“พี่บอย (ถกลเกียรติ วีรวรรณ) ชวนทำรายการเลทไนท์อยู่นาน”
ด้วยเหตุนั้นหลังคิดไปคิดมา ป๋อมแป๋ม นิธิ ชัยชิตาทร จึงตัดสินใจยกรายการ ‘ทอล์ก-กะ-เทย ทูไนท์’ ที่เคยออกอากาศทางช่องจีเอ็มเอ็ม 25 อยู่หลายปี มาแพร่ภาพทางช่องวัน 31 ทุกวันพุธ เวลา 22.45 น. พร้อมเปลี่ยนชื่อใหม่ ใช้ ‘ทอล์ก-กะ-เทย ONE NIGHT’
เหตุผลนั้นเขาว่าไม่เกี่ยวกับการที่ ฉอด สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา ย้ายออกจากช่องจีเอ็มเอ็ม 25 อย่างที่บางคนลือ
“ไม่ๆ ไม่เกี่ยวเลย เป็นแพลนที่วางไว้นานแล้ว เวลาดันประจวบเหมาะ”
แต่เพราะมีความเหมาะสมหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือ “มันจะตลกถ้าจะมีรายการทอล์คโชว์เหมือนกันอยู่ 2 ช่อง“
นอกจากนั้นยังรู้สึกว่า รายการทอล์คโชว์ไม่ควรอยู่ตอนสามทุ่มครึ่ง อย่างที่เคยเป็นอยู่
“ถ้าทำในช่วงเวลานั้นจะมีบางอย่างที่เรารู้สึกว่าเด็กยังไม่หลับ คราวนี้ทางช่องวันให้เวลาที่เราคิดว่าเหมาะกับรายการ” คนทำรายการที่จัดอยู่ในหมู่ 18 + บอก
ขณะเดียวกันเมื่อคิดรูปแบบรายการใหม่ที่น่าจะเหมาะกับช่องจีเอ็มเอ็ม 25 ได้อีกรายการ -ก็ลงตัวกับทุกฝ่าย
กับทอล์ก-กะ-เทย ONE NIGHT ที่ออกอากาศได้ดึกขึ้น ป๋อมแป๋มว่า ก็จะมีความฉูดฉาดและเปรี้ยวขึ้น
ด้วยที่ผ่านมา อย่างที่ว่ามีเวลาเป็นตัวกำกับ แต่ “บางครั้งการสนทนาก็มีการออกรสออกชาติ การมารายการของศิลปินชายจริงๆ เขามักจะไม่คิดว่ามารายการกะเทย คิดว่ามารายการของคนปากหมาเหมือนกัน ก็ใส่กันเต็มที่ อยู่เวลาเดิมก็มานั่งดูดคำกัน” ป๋อมแป๋มเล่าพลางหัวเราะ
แต่กับเวลาใหม่ คงไม่ต้องระวังหนักอย่างนั้น
ส่วนกับรายการใหม่ให้ช่องเก่า ที่คราวนี้เขาจะรับหน้าที่โปรดิวเซอร์ ป๋อมแป๋มก็ว่า น่าจะออกมาดี
“ตั้งแต่ไม่ได้ทำเทย (เทยเที่ยวไทย) เหมือนมีเวลาคิด ความตั้งใจเราคืออยากทำอะไรใหม่ๆ”
พอมีเวลาจึงไม่พลาดที่จะลงมือ
เมื่อถามคนช่างคิดว่า สารพัดไอเดียน่ะ มาจากไหน?
วงปาร์ตี้ สังสรรค์คือสิ่งที่เขาตอบ
“หลายครั้งเวลาเจอเพื่อนจะนั่งฟุ้ง” ป๋อมแป๋มเล่าพลางหัวเราะ
บอกด้วยว่าจากร้อยหรือพันเรื่องที่ฟุ้งไปมา หลายอย่าง เฮ้ย! ดี เขาก็จะจดไว้แล้วเอาไปต่อยอด หรือไม่ถ้าดีมากๆ ก็อาจยกหูหาฝ่ายการตลาดเพื่อหารือทันควัน
รายการ ‘ก็กูทำไม่เป็น’ทางไลน์ ทีวี ก็มาจากการนี้
“นั่งคุยสัพเพเหระว่าคนนี้ไปเรียนอันนี้มา แล้วบ่นว่าทำไมทำไม่ได้ ก็ได้บทสรุปว่า หรือเรายังไม่ตั้งใจทำมากพอ เลยมาต่อยอด”
คอนเทนท์ใน ‘เทยเที่ยวไทยแฟร์’ ก็เช่นกัน
เขายังว่าคิดๆไปแล้ว สาเหตุที่ได้อะไรดีๆบ่อยจากวงสังสรรค์นี้น่าจะเป็นเพราะ “เวลาคุย มันจะเกิดทั้งการพูดและการฟัง เป็นการแลกเปลี่ยน และถ่ายโอนข้อมูล
ต่างจากตอนอยู่คนเดียว ที่บางครั้งแม้พยายามจะคิด แต่ก็ไม่เกิดไอเดียอะไร
“ในหัวเราอาจไม่ได้มีอะไรใหม่มากพอ ก็คิดวนๆ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจากการไปคุยกับเพื่อน เราพูด เพื่อนพูด เราฟัง มาชนกัน เลยเกิดแรงพุ่ง”
จากวงสังสรรค์อันหรรษาก็เลยพาให้เกิดงาน ดังที่เห็น
