผ่านมาหมดแล้ว ทั้งการตกลงมาที่สุด และขึ้นมาที่สุด”
“อยู่ในวงการนี้มันมีทั้งขึ้นทั้งลง ผ่านมาในชีวิตเยอะแยะไปหมด สิ่งที่เรียนรู้คือเราจะทำอยงไรให้สิ่งที่เกิดขึ้นนี้อยู่กับเราไปนานๆ และสิ่งเดียวที่ทำได้คือความดี และความมีวินัยกับการทำงาน ความรับผิดชอบและซื่อสัตย์ต่ออาชีพ อันนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ถ้าเราไม่มีตรงนี้ สิ่งพวกนี้ก็จะอยู่กับเราไม่นานหรอกครับ แป๊บเดียวก็ไปแล้ว เพราะคนเราหล่อ ก็หมดหล่อ สวยก็หมดสวยได้ แต่ความดี ความมีวินัย ความซื่อสัตย์ต่องานไม่มีวันหมด มันอยู่กับเราไปตลอดชีวิต”
แม้จะพูดแบบ ‘เข้าใจ’ อย่างนี้ แต่บิ๊กก็ว่า ก่อนหน้านั้นเขาเองก็เคยใช้ชื่อเสียงไปในทั้ง 2 ด้าน 2 แบบ
ทั้ง “ใช้ชื่อเสียงของตัวเองไปทำในสิ่งที่ดี”
ขณะเดียวกัน “ใช้ชื่อเสียงของตัวเองไปคึกคะนองกับมันก็เคยเป็น”
“แต่ว่าตอนนี้ทุกอย่างมันกลับมาหาเราอีก โดยที่ไม่ได้คาดหวังมาก่อน มันทำให้เรามีประสบการณ์ มีวุฒิภาวะ มีวัยวุฒิ ทำให้เราคิดได้และคิดเป็น แล้วก็รักษามันเป็นมากกว่าเมื่อก่อน”
ถึงตอนนี้บิ๊กบอกว่า เขาเองไม่ได้ตั้งเป้าว่าจะทำงาน อยู่ในวงการไปอีกนานขนาดไหน
“ทำงานไปเรื่อยๆ ทำจนกว่าจะไม่มีใครจ้าง ทำจนกว่าจะไม่มีแรงทำ”
“บอกไม่ได้เลยว่าอีกกี่ปี เพราะตอนนี้เราไหว แล้วเราก็รัก มันเป็นอาชีพมา 20 กว่าปี”
ที่คิดไว้ในใจ จึงเป็นว่า “วันหมดอายุก็คือวันที่ไม่มีแรงทำแล้ว”
