คว้ารางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยม ในงานประกาศผลรางวัลนาฏราช ครั้งที่ 9 ประจำปี 2560 ที่เพิ่งมีการประกาศผลในวันนี้ ( 5 สิงหาคม) แล้ว อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง ก็ให้สัมภาษณ์ว่ารู้สึกดีใจมาก ขณะเดียวกันก็คิดเสมอว่ารางวัลที่ได้ไม่ใช่เป็นรางวัลเฉพาะตน แต่ถือเป็นเกียรติและกำลังใจให้ทีมงานทุกคน
“ไม่ใช่แค่ผมคนเดียว ผมไม่เท่าไหร่หรอก ทีมงานสำคัญที่สุด รางวัลนี้ทุกคนในทีมงานผมได้ถ่ายรูปด้วย เพราะเป็นรางวัลของการทำงานร่วมกัน ผมมีความเชื่อว่างานกำกับของผมมันถ่ายทอดผ่านการทำงานของทุกคน ไม่ใช่ว่าเราต้องการและเราเก่งคนเดียว ผมยืมมือคนเก่ง ยืมเท้า ยืมความคิด ยืมการทำงานของเขามา และรวบรวมเอามาเป็นชิ้นงาน”
“ทีมงานผมดี ทุกคนพอได้รับมอบหมายให้ทำงานแล้ว เขาคิดเยอะมากกว่าทำเพื่อเงิน หรือมากกว่าทำให้ผ่านไปวันๆ เขามีการบ้านมาส่งทุกวัน เราก็นั่งคุยกัน เถียงกัน ถกกัน ดังนั้นต้องให้ความสำคัญกับทีมงานด้วย”
พงษ์พัฒน์ยังบอกอีกว่าแม้เขาจะได้รางวัลนี้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเก่งกว่าคนอื่น
“ศิลปะมันวัดไม่ได้นะว่าใครดีกว่า ใครเก่งกว่าใคร ก็ไม่มีใครทำเรื่องรากนคราในปีนี้ เราเจ้าเดียวที่ทำ ถ้าทำเรื่องเดียวกันแล้วมาแข่งกัน ยังพอวัดกันได้ ทุกคนก็ทำงานศิลปะที่แตกต่างกันไป ละครแต่ละเรื่องไม่ได้หมายความว่าเรื่องนึงดีกว่า หรือไม่ดีกว่า ผู้กำกับก็เหมือนกัน ไม่ใช่ว่าผู้กำกับคนนี้เก่งกว่า หรือไม่เก่งกว่าเพียงแต่ว่ากรรมการชอบใครมากกว่า เราไม่ได้มีอำนาจในการตัดสินรางวัลตรงนั้น ดังนั้นหน้าที่ของเรา ผมเชื่อว่าทุกคนคิดเหมือนกันคือทำให้ดีที่สุด ได้ ไม่ได้ อีกเรื่องนึง ใครก็อยากได้รางวัล เพียงแต่ว่า ณ วินาทีที่เราทำงาน เราตั้งใจทำให้ดีที่สุด อันนี้สำคัญกว่า และสำคัญที่สุดคือต้องมีความสุขในการทำงาน”
“มันไม่มีที่ 1 บนโลกของศิลปะ ไม่มีใครเก่งกว่าใคร มีแต่ใครชอบ ไม่ชอบ และคนที่ชอบมีอำนาจในการตัดสินรางวัลก็จะมอบให้สิ่งที่ตัวเองชอบ”
“ศิลปะมันเท่ากันหมด ในความเป็นศิลปินทุกคนมีคุณค่าเท่ากัน และชิ้นงานของพวกคุณแต่ละคนผมเชื่อว่ามีคุณค่าในตัวเองทั้งนั้น ไม่ได้ต่างกัน เพียงแต่ว่าใครได้เท่านั้นเอง ใน 1 ปีนี่ละคร 40-50 เรื่อง 100 เรื่อง ผมว่าคุณค่าทางศิลปะมันเท่ากัน สำคัญที่สุดคุณจะรู้คำตอบเอง ว่าในขณะที่คุณทำงานคุณชุ่ย ไม่ชุ่ย คุณตั้งใจ ไม่ตั้งใจ และคุณมีความสุขกับมันไหม มันมีคำตอบอยู่แล้วครับ”
“ในความเป็นศิลปินผมยังนิยมชมชอบและชื่นชมกับชิ้นงานของเพื่อนๆเราทุกคน ใครจะขึ้นมารับก็ช่างมันเถอะ”
กับรางวัลต่างๆที่ได้มา พงษ์พัฒน์บอกว่าเขาไม่ยึดติด
“ได้รางวัลปุ๊บ สิ่งแรกที่ผมทำคือถวายรางวัลนี้ให้กับเสด็จพ่อร.5 ทุกครั้ง เพราะฉะนั้นก็ไม่ใช่รางวัลเราแล้ว พอถวายให้ท่าน รางวัลก็ไม่ใช่ของเรา ก็ไม่ต้องไปยึดติด เพราะวันรุ่งขึ้นเราก็ต้องทำงานชิ้นใหม่ ที่ไม่รู้ว่าคนจะชอบไหม กรรมการชอบไหม จะได้รางวัลอีกไหม มันเปลี่ยนแปลงไปได้เรื่อยๆ อย่าไปยึดติดมัน”
